การแข่งขันฟุตบอลนักเรียนกรมพลศึกษา รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี ถ้วย ก เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 61 ที่สนามเทพหัสดิน เดินทางมาถึงรอบรองชนะเลิศ โดยทำการแข่งขันทั้งหมด 2 คู่ด้วยกัน

          เวลา 10.00 น. เป็นการดวลแข้งกันระหว่าง ''เจ้าสัวน้อย'' อัสสัมชัญธนบุรี ซึ่งในนัดที่แล้วฟาดจุดโทษชนะกรุงเทพคริสเตียนไป 5-3 มาพบกับสุรศักดิ์มนตรีที่หลุดเข้ามาด้วยวิธีการจับสลาก

         เริ่มการแข่งขันในครึ่งแรก ทั้งสองทีมเปิดเกมบุกเข้าใส่กันอย่างดุเดือดและสูสี เป็นทางทีมเจ้าสัวน้อยที่สามารถชิงความได้เปรียบก่อนในช่วงแรก เรียกได้ว่าสร้างความกดดันให้กับทัพบลูอาร์มี่ได้มากพอสมควร ส่วนทางด้านฝั่งของทีมสุรศักดิ์มนตรีก็มีการตอบโต้บ้างเป็นครั้งคราว

        เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 4 อัสสัมชัญธนบุรีได้โอกาสบุกลุ้นทำประตูก่อนจากจังหวะที่ กิตติพงษ์ แสนสนิท เปิดบอลขึ้นไปที่หน้ากกรอบเขตโทษให้ หัสวรรษ นพเนตร ที่อยู่ตรงนั้นพอดี จับบอลหนึ่งจังหวะ ก่อนที่จะเข้าซัดบอลด้วยเท้าข้างขวา หวังส่งบอลเข้าตาข่าย แต่ยิงไม่เเรง บอลพุ่งเรียดพื้นผ่านเสาสองออกไปอย่างน่าเสียดาย

         น.9 แต่แล้วกองเชียร์อัสสัมชัญธนบุรีก็ได้ลั่นกลองเฮดังทั่วทั้งสนาม เมื่อ คงเดช บ่อหน่าย ชิงบอลมาได้จากผู้เล่นกองกลางของทีมสุรศักดิ์มนตรี ก่อนที่จะกระชากบอลมาทางปีกขวาและเปิดบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษไปที่เสาสอง บอลหลุดไปถึง กฤษฎา ครองสี ที่เติมขึ้นมาแล้วง้างเท้าซัดบอลอย่างเหมาะเหม็ง ส่งลูกเข้าไปตุงตาข่ายทางเสาสองอย่างสวยงาม ทำให้โรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรีประเดิมสกอร์นำ 1-0

        ผ่านมาไม่กี่นาที ทัพบลูอาร์มี่ก็ไม่น้อยหน้าสวนกลับสร้างสรรค์เกมบุกได้อย่างดีเลยทีเดียว น.13 จากลูกเตะมุมทางปีกขวาของ อรัญ ผิวขม เปิดบอลครอสเข้ามาที่หน้าประตูให้ นัฐกานต์ เขตรักษา ขึ้นเติมเกมมาแล้วได้จังหวะซัดบอลเข้าประตูไป ตีเสมอให้โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรีเป็น 1-1

         น.21 เจ้าสัวน้อยเกือบมาเฮอีกครั้งในจังหวะสวนกลับ กิตติพงษ์ แสนสนิท ลากบอลเลื้อยจากกลางสนามเข้ามาในแดนหลังของฝั่งบลูอาร์มี่ ก่อนที่จะเปิดบอลจากทางนอกกรอบเขตโทษฝั่งขวาไปให้ กฤษฎา ครองสี ที่วิ่งเข้ามาเสริมยิงบอลเข้าตาข่าย แต่ไลน์แมนริมเส้นชูธงเป็นลูกล้ำหน้าไปเสียก่อนในนาทีนั้น

        เกมการแข่งขันดำเนินมาถึงช่วงการชิงความได้เปรียบเสียเปรียบอีกกครั้ง ทั้งสองทีมต่างผลัดกันรุกและรับ แต่ก็ไม่มีใครล้ำเข้ามาในกรอบเขตโทษของกันและกันได้ ถือว่าในช่วงนี้เป็นทางบลูอาร์มี่ที่มีเปอร์เซ็นต์ครองบอลและบุกมากกว่า ส่วนทางอัสสัมชัญธนบุรียังคงมีเกมรับที่เหนียวแน่นอยู่พอสมควร ต่อมาในนาทีที่ 44 ทางเจ้าสัวน้อยมีโอกาสมาลุ้นครั้งสุดท้ายจากจังหวะที่ กิตติพงษ์ แสนสนิท ตัดบอลมาได้จากผู้เล่นสุรศักดิ์มนตรี ก่อนจะพาบอลเข้ามาจ่ายให้ กฤษฎา ครองสี ได้สับไกยิงที่หน้ากรอบเขตโทษ แต่บอลไม่แรงพอ ทำให้ไหลเข้ามือนายทวาร วัชระพงษ์ อิ่มสมัย จากนั้นต่างฝ่ายต่างทำอะไรกันไม่ได้ เสมอกันไปในครึ่งแรกอย่างสนุก 1-1

