"กิเลนเจ้าสัว" อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด นำก่อนจากการซัดด้วยซ้ายของศูนย์หน้าตัวเป้า ผดุงเกียรติ อาจคิดการ ก่อนโดน "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ตามตีเสมอจาก วินัย เอี่ยมโอด ช่วงท้ายเจ้าบ้านเหลือ 10 คน แต่ยังยันจนจบ เสมอกันไป 1-1 พร้อมการคว้าอะเวย์โกลกุมความได้เปรียบของทีมเยือนจากแดนอีสาน ศึกฟุตบอลยู-19 โค้กคัพ รอบตัดเชือกเกมแรก 

 

 

     การเเข่งขันฟุตบอลเยาวชนชิงชนะเลิศเเห่งประเทศไทย รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี "โค้กคัพ" ครั้งที่ 21 รอบรองชนะเลิศ แข่งในระบบเหย้า-เยือน โดยเมื่อวันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา ที่สนามโรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี เป็นการชิงชัยแมตช์แรก ระหว่าง "กิเลนเจ้าสัว" อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด แชมป์โซนภาคตะวันตก ที่เอาชนะ อาร์มี่ ยูไนเต็ดมาได้ด้วยผลประตูรวม 2-1 ในรอบก่อนรองฯ พบกับ "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์เก่าครั้งที่ 20 และแชมป์โซนภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ที่เชือด เชียงใหม่ เอฟซี มาด้วยประตูรวม 3-1 

 

รายชื่อผู้เล่น 11 คนแรกของ อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด ประกอบด้วย พิชชา อารมย์เอื้อ (ผู้รักษาประตู), วุฒิชัย คุ่มเคี่ยม, ปกรณ์เกียรติ แข้นา (กัปตันทีม), วัชรกร บุณยะยุต, ธนายุทธ์ จันนา, ผดุงเกียรติ อาจคิดการ, ธนา อิซอ, พชรดนัย เขตต์ปรุ, ไพเราะ สงฤทธิ์, วรวุฒิ ศรีสวัสดิ์ และ ศุภพล สุทธิศักดิ์

 

ขณะที่ 11 คนแรกของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ประกอบด้วย นพพล ละครพล (ผู้รักษาประตู), ธนิศร ไพบูลย์กิจเจริญ, กิตติชัย ใยดี, ธีรภักดิ์ เปรื่องนา, ภัทร สร้อยมาลัย, ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา (กัปตันทีม), เกียรติศักดิ์ หาญเสนา, บดินทร์ สระแก้ว, กฤตภาส วิชัยดิษฐ, วินัย เอี่ยมโอด และ นวพรรษ เทียนชัย

 

เจ้าบ้านพยายามโยนบอลเร็วหนีการเช็กล้ำหน้าทีมเยือนบุรีรัมย์อยู่หลายครั้ง จนกระทั่งในนาทีที่ 15 อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด ก็สำเร็จผลเมื่อได้โอกาสสวนเร็วกลางสนามและเป็น พชรดนัย เขตต์ปรุ ที่โยนบอลโด่งไปข้างหน้าก่อนให้กับ ผดุงเกียรติ อาจคิดการ ศูนย์หน้าตัวเป้าของทีมสปีดหนีการประกบของกองหลัง ก่อนจะวิ่งเข้าไปซัดด้วยซ้ายสวนตัวผู้รักษาประตู นพพล ละครพล ของบุรีรัมย์เข้าไป เจ้าบ้านออกนำ 1-0

 

นาทีที่ 23 บุรีรัมย์ตามตีเสมอเป็น 1-1 เมื่อเริ่มครองบอลบุกกดดันจนได้ลูกเตะมุมฝั่งขวา กฤตภาส วิชัยดิษฐ โยนมาเสาแรก บอลเหมือนจะไม่มีอะไรแต่ทว่า พิชชา อารมย์เอื้อ ผู้รักษาประตูของอัสสัมชัญออกมาปัดบอลพลาด บอลเลยย้อนไปเสาสองและเป็น วินัย เอี่ยมโอด ของทีมเยือนที่วิ่งเข้ามาเดี่ยวๆ กองหลังของเจ้าบ้านพยายามมาเตะสกัดแต่ไม่พ้น บอลเข้าประตูไป ทีมเยือนได้อะเวย์โกลมา 1 ลูกเป็นที่เรียบร้อย 

