ศึกฟุตบอลลีกเยาวชนแห่งชาติ "ไทยแลนด์ ยูธลีก" ฤดูกาล 2017-2018 ประจำวันศุกร์ที่ 23 กุมภาพันธ์ 2561 เป็นรอบ 16 ทีมสุดท้าย แข่งขันระบบน็อกเอาต์ โดยทำการฟาดแข้งรุ่นอายุ 15 ปี ที่สนามมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี และรุ่นอายุ 17 ปี ที่สนามสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ลงสนาม 9 คู่  มีผลดังนี้

 

เชียงใหม่ เอฟซี 2 -  ศุลกากร ยูไนเต็ด 1

 

    ที่สนามสถาบันเทคโนโลยี พระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง เป็นการแข่งขันฟุตบอลไทยแลนด์ ยูธลีก รุ่นอายุ 17 ปี รอบ 16 ทีมสุดท้าย ในเวลา 09.30 น. ระหว่าง "พยัคฆ์ล้านนา" เชียงใหม่ เอฟซี แชมป์จากภาคเหนือ พบ "สิงห์นายด่านจูเนียร์" เอ็มโอเอฟ ศุลกากร ยูไนเต็ด ที่ใช้นักเตะโรงเรียนราชวินิตบางแก้ว ลงทำการแข่งขัน

 

       เริ่มการแข่งขันครึ่งแรกท่ามกลางสภาพอากาศที่ฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้นักเตะทั้งสองทีมคอนโทรลเกมในสนามได้ไม่ถนัดมากนัก เข้าสู่นาทีที่ 15 เชียงใหม่ เอฟซี ออกนำไปก่อน 1-0 จากการซัดของ ธนกร แสนคำ จากนั้นสภาพสนามเต็มไปด้วยน้ำ ทำให้ทั้งสองทีมไม่มีจังหวะลุ้นประตูมากนัก จบครึ่งแรกเชียงใหม่ เอฟซีนำศุลกากร ยูไนเต็ด 1-0

   

     กลับมาครึ่งหลังเล่นมาได้นาทีที่ 48 ณัฐพงษ์ ปอแสนใจ มาทำประตูขึ้นนำให้เชียงใหม่ เอฟซี ขึ้นนำห่างศุลกากร ยูไนเต็ด 2-0 ก่อนในช่วงกลางครึ่งหลังและท้ายเกมเป็นทีม "สิงห์นายด่านจูนียร์" ที่โหมบุกอย่างหนักและมาตีไข่แตกไล่มา 1-2 ในนาทีที่ 82 ณัฐวุฒิ เริงเกษตรกิจ ยิงให้ศุลกากร ยูไนเต็ดทำประตูแรกในเกมนี้ ก่อนที่จะจบเกม เชียงใหม่ เอฟซีชนะศุลกากร ยูไนเต็ด 2-1

 

 

ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด 5 - ตรัง เอฟซี 1

 

     คู่ที่สองเวลา 12.00 น. เป็นการพบกันระหว่าง "แข้งเทพจูเนียร์" ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ทีมดังจากเมืองกรุง พบ "ไอ้หนูพะยูนพิฆาต" ตรัง เอฟซี ทีมจากภาคใต้ เริ่มการแข่งขันครึ่งแรกทั้งสองทีมเล่นได้อย่างสูสี ผลัดกันรุกและรับทว่าไม่มีจังหวะทำประตูที่ชัดเจน

 

    เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 21 ทรู แบงค็อกมาได้ประตูนำ 1-0 ธราดล สอนโยหา ได้บอลในเขตโทษจากจังหวะนายด่านออกมาตัดบอลพลาด ก่อนจะยิงด้วยขวาเข้าไปไม่เหลือ จากนั้นนาทีที่ 24 ศิวกร สังขรัตน์ จะมาบวกประตูแรกของตัวเองช่วยให้ทรู แบงค็อกนำ 2-0 ท้ายเกมตรัง เอฟซี เริ่มตั้งเกมของตัวเองได้ มีจังหวะลุ้นตีไข่แตกเช่นกัน แต่จังหวะสุดท้ายไม่คมพอ จบครึ่งแรกทรู แบงค็อก ยูไนเต็ดนำตรัง เอฟซี 2-0

