ศึก ''ไนกี้ พรีเมียร์ คัพ 2019'' ''เจ้าสัวน้อย'' อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด ออกนำก่อนแต่ไม่สุด ก่อนถูกบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไล่ตีเสมอ และต้องเล่น10 คนในช่วงท้ายเกม ก่อนพ่ายจุดโทษให้กับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 3-4 หลังเสมอกันในเวลา 1-1 สกอร์รวม 4-5 ทว่าทาง ชัชพงศ์ พูลจวง นักเตะของทีม ''เจ้าสัวน้อย'' ก็คว้ารางวัลดาวซัลโวที่ยิงไปรวม 5 ประตูปลอบใจ

 

  

    การแข่งขันฟุตบอล ''ไนกี้ พรีเมียร์ คัพ 2019'' ที่ศูนย์พัฒนาศักยภาพกีฬา ภายในมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ชิงเงินรางวัล 50,000 บาท พร้อมผลิตภัณฑ์กีฬาจากบริษัทไนกี้ (ประเทศไทย) จำกัด มูลค่ากว่า 400,000 บาท พร้อมกับ รางวัลนักเตะยอดเยี่ยม และรางวัลดาวซัลโว ประจำทัวร์นาเมนต์ เมื่อวันที่ 31 พ.ค. 62 เดินทางมาถึงรอบชิงชนะเลิศ

 

    เกมการแข่งขันคู่ชิงชนะเลิศเป็นการพบกันระหว่าง ''เจ้าสัวน้อย'' อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด ซึ่งรอบรองชนะเลิศเอาชนะ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด  6-0 พบกับทีม ''ปราสาทสายฟ้า จูเนียร์'' บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด รองแชมป์เก่าของรายการนี้ ที่รอบรองชนะเลิศเอาชนะจุดโทษเชียงใหม่ เอฟซี 6-5 หลังในเวลาเสมอกัน 1-1 

 

     โดยเกมนี้ทาง อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด นำทัพโดย กษิดิ์เดช รุ่งกิจวัฒนานุกูล, ธีร์กวิน จันทร์ศรี, สิทธา บุญหล้า ด้านบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ก็มี ฟารุต กิจจารัตน์, ชานนท์ ดวงศรี, ชวกร มณีรุ้ง นำทัพ ซึ่งใช้เวลาแข่งขันเพียงครึ่งละ 20 นาทีเท่านั้น 

 

     เริ่มเกม 2 นาทีแรก ภาคภูมิ ขุนคงมี แข้งเจ้าสัวน้อยก็ได้โอกาสพาบอลเข้าเขตโทษทางซ้ายซัดมุมแคบแต่ข้ามคานออกไป เกมของอัสสัมชัญ ยูไนเต็ด ยังทำได้ดีกว่า ครองบอลเดินหน้าบุกเป็นระลอก น.13 คคนะ คำยก ได้บอลกลางประตูบริเวณหัวกะโหลกได้พลิกและซัดแต่ข้ามคานออกไป จากนั้น อนุชา โสมณวัฒน์ ปีกซ้ายของเจ้าสัวน้อยกระชากบอลเข้าเขตโทษซัดมุมแคบแต่ ชญุตว์ จันซุย ประตูบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ปัดออกไปทัน

 

    อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด ยังเดินหน้าเปิดเกมรุกใส่อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ถอยลงไปรับและพยายามเก็บบอลเปิดเกมสวนกลับ แต่ทั้งคู่ก็ยังไม่มีสกอร์แรกให้เห็นกัน จบครึ่งแรกยังเสมอกันอยู่ที่ 0-0 

 

    กลับมาสู้กันต่อครึ่งหลัง น.23 อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด ขึ้นบอลมาทางปีกซ้ายที่ อนุชา โสมณวัฒน์ กระชากสุดเส้นเปิดเข้ามาในเขตโทษ เข้าทางของ คคนะ คำยก ตวัดเอี้ยวตัวยิงพุ่งเช็ดคานตุงตาข่ายเข้าไปให้อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด นำ 1-0

 

    บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พยายามเปิดเกมสู้ น.32 ก็ตีเสมอสำเร็จจากจังหวะฟรีคิกกลางสนามของ ธรรมวัตร เย็นรัมย์ เปิดเข้าไปในกรอบเขตโทษและเป็น เขมทัต ควรถนอม ขึ้นโหม่งเช็ดเข้าไปให้บุรีรัมย์ตีเสมอ 1-1  

 

    น.38 อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด ก็ต้องเหลือ 10 คน เมื่อ มันฮาร์ท กาตีโรน์ ที่มีใบเหลืองติดตัวอยู่แล้วมาโดนเหลืองที่สองกลายเป็นใบแดง จากนั้นสองทีมก็ทำอะไรกันอีกไม่ได้ จบการแข่งขันเสมอกัน 1-1 ทำให้ต้องหาผู้ชนะด้วยการดวลจุดโทษ และปรากฏว่าบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แม่นกว่าเอาชะนะไป 4-3 ทำให้ อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด แพ้จุดโทษบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ด้วยสกอร์รวม 4-5 ส่วนอันดับสามครองร่วมกันระหว่างทีม ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด กับ เชียงใหม่ เอฟซี 

 

    หลังจบการแข่งขันก็มีการมอบรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเมนต์ ได้แก่ ชยุตว์ จันซุย ผู้รักษาประตูของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ส่วนรางวัลดาวซัลโว ได้แก่ ชัชพงศ์ พูลจวง นักเตะอัสสัมชัญ ยูไนเต็ด ที่ยิงไปรวม 5 ประตู