กิเลนเจ้าสัวเจ๋งอัด3-0ลิ่วนัดชิงศึกบอล7สี

ติดตามข่าวสารสโมสรฟุตบอลอัสสัมชัญ ยูไนเต็ด และทีมโรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี รวมทั้งข่าวฟุตบอลไทย ได้ที่เว็ปไซต์ www.assumtionuniter.com

กิเลนเจ้าสัวเจ๋งอัด3-0ลิ่วนัดชิงศึกบอล7สี

13 ม.ค. 58 18:42:12 น.

แชมป์เก่า "กิเลนเจ้าสัว" อัสสัมชัญธนบุรี ยังสมราคา ไล่ต้อน "เสือเพชรเกษม" ราชวินิตบางแคปานขำ ไปแบบไม่ยาก 3-0 เข้าไปป้องกันแชมป์สมัย 3 กับ "บลูอาร์มี่" สุรศักดิ์มนตรี ที่โกงความตาย หลังตาม "อินทรีตะวันออก" อัสสัมชัญศรีราชา 1-3 ก่อนเร่งเครื่องยิง 3 ประตูรวดแซวชนะไปแบบช็อกแฟนบอล 4-3 เข้าชิงสำเร็จ ศึกขาสั้น 7 คน แชมป์กีฬา 7 สี แชมเปี้ยน คัพ 2014 รอบรองชนะเลิศ ที่สนามเทพหัสดิน เมื่อวันที่ 13 มกราคม ที่ผ่านมา

การแข่งขันฟุตบอลนักเรียน 7 คน "แชมป์กีฬา 7 สี แชมเปี้ยน คัพ 2014" ประจำวันที่วันที่ 13 ม.ค. ที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันในรอบรองชนะเลิศ ทำการแข่งขันที่สนามเทพหัสดิน มีผลการแข่งขันดังนี้

อัสสัมชัญธนบุรี 3 - ราชวินิตบางแคปานขำ 0

        คู่แรกเวลา 13.30 น. เป็นการพบกันระหว่าง "กิเลนเจ้าสัว" อัสสัมชัญธนบุรี แชมป์เก่า 2 สมัยติดต่อกัน ที่ผ่านเข้ารอบด้วยการเป็นแชมป์ของสาย เอ กับ "เสือเพชรเกษม" ราชวินิตบางแคปานขำ น้องใหม่ของรายการที่ผ่านเข้าสู่รอบตัดเชือกแบบหักปากกาเซียน ด้วยการเป็นรองแชมป์สาย บี

        เริ่มเกมการแข่งขันในครึ่งแรกทั้งสองทีมพยายามเปิดเกมรุกแลกกันอย่างสนุก และในน.8 ราชวินิตบางแคปานขำ ก็เกือบมาได้ประตูออกนำจากจังหวะที่ ชวดล เชื้อตาเคน ลักไก่ยิงไกล บอลพุ่งไปชนคานออกหลังไปแบบน่าเสียดาย

        น.10 อัสสัมชัญธนบุรี ที่มีโอกาสครองบอลได้มากกว่า ก็มาได้ประตูออกนำไปก่อนจากจังหวะบอลยาวจากแดนหลัง ที่โยนเข้าไปกดดันราชวินิตบางแค ก่อนเป็นทาง วิริทธิ์พล ชนกกวินกุล ที่เข้าถึงบอลก่อนเกี่ยงบอลหลบนายทวารราชวินิตบางแค ก่อนจะยิงเข้าไปง่ายๆ ให้อัสสัมัชญธนบุรี ออกนำ 1-0

        น.13 หลังจากที่ได้ประตูออกนำ อัสสัมชัญธนบุรี ก็ครองเกมไว้ได้เกือบทั้งหมด และก็มาได้ลุ้นประตูเพิ่มจากจังหวะที่ สุรเดช กลั่นขำ เติมสูงขึ้นไปยิงด้วยซ้าย บอลพุ่งน่ากลัวแต่ก็หลุดเสาไกลออกไปอย่างน่าเสียดาย