         กลับเข้ามาสู่เกมการแข่งขันในครึ่งหลัง ทั้งสองทีมกลับมาแลกเกมบุกใส่กันอีกครั้ง ถือว่ากลับมาในครึ่งหลังต่างฝ่ายต่างมีการบุกที่สูสีคู่คี่ กินกันไม่ลงกันจริงๆ เป็นทางโรงเรียนสุรศักดิ์มนตรีที่มีเปอร์เซ็นต์ครองบอลสูงกว่า แต่ก็ไม่สามารถจบสกอร์ได้

         จนเกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 62 กลายเป็นสุรศักดิ์มนตรีที่มาเสียท่าให้กับเจ้าสัวน้อย ในจังหวะที่ หัสวรรษ นพเนตร ของเจ้าสัวน้อยกระชากบอลทางกราบขวาก่อนตัดมาที่กรอบเขตโทษแล้วจ่ายบอลไปให้ โชคอนันต์ สายมาอินทร์ ยิงด้วยเท้าซ้ายติดเซฟผู้รักษาประตู วัชระพงษ์ อิ่มสมัย ที่ปัดบอลกระดอนไปทาง กฤษฎา ครองสี ได้ซัดอีกครั้งแต่ก็ยังโดนสกัดออกมา บอลไม่พ้นอันตรายมาเข้าทาง กิตติพงษ์ แสนสนิท ปราดเข้าซ้ำไม่เหลือทำสกอร์ให้อัสสัมชัญธนบุรีออกนำอีกครั้ง 2-1

          น.75 อัสสัมชัญธนบุรีมาได้ประตูนำห่างอีกครั้งเมื่อ โชคอนันต์ สายมาอินทร์ ลากบอลตัดเข้ามาสู่กรอบเขตโทษทางด้านขวาแล้วเปิดบอลไปให้ กิตติพงษ์ แสนสนิท ที่มาเติมเกมบุกทางหน้าประตู ซัดด้วยเท้าขวาส่งบอลพุ่งเข้าเสาสองอย่างสวยงาม ทำให้อัสสัมชัญธนบุรีทำสกอร์ห่าง 3-1

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 90+3 ทางโรงเรียนสุรศักดิ์มนตรีพยายามทำเกมบุกแต่ก็ต้องมาเสียกัปตันทีมอย่าง อนุสรณ์ ใจเพชร ที่เข้าหนักจนโดนใบแดงออกจากสนาม ก่อนที่จะหมดเวลาการแข่งขัน โรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรีชนะโรงเรียนสุรศักดิ์มนตรีไปด้วยสกอร์ 3-1 ลิ่วเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศต่อไป

    .............................

 

สวนกุหลาบวิทยาลัย........................1

กรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย...............2 

 

          คู่ต่อมาในเวลา 13.00 น. เป็นศึกศักดิ์ศรีล้างตากันของโรงเรียนชายล้วนระหว่าง สวนกุหลาบวิทยาลัย กับ กรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย  

สวนกุหลาบวิทยาลัยได้เขี่ยบอลเริ่มการแข่งขันในครึ่งแรก ทั้งสองทีมเดินหน้าเปิดเกมรุกสลับใส่กันอย่างสนุกและสูสี เป็นทางโรงเรียนสวนกุหลาบฯ ที่ได้โอกาสบุกมาลุ้นอย่างรวดเร็วในน.3 จากจังหวะที่ สุมนะ สลับเพชร เปิดบอลทางมุมขวา ตวัดด้วยซ้ายทะลุเข้าเขตโทษให้ เฉลิมชัย ปัตภัย พุ่งโหม่งบอลอย่างจัง แต่แรงไปนิดลอยข้ามคานออกไป

          น.7 คราวนี้เป็นเกมโต้กลับทางกรุงเทพคริสเตียน เมื่อ กนกพล ปุษปาคม โชว์เดี่ยวสปีดพาเข้าเรียบกราบซ้ายถูกตีประกบโดยคู่ต่อสู้ ตัดบอลเข้าในมาถึงระยะประชิด ซัดด้วยขวา บอลไหลผ่านมือนายทวารแต่ออกข้างไป

        น.15 โอกาสลุ้นประตูอีกครั้งของทางสวนกุหลาบฯ เมื่อ วาธิต นัครี วิ่งเข้าสกัดบอลจากคู่ต่อสู้ได้สำเร็จ ก่อนโยนบอลขึ้นมาทางซ้ายส่งให้ สุรพงษ์ หนูมาก ลัดเลาะเข้ามาทางหน้าต่างแรกแบบโล่งๆ แล้วซัดด้วยซ้าย แต่นายด่านมองทางออกเซฟไว้ทันการณ์