 

     กลับมาครึ่งหลังนาทีที่ 56  "พะยูนพิฆาต" ตีไข่แตก 1-2 ได้สำเร็จ จากจังหวะที่ ณัฐพงศ์ พรมดี นายด่าน "แข้งเทพ" ไปทำฟาวล์ อดิศร ทองรอด แข้งตรังล้มลงในเขตโทษ ผู้ตัดสินชี้ไปที่จุดโทษและเป็น อดิศร ทองรอด ลุกมายิงไม่พลาด หลังจากเสียประตูไปเป็น "แข้งเทพจูเนียร์" ที่ครองเกมบุกไว้ได้ทั้งหมด

 

    นาทีที่ 65 อัษฎาวุธ ชั่งทอง มายิงให้ทรู แบงค็อกหนีห่างไปอีกครั้ง 3-1 ท้ายครึ่งหลัง น.88 ชยธร เทพสุวรรณ ซัดให้ทรู แบงค็อกนำตรัง เอฟซี 4-1  น.90 ชยธร เทพสุวรรณ กัปตันทีม "แข้งเทพจูเนียร์" มายิงประตูที่ 2 ของตัวเองช่วยให้ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ดถล่มตรัง เอฟซี 5-1 เข้าไปพบเชียงใหม่ เอฟซี ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายต่อไป

 

 

อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด 2 - ชลบุรี เอฟซี 0

 

    คู่ถัดมา เวลา 14.30 น. เป็นคู่บิ๊กแมตซ์ประจำรอบนี้ ระหว่าง "กิเลนเจ้าสัว" อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด ทีมมหาอำนาจลูกหนังขาสั้น พบ "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี ตัวแทนจากภาคตะวันออก เริ่มการแข่งขันครึ่งแรกด้วยบรรยากาศร้อนอบอ้าว เป็นแข้งอัสสัมชัญ ยูไนเต็ดทำเกมรุกเข้าใส่ แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่เฉียบคมมากนัก

 

     เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 17 อัสสัมชัญ ยูไนเต็ดก็มาได้ประตูนำไปก่อน จากจังหวะทำชิ่งบอลไปเข้าทาง ธนา อีซอ หลุดเข้าไปยิงให้ "กิเลนเจ้าสัว" ออกนำ 1-0 น.25 ชลบุรี เอฟซี ก็มีโอกาสตีเสมอจากการส่องไกลของ นิติธร ศรีประมาณ บอลพุ่งหลุดเสาออกไป จากนั้นในครึ่งเวลาแรกทั้งสองทีมผลัดกันรุกและรับแต่ไม่มีสกอร์เกิดขึ้น อัสสัมชัญ ยูไนเต็ดนำชลบุรี เอฟซี 1-0

 

    กลับมาครึ่งหลังกลายเป็นอัสสัมชัญ ยูไนเต็ดที่ครองบอลบุกได้มากกว่าผู้มาเยือนอย่างทัพ "ฉลามชล" เข้าสู่นาทีที่ 45 "กิเลนเจ้าสัว" มาได้ประตูออกนำ 2-0 จากจังหวะทำชิ่งในเขตโทษ แล้วเป็น ผดุงเกียรติ อาจคิดการ ยิงด้วยซ้ายเข้าไปไม่เหลือ ช่วงเวลาที่เหลือชลบุรี เอฟซี พยายามทวงประตูคืนแต่ไม่สำเร็จ จบเกมอัสสัมชัญ ยูไนเต็ดชนะชลบุรี เอฟซี 2-0 เข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายต่อไป

 

 

สมาคมกีฬาจ.สมุทรสาคร 2 - ขอนแก่น เอฟซี 1

 

    คู่สุดท้ายในเวลา 17.00 น. เป็นเกมระหว่างสมาคมกีฬา จ.สมุทสาคร พบ "เดอะทีเร็กซ์" ขอนแก่น เอฟซี  เริ่มการแข่งขันครึ่งแรกทั้งสองทีมเล่นได้อย่างสนุกสูสี นาทีที่ 15 สมาคมกีฬาแห่ง จ.สมุทรสาครออกนำไปก่อน 1-0 จากการตะบันของ กิจมงคล บัวบานบุตร