        น.19 อัสสัมชัญธนบุรี ที่ทำได้ดีกว่าอย่างชัดเจน มาขยับหนีห่างจากจังหวะที่ สุรเดช กลั่นขำ จ่ายบอลให้ วิริทธิ์พล ชนกกวินกุล หลุดเข้าไปยิงแสกหน้าผู้รักษาประตูราชวินิตบางแคปานขำ เป็นประตูที่สองของตัวเองให้อัสสัมชัญธนบุรี ขึ้นนำ 2-0

        เข้าสู่ช่วงท้ายเกม เป็นอัสสัมชัญธนบุรี ที่เหนือกว่ามาก มาได้ประตูหนีห่างในน.24 จากจังหวะที่ต่อเกมขึ้นมาทางฝั่งขวา ก่อนจะเป็น สุรเดช กลั่นขำ ที่ยิงเข้าไปไม่พลาด จบครึ่งแรก อัสสัมชัญธนบุรี นำราชวินิตบางแคปานขำ 3-0

        กลับมาสู้กันต่อในครึ่งหลัง ราชวินิตบางแคปานขำ พยายามแก้เกมสู้ และในน.29 ก็มาได้ลุ้นจากจังหวะฟรีคิกตรงริมเส้นฝั่งขวา เป็น พงษ์วรันต์ ฤาชา ที่ปั่นด้วยซ้าย แต่บอลก็ยังเหินหลุดสามเหลี่ยมเสาไกลออกไปอย่างน่าเสียดาย

        น.31 เกมเปิดแลกกันอย่างสนุก และเป็นทางราชวินิตบางแคปานขำ ที่ทำได้ดีขึ้นและเกือบมาได้ประตูตีไข่แตกในน.31 จากจังหวะที่ขึงเกมกดดัน ก่อนจะเป็นทาง สหรัฐ โคกอ่อน ที่ได้ยิงด้วยขวา บอลผ่านมือนายทวารอัสสัมชัญธนบุรีไปแล้ว แต่แนวรับยังช่วยกันสะกัดออกมาได้สำเร็จ

        น.33 อัสสัมชัญธนบุรี เปิดเกมเข้าสู้ และก็เกือบมาได้ประตูที่สี่จากจังหวะโต้กลับเร็วที่ ณัฐพสุตม์ มะลิซ้อน จ่ายให้ สุประวีณ์ มีประทัง เข้าชาร์จที่เสาสอง แต่กลับแปบอลหลุดเสาออกไปแบบไม่น่าเชื่อ

        น.39 เกมของราชวินิตบางแคปานขำ เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ และก็มาได้ลุ้นประตูอีกครั้งจากจังหวะที่ พงษ์วรันต์ ฤาชา ปั่นด้วยซ้ายที่หน้ากรอบเขตโทษบอลไปตกชนคานอย่างน่าเสียดาย ช่วงเวลาที่เหลือไม่สามารถทำอะไรกันเพิ่มได้ จบเกม อัสสัมชัญธนบุรี ชนะ ราชวินิตบางแคปานขำ 3-0 ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปป้องกันแชมป์สมัยที่ 3 ได้สำเร็จ

        แมน ออฟ เดอะ แมตช์ : พีรพงษ์ ศรีนอก นายทวารอัสสัมชัญธนบุรี

อัสสัมชัญศรีราชา 3 - สุรศักดิ์มนตรี 4

        คู่ถัดมาเวลา 14.45 น. เป็นการพบกันระหว่าง "อินทรีตะวันออก" อัสสัมชัญศรีราชา อดีตแชมป์ 2 สมัย ที่ผ่านเข้ารอบด้วยการเป็นที่ 2 ของสาย เอ พบกับ "บลูอาร์มี่" สุรศักดิ์มนตรี ที่ยังไม่เคยสัมผัสแชมป์รายการนี้เข้ามาถึงรอบตัดเชือกด้วย
การเป็นแชมป์สาย บี