       น.25 ในที่สุดกองเชียร์สวนกุหลาบฯ ได้เฮสนั่น จากลูกเตะมุมขวาของ สุมนะ สลับเพชร อีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่พลาด เฉลิมชัย ปัตภัย ขออาสาแก้มืออีกครั้งทำหน้าที่พิฆาตแบบไม่เหลือซากทำให้ทีมนำไปก่อน 1-0

        นาทีเดียวกันทางสวนกุหลาบฯ เกือบได้ประตูที่สองตามมาติดๆ เมื่อ ธีรภัทร แก้วผึ่ง ห้องเครื่องจอมขับเคลื่อนกระชากบอลเร็วหลุดเข้าถึงพื้นที่ว่างไร้การป้องกันหน้ากรอบเขต ก่อนที่ปั่นบอลด้วยขวาแบบจ่อๆ แต่ กัณตพัซห์ มันปาติ ผู้รักษาประตูกรุงเทพคริสเตียนไม่ปล่อยให้พลาดครั้งที่สอง ทิ้งตัวคว้าบอลไว้เต็มอุ้งมือ 

       ''ชงโคสีม่วง'' เริ่มเคลื่อนทัพรุกอย่างหนักเดินหน้ากดดันสวนกุหลาบฯ น.38 เกือบตีเสมอได้สำเร็จ จากจังหวะปั่นฟรีคิกทางมุมขวาในระยะ 18 หลาของ ธีรภัทร แก้วผึ่ง ปั่นด้วยซ้ายเล็งไปมุมกรอบสามเหลี่ยม บอลกระดอนโดนนักเตะสวนกุหลาบฯ เกือบไหลเข้าหน้าต่าง แต่ยังโชคดีที่นายทวารพุ่งคว้าไว้อย่างหวุดหวิด

       ท้ายเกมครึ่งแรก กรุงเทพคริสเตียนไม่ยอมน้อยหน้าไล่ตีเสมอได้สำเร็จ จังหวะหลุดเดี่ยวอีกครั้งของ ธนายุทธ์ จันนา ลากบอลกว่าครึ่งสนาม ลัดเลาะเข้าถึงช่องว่างหน้ากรอบเขตโทษ แล้วซัดด้วยขวาเต็มแรง บอลพุ่งผ่านมือ ศุภวัฒน์ โยคะ ผู้รักษาประตูสวนกุหลาบฯ เข้าติดตุงตาข่ายอย่างสวยงาม สกอร์มาเท่ากันที่เสมอ 1-1 ก่อนที่จะจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

        ครึ่งหลัง ทั้งสองทีมยังคงเปิดเกมรุกใส่กันอย่างต่อเนื่อง เพื่อคว้าชัยเข้าไปดวลกันต่อในนัดชิงชนะเลิศ น.55 สวนกุหลาบฯ ได้จังหวะลุ้นแบบใกล้เคียงสุดๆ เมื่อ ธนายุทธ์ จันนา กระชากบอลเข้ากราบเส้นซ้าย ลัดเลาะเข้าไปในกรอบเขตโทษแบบโล่งๆ และซัดบอลไปเสาสองเฉียดคานออกไปนิดเดียว

        น.63 แต่แล้วกรุงเทพคริสเตียนก็มาได้ประตูขึ้นนำ 2-1 จากลูกเตะของ กิตติ กินโนนกอก ตัวสำรองที่เพิ่งถูกเปลี่ยนตัวลงมาในครึ่งหลัง ได้โอกาสจับบอลบริเวณกรอบหน้าประตูก่อนจะซัดด้วยซ้ายส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายให้ทีมนำสำเร็จ

         ยังคงเป็น ''ชงโคสีม่วง'' ที่ครองบอลเหนือกว่าสวนกุหลาบฯ ก่อนที่จะมาได้โอกาสลุ้นประตูที่สามในน.74 เมื่อ กิตติ กินโนนกอก กระชากบอลเข้าเขตโทษก่อนปั่นด้วยซ้ายอย่างเต็มแรงแต่ติดนายทวารของสวนกุหลาบฯ

          เวลาที่เหลือ สวนกุหลาบฯ พยายามเดินเกมรุกอย่างหนักเพื่อตีเสมอ แต่พละกำลังที่มีไม่สามารถสู้กองทัพกรุงเทพคริสเตียนได้ หมดเวลาการแข่งขัน กรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัยเฉือนเอาชนะไป 2-1

         สำหรับการแข่งขันฟุตบอลการแข่งขันฟุตบอลนักเรียนกรมพลศึกษา รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี ก นัดชิงชนะเลิศ อัสสัมชัญธนบุรี พบ กรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ในวันที่ 18 ม.ค. 61 ที่สนามศุภชลาศัย