การแข่งขันฟุตบอลเยาวชนรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย รายการ ''โค้กคัพ'' รอบคัดเลือกกลุ่ม 3 โซนภาคตะวันตก ระหว่างวันที่ 1-6 ต.ค. 2562 จ.กาญจนบุรี รับเป็นเจ้าภาพ

 

อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด 3-0 อยุธยา ยูไนเต็ด

 

    โดยเมื่อวันที่ 5 ต.ค. ที่ผ่านมา ที่สนามกีฬากลางกองพล ร.9 เป็นการแข่งขันรอบรองชนะเลิศ คู่แรกเป็นการพบกันระหว่างอัสสัมชัญ ยูไนเต็ด แชมป์เก่าโซนภาคตะวันตก ทีมอันดับ 1 สายบี พบกับ อยุธยา ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 2 สายซี โดย 11 คนแรกของอัสสัมชัญ ยูไนเต็ด ประกอบด้วย สหรัฐ สวัสดี, วุฒิชัย คุ่มเคี่ยม, ปกรณ์เกียรติ แข้นา, นุชา นกดี, วัชรกร บุณยะยุค, ธนายุทธ์ จันนา, สิทธิรักษ์ เกิดขุนทอง, ธนา อิซอ, ไพเราะ สงฤทธิ์, วรวุฒิ ศรีสวัสดิ์ และ พิชชา อารมย์เอื้อ เป็นผู้รักษาประตู

 

    ขณะที่อยุธยามีผู้เล่นหลักติดโทษแบน 2 คน โดย 11 คนแรกของอยุธยา ยูไนเต็ด ประกอบด้วย สิทธิพงษ์ มาลัย, อุ้มบุญ หอบสุวรรณ, ภานุวัฒน์ ศิลาพงศ์, ธนนันท์ ก้อนทอง, ยุทธศาสตร์ ซื่อตรง, ณัฐวัฒน์ เอี่ยมใหญ่, ธนภูมิ อติวัฒนานนท์, ทิวากร เชยชูเดช, วชิรวิทย์ สายแก้ว, พชรบูลย์ จันทรวิไล และ ภัทรพงษ์ เพ็ชรจรูญ เป็นผู้รักษาประตู เริ่มมาอัสสัมชัญเป็นฝ่ายเปิดเกมบุกเข้าใส่ก่อนมีโอกาสเข้าทำ 2-3 ครั้งแต่มีจังหวะจบสกอร์ที่ได้ลุ้น จากนั้นอยุธยาเริ่มที่จะต่อบอลสู้บุกขึ้นไปพื้นที่สุดท้ายแต่ก็ไม่มีโอกาสยิง ผ่านไป 15 นาทีเป็นฝั่งแชมป์เก่าภาคตะวันตกที่ครองเกมได้ดีกว่า จนในช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก วัชรกร บุณยะยุค มาทำประตูให้อัสสัมชัญขึ้นนำ 1-0

 

    ครึ่งหลังก็ยังเป็นอัสสัมชัญที่ยังครองเกมบุกอย่างต่อเนื่องมีจังหวะเข้าทำ จนในนาทีที่ 87 อัสสัมชัญขยับเป็น 2-0 จาก ธนา อิซอ และอีก 2 นาทีต่อมาอัสสัมชัญได้ประตูปิดท้ายจากจังหวะที่ ไพเราะ สงฤทธิ์ ลากบอลขึ้นทางทางกราบซ้ายแล้วเลี้ยงจี้เข้ามาในเขตโทษและจ่ายมาให้ ธนา อิซอ ยิงเข้าประตูไปเป็นประตูที่สองของเจ้าตัวในเกมนี้ และยังเป็นประตูปิดท้ายให้อัสสัมชัญ ยูไนเต็ดเอาชนะไป 3-0 เข้าไปชิงชนะเลิศ

 

สุพรรณบุรี เอฟซี 1-1 เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด (เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด ชนะจุดโทษ 4-3 )

 

    คู่สองเป็นการพบกันระหว่างสุพรรณบุรี เอฟซี รองแชมป์โค้กคัพ ประเทศไทย ครั้งที่ 17 ทีมอันดับ 1 สายเอ พบกับเจ้าภาพ เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 1 สายซี โดยสุพรรณบุรีมีผู้เล่นติดโทษแบน 1 คน สำหรับ 11 คนแรก ประกอบด้วย ธนวัฒน์ พิมโยธา, สิทธิโชค มูลอ่อน, ธนันชัย บุตรอินทร์, ณรงค์ฤทธิ์ คำเนตร, จีรวัฒน์ ฟักสุข, สราวุฒิ สายเหวือง, ศุกภกิตติ์ ทองอนันต์, กิตติพต แดงอรุณ, ฟัตฮาน ดือระฮัง, ปฎิพัทธิ์ สารสุวรรณ และ กริชชนะ แก้วไพฑูรย์ เป็นผู้รักษาประตู

 

    ขณะที่ 11 คนแรกของเมืองกาญจน์ ประกอบด้วย ปัญญาวีร์ เต็มลา, ธนชัช โพธิ์ชา, อนุสรณ์ โพธิ์เอี่ยม, วรวุฒิ จิตมั่น, กฤษภัต อินาวัง, ธีรพัฒน์ ชาติพุก, ชินวัตร โพธิ์พัฒน์, ตะวันญา คงวงษา, อัศนี สุดจริง, ชานินทร์ ต้นพงษ์ และ เดชาพล ภัชราภรณ์ เป็นผู้รักษาประตู ในเกมนี้เป็นทางสุพรรณบุรีที่ครองบอลได้ดีกว่าต่อบอลทำเกมได้น่ากลัวมีลุ้นหลายจังหวะ ขณะที่เมืองกาญจน์ก็มีจังหวะโต้กลับที่เกือบได้ประตู จนกระทั่งในนาทีที่ 39 กองเชียร์ทีมเยือนได้เฮก่อนจากจังหวะที่ผู้รักษาประตูเมืองกาญจน์ออกมาตัดบอลพลาดแล้วเป็นทาง ศุกภกิตติ์ ทองอนันต์ ที่วิ่งขึ้นมาเก็บตกซัดบอลเข้าประตูไป สุพรรณบุรีออกนำ 1-0 

 

    ครึ่งหลังกลับเป็นทางเมืองกาญจน์ที่พับสนามบุกบวกกับเสียงเชียร์จากแฟนบอลเจ้าถิ่นที่เข้ามาชมอย่างแน่นสนามปลุกเร้าให้แข้งเมืองกาญจน์วิ่งบดเข้าใส่จนกระทั่งในนาทีที่ 78 ชินวัตร โพธิ์พัฒน์ มายิงฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษตีเสมอให้เมืองกาญจน์เป็น 1-1 จากนั้นทั้งสองทีมก็ผลัดกันรับผลัดกันรุกแต่ก็ไม่มีใครบวกสกอร์เพิ่มได้ จบเกมเสมอกัน 1-1 ต้องมาดวลจุดโทษและเป็นทางเมืองกาญจน์ ยูไนเต็ดที่แม่นโทษกว่าเอาชนะไป 4-3 เข้าไปชิงชนะเลิศกับอัสสัมชัญ ยูไนเต็ด ที่สนามกีฬากลางกองพล ร.9 ซึ่งจะเริ่มเวลา 15.00 น.