 

     จากนั้นทั้งสองทีมผลัดกันรุกและรับสะใจกองเชียร์ น.37 หัสดา นิ่มเจริญ หลุดเข้าไปยิงให้สมาคมกีฬา จ.สมุทรสาครขึ้นนำห่าง 2-0 นาทีที่ 38 ท้ายครึ่งแรกขอนแก่น เอฟซี ไม่ยอมแพ้เมื่อมาประตูตีไข่แตกไล่มา 1-2 ทัศวรรษ ศรีวิหลอด ยิงระยะจ่อๆ เข้าประตูไปไม่เหลือ จบครึ่งแรกขอนแก่น เอฟซีนำสมาคมกีฬา จ.สมุทรสาคร 2-1

 

     กลับมาครึ่งหลังทั้งสองทีมเล่นได้อย่างสนุก น.60 สมาคมกีฬา จ.สมุทรสาคร มีลุ้นประตูที่ 3 เมื่อ หัสดา นิ่มเจริญ หลุดไปยิงในเขตโทษ ทว่าบอลหลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย ท้ายเกม น.80 ภรีภัทร์ กลิ่นสุด แข้งขอนแก่น เอฟซีได้ยิงเหน่ง ๆหน้าประตูแต่บอลพุ่งเฉียดเสาออกไป ก่อนจะหมดเวลาการแข่งขัน สมาคมกีฬา จ.สมุทรสาคร เอาชนะ ขอนแก่น เอฟซี 2-1 

 

 

นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี 1 - สีหมอก เอฟซี 1 

 

    ที่สนามมหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี เป็นการแข่งขันฟุตบอลไทยแลนด์ยูธลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย รุ่นอายุ 15 ปี ในเวลา 09.00 น. ระหว่าง "สวาดแคทจูเนียร์" นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ตัวแทนจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบ สีหมอก เอฟซี อีกหนึ่งทีมจากภาคกลาง  

 

     เริ่มเกมครึ่งแรก ทั้งสองทีมเล่นอย่างรัดกุม และพยายามบุกใส่เข้าหากัน แต่ก็ยังไม่มีทีมไหนที่เฉียบคม จึงจบ 45 นาที ไปด้วยการเสมอกันในครึ่งเวลาแรก 0-0 เปิดฉากในครึ่งเวลาหลังมา เป็นสีหมอกที่บุกเข้าใส่ "สวาดแคทจูเนียร์" หวังเอาประตูขึ้นนำให้ได้ จนมาสำเร็จในนาทีที่ 63 เมื่อ สิทธินันท์ รุ่งเรื่อง มายิงประตูในนาทีที่ 63 ออกนำไปก่อน 1-0

 

    ทว่า ถัดมาอีก 2 นาที นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี มาได้ประตูตีเสมออย่างรวดเร็ว จากการยิงของ วรกานต์ เข็มทอง ในนาทีที่ 65 แต่หลังจากนั้นก็ทำอะไรกันไม่ได้ ต้องตัดสินด้วยการยิงลูกโทษที่จุดโทษ และเป็นฝั่งนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ที่แม่นโทษกว่า เอาชนะจุดโทษไปด้วยสกอร์ 4-3 สกอร์รวมชนะไป 5-4

 

 

ชลบุรี เอฟซี 4 - สุพรรณบุรี เอฟซี 2

 

     คู่ที่ 2 เวลา 13.30น. เป็นเกมระหว่าง "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี ตัวแทนภาคตะวันออก พบ "ช้างศึกยุทธหัตถี" สุพรรณบุรี เอฟซี ทีมดังจากภาคกลาง เริ่มเกมเป็น "ฉลามชลจูเนียร์" เปิดหน้าเข้าหาใส่สุพรรณบุรี เอฟซี และมาได้ 2 ประตูรวด ภายใน 1 นาที จากการทำเกมอย่างสวยงามต่อบอลจนไปถึง ภาณุพงษ์ ทองแม้น ยิงเข้าไปแบบง่ายๆ นาทีที่ 11 ขึ้นนำ 1-0

 

