
เมื่อวันที่ 11 มีนาคม มีการแข่งขันฟุตบอลลีกเยาวชนแห่งชาติ 2016 รุ่นอายุไม่เกิน 13 ปี ซึ่งเป็นการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศและรอบชิงอันดับที่ 3 ซึ่งในรอบชิงชนะเลิศเป็นการพบกันระหว่าง อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด พบ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แข่งขัน ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน เวลา 16.00 น. ส่วนคู่ชิงอันดับที่ 3 เป็นการพบกันระหว่าง พีพีที ระยอง พบ สมาคมกีฬา จ.สงขลา โดยมีผลการแข่งขันดังนี้
รอบชิงชนะเลิศ
ราชมังคลากีฬาสถาน เวลา 16.00 น.
อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด (ยู-13) 0-3 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (ยู-13)
การแข่งขันในคู่ชิงชนะเลิศในรุ่น 13 ปี เป็นการพบกันระหว่าง อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด พบ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด โดยเริ่มเกมทั้งสองทีมก็เปิดเกมรุกเข้าใส่กันทันที
น.13 เป็นทาง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ประตูออกนำอย่างรวดเร็วจากบอลยาวมาจากแดนหลังมาเข้าทาง วินัย เอี่ยมโอด เอาบอลลงแล้วกระดกบอลข้ามหัวนายทวาร อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด ไปอย่างสวยงาม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ขึ้นนำ อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด 1-0
เท่านั้นยังไม่พอ น.17 เป็นทาง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดได้บุกขึ้นไปอย่างต่อเนื่องและได้ลูกเตะมุมทางด้านขวาเป็น ประวิทย์ คนยัง รับหน้าที่เปิดเข้าเข้ากลางบอลชุลมุนจนมาเข้าทาง พนธกร หาญรัตนะ ยิงเข้าไปง่ายๆ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด หนีห่าง อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด 2-0
น.27 เป็นทาง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มาได้โอกาสอีกครั้งจากการขึ้นเกมในแดนกลางก่อนผ่านบอลเข้าเขตโทษให้ เมธี ล้อมพิลา ได้ล็อกหนึ่งจังหวะก่อนซัดเต็มข้อ แต่คราวนี้ กษิดิ์เดช รุ่งกิจวัฒนานุกุล นายทวารอัสสัมชัญ ยูไนเต็ด ยังป้องกันเอาไว้ได้ และทำให้จบครึ่งแรก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นำ อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด อยู่ 2-0
กลับมาในครึ่งเวลาหลังก็ยังเป็นทาง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ยังคงครองบอลได้เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด เกมส่วนใหญ่ครองเกมในแดนกลางซะเป็นส่วนมากทำให้ทั้งสองทีมยังหาจังหวะจบสกอร์ไม่ได้
น.57 เป็น บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มาได้ลูกเตะมุมด้านขวาอีกครั้งก่อนเปิดบอลโด่งเข้ามาในกรอบเขตโทษให้กับ พิทยา จารีย์ ได้ขึ้นโขกเต็มๆ แต่ กษิดิ์เดช รุ่งกิจวัฒนานุกุล นายทวารอัสสัมชัญ ยูไนเต็ด ยังล้มตัวรับเอาไว้ได้
น.70+3 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ประตูนำห่าง อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด เป็น 3-0 จากลูกยิงไกลสุดสวยของ ภาณุพงษ์ วงศ์พุทธะ ยิงปิดกล่องให้ทีมในช่วงสุดท้าย
ช่วงเวลาที่เหลือ อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด ไม่สามารถทำประตูเพิ่มได้ทำให้จบการแข่งขัน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เอาชนะ อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด ไปด้วยสกอร์ 3-0 คว้าแชมป์ไปครอง


รอบชิงอันดับที่ 3
สนามฟุตบอล กกท.1
เวลา 14.00 น.
