รองแชมป์เก่า ''ปราสาทสายฟ้า'' บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์โซนภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง เปิดรังเหย้าไอ-โมบาย สเตเดี้ยม พ่าย ''กิเลนเจ้าสัว'' อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด แชมป์โซนภาคตะวันตก 0-2 และเป็นการปราชัยครั้งแรกในศึกโค้ก คัพ ครั้งนี้ ขณะที่แชมป์เก่า ''กิเลนผยอง'' เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด แชมป์โซนกรุงเทพมหานคร ฟอร์มดุ เปิดบ้านเอสซีจี สเตเดี้ยม ไล่ยำ ''นักรบรวงทอง'' อ่างทอง เอฟซี แชมป์โซนภาคเหนือตอนล่าง กระจุย 3-0 ในศึกฟุตบอลเยาวชนชิงแชมป์ประเทศไทย ยู-19 รายการ ''โค้ก คัพ'' ครั้งที่ 19 รอบรองชนะเลิศ นัดแรก เมื่อวันที่ 29 ม.ค. ที่ผ่านมา
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 0-2 อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด
การแข่งขันฟุตบอลเยาวชนชิงแชมป์ประเทศไทย ยู-19 รายการ ''โค้ก คัพ'' ครั้งที่ 19 รอบรองชนะเลิศ นัดแรก เมื่อวันที่ 29 ม.ค. ที่ผ่านมา คู่แรก รองแชมป์เก่า ''ปราสาทสายฟ้า'' บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์โซนภาคตะวันออกเฉียงหนือตอนล่าง ที่ถลุง ระนอง ยูไนเต็ด สองนัดสกอร์รวม 10-0 เปิดรังไอ-โมบาย สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของ ''กิเลนเจ้าสัว'' อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด แชมป์โซนภาคตะวันตก ที่เข้ารอบมาด้วยกฎยิงประตูทีมเยือนหลังเสมอกับชลบุรี เอฟซี 2-2
11 ตัวจริงของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ประกอบด้วย สิทธิกร กล่ำใส, ศักดิ์สิทธิ์ สารศรี, พลวัฒน์ ช่างทำ, ณรงค์ชัย สิงห์ธรรม, เชาว์วัตน์ วีระชาติ, บารมี ลิ้มวัฒนะ, พีฬาวัช อรรคธรรม, สิทธิโชค กันหนู, รัตนากร ใหม่คามิ, สตราฮินย่า เคิร์ทเทิฟสกี้ และ คทาธร มะธิปิไข
ด้าน 11 ตัวจริงของ อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด ประกอบด้วย พีรพงษ์ ศรีนอก, วิริทธิ์พล ชนกกวินกุล, สุประวีร์ มีประทัง, ชาติชาย แสงดาว, ชนภัทร ลีเอาะ, พีรพงศ์ ปัญญานุมาภรณ์, ปฏิภาณ ปิ่นเสริมสูตรศรี, พิชา อุทรา, เบค ซุง กิล, สุรเดช กลั่นขำ และ ภูมินทร์ แก้วตา
เริ่มครึ่งแรกเป็นทาง อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด ที่เดินเกมบุกเข้าใส่ก่อน ผ่านไป 10 นาที รูปเกมของทั้งคู่ยังไม่มีใครกล้าเปิดเกมรุกเข้าใส่มากนัก ยังคงชิงเหลี่ยมกันตรงกลางสนาม แต่อย่างไรก็ตามกลับเป็นทางทีมเยือนที่พาบอลไปถึงพื้นที่สุดท้ายได้มากกว่า จากนั้นเมื่อเจ้าถิ่นตั้งเกมได้ก็เริ่มต่อบอลเข้าทำมีโอกาสจบสกอร์หลายครั้งแต่ก็ยังไม่ตรงกรอบ
น.18 เป็นฝั่ง อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด ที่ออกนำไปก่อน 1-0 จากจังหวะสวนกลับเร็ว พีรพงศ์ ปัญญานุมาภรณ์ ได้บอลทางริมเส้นฝั่งซ้ายแล้วจ่ายเข้ากลางมาที่ ปฏิภาณ ปิ่นเสริมสูตรศรี บรรจงวางบอลมาหน้าเขตโทษให้ ภูมินทร์ แก้วตา พลิกตัวกำลังจะยิง แต่ พีฬาวัช อรรคธรรม มาสกัดผิดเหลี่ยมบอลเข้าประตูตัวเอง
จากนั้นทัพกิเลนเจ้าสัวเดินเกมบุกต่อครองบอลได้เหนือกว่า ขณะเดียวกันเมื่อ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด โดนนำ ทำให้ระบบทีมดูจะรวนๆ ไป แต่ก็ยังไม่มีใครทำประตูเพิ่มได้ทำให้จบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
ในครึ่งหลังเจ้าถิ่นพยายามต่อบอลเดินเกมเข้าใส่อย่างหนักเพื่อหวังยิงประตูคืน ส่วน อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด เน้นเกมตั้งรับแน่นโดยทิ้ง ปฏิภาณ ปิ่นเสริมสูตรศรี ยืนค้ำเป็นหน้าเป้าคนเดียว ในเวลาต่อมา บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ขึงเกมรุกใส่อย่างหนักมีจังหวะหวาดเสียวหลายครั้งแต่ก็ยังไม่สามารถส่งลูกซุกก้นตาขายของทัพกิเลนเจ้าสัวได้
ในช่วง 10 นาทีสุดท้ายเกมของทั้งสองทีมเปิดแลกกันอย่างสนุกผลัดกันรุกผลัดกันรับแบบไม่มีใครกลัวใคร ซึ่งทาง อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด ได้ พีรพงษ์ ศรีนอก นายทวารของทีมเซฟจังหวะสำคัญๆ หลายครั้ง ขณะที่สามเซนเตอร์ของเจ้าถิ่นก็พยายามช่วยกันเบรกเกมสวนกลับเร็วของทีมเยือนแต่ก็มีหลายครั้งที่หลุดไปสับไกลแต่ก็ยังไม่คมพอ
น.90 อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด ได้ประตูย้ำชัยเป็น 2-0 จากจังหวะ พิชา อุทรา ใช้ความสามารถเฉพาะตัวเลี้ยงบอลหลบผู้เล่นบุรีรัมย์ แล้วจ่ายบอลทะลุช่องให้ สรวิทย์ พานทอง พาบอลเข้าไปยิงสวนตัวผู้รักษาประตูเข้าไป ทำให้จบเกม อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด ชนะ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 2-0 นัดต่อไปจะไปแข่งที่โรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี ในวันที่ 2 ก.พ. 59 ขณะที่ผลอีกคู่ เอสซีจี เมืองทองฯ ชนะ อ่างทอง 3-0
แมน ออฟ เดอะ แมตช์
พีรพงษ์ ศรีนอก (อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด)
วาทะโค้ช
โรเบิร์ต โชเซ่ ดา ซิลวา ผู้ฝึกสอนบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดเผยว่า ครึ่งแรกเล่นได้ดีสูสีมีจังหวะจบสกอร์แต่ไม่คมเอง และเราก็พลาดเพียงครั้งเดียวเสียประตู ขณะที่ครึ่งหลังก็มีโอกาสที่จะได้ประตูหลายครั้งแต่เด็กเราก็ยังไม่คมพอ ซึ่งเกมต่อไปเรายังคงมีหวังที่จะเข้ารอบเพราะยังเหลืออีก 1 แมตช์ให้แก้ตัวโดยเราคิดว่าทำได้แน่นอน
มาสเตอร์ ธร สอระภูมิ ผู้ฝึกสอนอัสสัมชัญ ยูไนเต็ด เปิดเผยว่า วันนี้ต้องขอชมลูกทีมที่เล่นได้ตามที่วางแผนไว้ เด็กจบสกอร์ได้ดี และเรายังยิงประตูตุนมาได้ 2 ลูก ซึ่งทำให้เกมต่อไปในบ้านเราก็จะสบายขึ้น แต่เราก็ไม่ประมาทเพราะผู้เล่นตัวหลักติดแบนและติดเหลืองก็อาจจะต้องทำการบ้านมากขึ้นระมัดระวังกันมากขึ้น
ดาวซัลโว
5 ประตู : สตราฮินย่า เคิร์ทเทิฟสกี้ (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
4 ประตู : ฉัตรดนัย ฉ่ำชื่น (อ่างทอง เอฟซี)
2 ประตู : ปฏิภาณ ปั่นเหน่งเพชร (อ่างทอง เอฟซี), เอกนิษฐ์ ปัญญา (เชียงราย ยูไนเต็ด), ธีรภัค ปั้นบุญชู (เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด)
1 ประตู : ฌัยญฮัล อุ่นจิตร (เชียงราย ยูไนเต็ด), พิชชานนท์ จันทร์หลวง (เชียงราย ยูไนเต็ด), โชติภัทร พุ่มแก้ว (เชียงราย ยูไนเต็ด), วงศกร ชัยกุลเทวินทร์ (เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด), ศิริมงคล จิตบรรจง (เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด), ณัฐพล ทับถนน (เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด), พงศธร วิเศษพันธ์ (เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด), สรวิทย์ พานทอง (อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด), พีรพงศ์ ปัญญานุมาภรณ์ (อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด), วิริทธิ์พล ชนกกวินกุล (อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด), รัตนากร ใหม่คามิ (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด), เจนโจว กลีเชน, กานต์ จรเทศ (ชลบุรี เอฟซี), ฤทธิเดช เพ็นสวัสดิ์ (ชลบุรี เอฟซี), จิรวัฒน์ ทองแสงพราว (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด), ยุทธพิชัย เลิศล้ำ (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด), กันตวัฒน์ สุวรรณภาญกูร (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด), พัสกร บัวสุวรรณ (อ่างทอง เอฟซี)
ที่มา
|