    ถัดมาในนาทีที่ 12 ด้วยความผิดพลาดกันเองในเกมรับของสุพรรณบุรีไปเสียสมาธิ จนทำให้เป็นเหตุต้องเสียประตู มนต์ธัช หงษ์แก้ว ยิงเข้าไปแบบง่ายๆ เป็นประตูหนีห่าง 2-0 นาทีที่ 40 "ช้างศึกยุทธหัตถี" ไม่ยอมง่ายๆ มายิงประตูตีไข่แตกจากกองหน้าตัวจี๊ด เสกสรร ชาตรี ที่หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ ก่อนจะซัดสวนตัวผู้รักษาประตูเข้าไปตุงตาข่าย ตามหลังมาเป็น 1-2

 

    แต่จนแล้วจนรอด เมื่อสุพรรณบุรีพยายามบุกอย่างหนักจะเอาประตูตีเสมอให้ได้ แต่ก็ยิงไม่ดีจนโดน "ฉลามชลจูเนียร์" สวนกลับมาในช่วงทดเจ็บ นาทีที่ 45+1 ยิงประตูนำห่างออกไป 3-1 ในช่วงทดเจ็บ จากการซัดของ กิตติพงศ์ เขตภารา และจบครึ่งเวลาแรกด้วยสกอร์นี้

 

    ครึ่งหลัง สุพรรณบุรีแก้เกมมาเป็นอย่างดี และวิ่งเข้าใส่ตั้งแต่ต้นเกม จนมาทำประตูตีตื้นเป็น 2-3 ในนาทีที่ 67 จากการหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษของ เสกสรร ชาตรี ก่อนจ่ายให้ ศิริชัช กระแสทอง แปจ่อๆ เข้าไป

 

    หลังจากได้ประตูก็พยายามบุกเพื่อเอาประตูตีเสมอให้ได้ แต่ด้วยความแข็งแกร่งของชลบุรี เอฟซี มาได้ประตูตอกย้ำชัยชนะ ด้วยการยิงของ สุทธิพงษ์ โยธาดี นาทีที่ 81 จบเกม ชลบุรี เอฟซี ชนะ สุพรรณบุรี เอฟซี 4-2 ผ่านเข้ารอบไปเจอ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายต่อไป

 

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 5 - ชัยนาท ฮอร์นบิล 1

 

     คู่ที่ 3 เวลา 17.00 น. ระหว่าง "สายฟ้าจูเนียร์" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ตัวแทนจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบ "นกใหญ่พิฆาต" ชัยนาท ฮอร์นบิล อีกหนึ่งทีมจากภาคเหนือ เปิดฉากเริ่มเกม ชัยนาทเปิดเกมรุกเข้าใส่ ก่อนจะมาได้ประตูขึ้นนำจากการยิงของ ธเนศร์ จันทร์โคตร นาทีที่ 9 ออกนำไปก่อน 1-0

 

      ถัดมานาทีเดียว บุรีรัมย์ตั้งหลักได้ แล้วทำเกมขึ้นมา วินัย เอี่ยมโอด มาทำประตูตีเสมอ 1-1 อย่างรวดเร็ว หลังจากได้ประตูตีเสมอ บุรีรัมย์บุกอย่างหนัก ก่อนมาได้ประตูขึ้นนำจาก จิรเมธ จันทร์งาม นาทีที่ 15 พลิกกลับมานำ 2-1  และก็เป็นบุรีรัมย์ที่มีรูปเกมที่เหนือกว่า นาทีที่ 42 หนีห่างเป็น 3-1 ก่อนหมดเวลาครึ่งแรกจากลูกซัดของ วินัย เอี่ยมโอด

 

     เริ่มครึ่งหลัง ชัยนาทพยายามจะบุกเข้าใส่บุรีรัมย์ แต่ก็เจาะไม่เข้า และเป็นบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่มีความเฉียบคมกว่า มาได้ประตูทิ้งห่าง 4-1 ในนาทีที่ 67 จาก วินัย เอี่ยมโอด เป็นประตูที่สองของตัวเองในเกมนี้ เท่านั้นยังไม่พอ นาทีที่ 81 บุรีรัมย์ทำประตูย้ำชัยชนะโดย ประวิทย์ คนยัง เอาชนะไป 5-1