พีพีที ระยอง (ยู-13) 10-9 สมาคมกีฬา จ.สงขลา (ยู-13) (เสมอในเวลา 0-0)
การแข่งขันรอบชิงอันดับที่ 3 เป็นการพบกันระหว่าง พีพีที ระยอง พบ สมาคมกีฬา จ.สงขลา
เริ่มเกมการแข่งขันได้เพียง น.2 เป็น สมาคมกีฬา จ.สงขลา มาได้โอกาสขึ้นนำก่อนจากการหลุดเข้าไปยิงของ อาซูวัน ดอเลอะ ได้ซัดด้วยขวาแต่บอลก็ยังไปติดตัวผู้รักษาประตู
น.31 เป็นทาง พีทีที ระยอง มาได้ลุ้นบ้างจากลูกฟรีคิกนอกเขตโทษระยะหวังผลทางกราบซ้ายและเป็น นนทวัฒน์ อุดมสุขถาวร ได้ปั่นด้วยซ้ายแต่บอลก็หลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียด้าย
ช่วงท้ายครึ่งแรก น.35 พีทีที ระยอง มาได้ลุ้นประตูขึ้นนำจากการขึ้นเกมตรงกลางของ สิทธิโชค ดนตรี ก่อนผ่านบอลทะลุช่องให้ ศุภชัย น้อยพ้อยพันธ์ ยิงผ่านมือผู้รักษาประตูไปแล้วแต่แนวรับ สมาคมกีฬา จ.สงขลา ก็ยังมาเตะสกัดออกไปได้ ทำให้จบครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 0-0
กลับมาเล่นในครึ่งเวลาหลังเป็นทาง สมาคมกีฬา จ.สงขลา ได้เป็นฝ่ายครองเกมได้เหนือกว่าชัดเจน และมีโอกาสเข้าทำที่จะแจ้งมากกว่าด้วย น.51 พิชัยยุทธ จันทรคราม ได้บอลหลุดไปในกรอบเขตโทษ แต่ก็ยังยิงไปติดตัวนายทวาร พีทีที ระยอง น.67 เป็น พิชัยยุทธ จันทรคราม ของ สมาคมกีฬา จ.สงขลา ได้หลุดไปดวลเดี่ยวๆ ในกรอบเขตโทษกับผู้รักษาประตูแต่ก็ยิงไปติดนายทวารเช่นเดิม ทำให้จบการแข่งขันเสมอกันไปด้วยสกอร์ 0-0
ต้องตัดสินด้วยการดวลลูกโทษที่จุดโทษ และเป็น พีทีที ระยอง เอาชนะจุดโทษ สมาคมกีฬา จ.สงขลา ไปด้วยสกอร์ 10-9
หลังเสร็จสิ้นการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศมีการมอบรางวัลชนะเลิศและรางวัลต่างๆ โดยได้รับเกียรติจาก พันโท รุจ แสงอุดม รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายบริหารกีฬาอาชีพและสิทธิประโยชน์, นายทนุเกียรติ จันทร์ชุม ผู้อำนวยการฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย, คุณวิลัษณุ ไล่ชะพิษ ผู้อำนวยการสำนักควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา และผู้ทรงคุณวุฒิร่วมมอบรางวัล โดยมีรางวัลดังต่อไปนี้ รางวัลชนะเลิศได้แก่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ซึ่งได้รับเงินรางวัลมูลค่า 500,000 บาท พร้อมรับมอบถ้วยแชมป์ไปครอง ส่วนรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด ได้รับเงินรางวัล 300,000 บาท รองชนะเลิศอันดับ 2 พีทีที ระยอง ได้รับเงินรางวัล 200,000 บาท รางวัลอันดับที่ 3 สมาคมฟุตบอลจังหวัดสงขลา ได้รับเงินรางวัลมูล 100,000 บาท รางวัลดาวซัลโว เมธี ล้อมพิลา ทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ด้วยการยิง 8 ประตูในการแข่งขันครั้งนี้ รางวัลนักกีฬายอดเยี่ยมประจำการแข่งขันได้แก่ ภาณุพงษ์ ศิลาพงษ์ ทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
ที่มา
|