        เริ่มเกมในครึ่งแรก ทั้งสองทีมเปิดเกมรุกสู้กันอย่างสนุก และในน.8 เป็นทางอัสสัมชัญศรีราชา ที่มาได้ประตูออกนำไปก่อนจากจังหวะที่เดินเกมรุกขึ้นมาทางฝั่งขวาก่อนจะเป็น กิตติไกร จันทะรักษา ที่วิ่งมาแปตรงกลางประตูเข้าไปไม่พลาดให้อัสสัมัชญศรีราชา ออกนำ 1-0

        น.14 เกมแลกกันอย่างสนุก และเป็นทางสุรศักดิ์มนตรี ที่เกือบมาได้ประตูตีเสมอจากจังหวะชุลมุนหน้ากรอบเขตโทษ และเป็นทาง จักรกฤษณ์ เวชภิรมย์ ที่ได้ยิงด้วยซ้าย แต่บอลยังไปตรงตัวผู้รักษาประตูอัสสัมชัญศรีราชา

        น.15 แต่ในนาทีถัดมา จักรกฤษณ์ เวชภิรมย์ ก็มาแก้ตัวได้สำเร็จ เมื่อมายิงประตูตีเสมอให้สุรสักดิ์มนตรี จากการยิงไกลสุดสวยบอลพุ่งเสียบสามเหลี่ยมเสาสองเข้าไปให้สกอร์กลับมาเท่ากันที่ 1-1

        น.21 เข้าสู่ช่วงท้ายเกม ทั้งสองทีมพยายามเน้นครองบอลเป็นหลัก แต่เป็นอัสสัมชัญศรีราชา ที่มาได้ประตูออกนำอีกครั้งจากจังหละบอลตามช่องก่อนจะเป็น กิตติไกร จันทะรักษา ที่ยิงเข้าไปให้อัสสัมชัญศรีชา ออกนำ 2-1 และทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบครึ่งแรก อัสสัมชัญศรีราชา ออกนำสุรสักดิ์มนตรี 2-1

        กลับมาสู้กันต่อในครึ่งหลัง สุรศักดิ์มนตรี พยายามเปิดเกมรุกหนัก และก็เกือบตีเสมอได้ในน.26 จากจังหวะที่ วิศรุต อิ่มอุระ ได้โหม่งที่กลางประตู แต่บอลไปชนคานกระดอนออกมาอย่างน่าเสียดาย

        น.27 แต่จังหวะถัดมากลับเป็นอัสสัมชัญศรีราชา ที่มาได้ประตูที่สาม จากจังหวะที่ กิตติไกร จันทะรักษา ได้ยิงในกรอบเขตโทษ บอลแฉลบแนวรับสุรศักดิ์มนตรี เสียบเสาแรกเข้าไปให้สกอร์หนีห่าง 3-1

        น.36 เกมแลกกันอย่างสนุก และเป็นทางสุรศักดิ์มนตรี ที่มาได้ประตูตีตื้น 2-3 จากจังหวะเดินเกมรุกขึ้นมาทางฝั่งซ้าย เป็นทาง เจษฎากร ขาวงาม ที่ยิงเข้าไปไม่พลาด

        น.44 สุรศักดิ์มนตรี ก็มาตามตีเสมอได้สำเร็จ จากการยิงของ เจษฎากร ขาวงาม ก่อนที่นาทีถัดมา จักรกฤษณ์ เวชภิรมย์ ก็มายิงให้สุรศักดิ์มนตรี แซงนำไปแบบไม่น่าเชื่อ 4-3 เวลาที่เหลือทั้งสองทีมเปิดเกมแลกกันสนุก แต่ไม่สามารถทำประตูเพิ่มได้ จบเกม สุรศักดิ์มนตรี โกงความตายพลิกกลับมาเอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ดังกล่าว ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปพบกับอัสสัมชัญธนบุรี ที่เอาชนะไปได้ก่อนแล้ว ในวันเสาร์ที่ 17 มกราคม ที่จะถึงนี้

        แมน ออฟ เดอะ แมตช์ : จักรกฤษณ์ เวชภิรมย์ กองกลางตัวรุกของสุรศักดิ์มนตรี

Author : Actfc