 

นาทีที่ 49 บุรีรัมย์ เกือบแซงนำ 2-1 เมื่อ ธีรภักดิ์ เปรื่องนา ครองบอลอยู่กราบซ้าย ก่อนหนีตัวประกบจ่ายบอลเรียดไปเสาแรกและเป็น ภัทร สร้อยมาลัย วิ่งสอดเข้ามาแปบอลหนีผู้รักษาประตูแต่บอลไปชนเสากลับมาเข้าทางผู้เล่นเจ้าบ้านสกัดทิ้งไป

 

นาทีที่ 76 เจ้าบ้านอัสสัมชัญมาเหลือผู้เล่นเพียง 10 คน จากจังหวะที่ ศุภพล สุทธิศักดิ์ ไปตัดเกมใส่ผู้เล่นของบุรีรัมย์กลางสนาม ผู้ตัดสินมองว่าเป็นลูกเจตนาทำฟาวล์ ให้ใบเหลืองใบที่ 2 แก่ ศุภพล เป็นใบแดงถูกไล่ออกจากสนามไป

 

นาทีที่ 79 บุรีรัมย์นาได้ประตูนำแบบสุดๆ เมื่อ นวพรรษ เทียนไชย พาบอลตะลุยมาทางกราบซ้ายแล้วทะลุเข้าถึงเขตโทษก่อนแตะต่อให้ อภิเดช จันทร์งาม ตัวสำรองที่ลงมากระชากหนีผู้รักษาประตู พิชชา อารมย์เอื้อ แต่จังหวะสับไกลกลับพลาดไปยิงเข้าหน้าต่างข้างประตู สกอร์ยังคง 1-1 ช่วงเวลาที่เหลือแม้ทีมเยือนบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ตัวเยอะกว่าจะโหมบุกแต่ไม่สามารถเจาะประตูทีมเยือนเพิ่มได้ หมดเวลาการแข่งขันเสมอกันไป 1-1 โดยแมตช์ที่ 2 จะกลับไปเล่นที่รังเหย้าของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ณ สนามช้างสเตเดี้ยม จ.บุรีรัมย์ ในวันที่ 19 ก.พ.63 เวลา 18.00 น.

 

หลังเกมการแข่งขัน "โค้ชธร" ธร สอระภูมิ ผู้ฝึกสอนของอัสสัมชัญ ยูไนเต็ด เปิดเผยว่า เสียดายที่ช่วงแรกเล่นดีจนทีมได้ประตูนำก่อน แต่พอโดนตีเสมอทุกคนก็เล่นแผ่วจนน่าใจหาย นัดหน้าคงต้องวางแผนกันอย่างซีเรียสสำหรับเรื่องที่ต้องปรับปรุง โดยเฉพาะเรื่องของการเสียบอลเกิดขึ้นบ่อยครั้งเกินไป และที่สำคัญคือการจบสกอร์ต้องชัวร์มากกว่านี้

 

ด้าน มร.ฌอน ลุค เซนบิวรี ผู้ฝึกสอนของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กล่าวว่า ทีมไปพลาดในช่วง 15 นาทีแรกทำให้ต้องเสียประตูแก่คู่แข่ง แต่หลังจากนั้นก็เริ่มตั้งเกมกันได้จนกลับมาทำผลงานได้ดีขึ้น ยังเสียดายนิดหน่อยถึงจังหวะจบ จริงๆ ก็ดีพอที่จะบุกมาเอาชนะ ส่วนเกมนัดหน้าคงต้องเพิ่มคุณภาพในพื้นที่สุดท้ายมากกว่านี้ ทราบดีว่าอัสสัมชัญเป็นทีมที่แข็งแกร่งแต่ยังมั่นใจว่าบุรีรัมย์จะสามารถเข้าชิงชนะเลิศได้

 

แมน ออฟ เดอะ แมตช์

ผดุงเกียรติ อาจคิดการ (อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด)