การแข่งขันฟุตบอล ซีเกมส์ 2019 ครั้งที่ 30 วันที่ 1 ธันวาคม 2562 เวลา 15.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ที่สนามบีนาน เมืองบีนาน ประเทศฟิลิปปินส์ เป็นการแข่งขันแข่งขันรอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 3 ของสาย บี ระหว่าง ทีมชาติไทย เจ้าของแชมป์ 16 สมัย และเป็นแชมป์เก่ารายการนี้ 3 สมัยติดต่อกัน ลงสนามพบกับทีมชาติสิงคโปร์ 

 

โดยทัพช้างศึก มี 3 คะแนนจากการลงสนาม 2 นัดแรก จากการพ่าย อินโดนีเซีย 0-2 ในเกมแรก และถล่มเอาชนะ บรูไน 7-0 ขณะที่สิงคโปร์ มีแค่แต้มเดียวเท่านั้น

 

เกมนี้ อากิระ นิชิโนะ กุนซือของทีมยึดระบบ 4-2-3-1 เหมือนเดิม โดยมีการปรับทัพส่ง นนท์ ม่วงงาม ลงมาเฝ้าเสาอีกครั้ง แนวรับเป็น ชินภัทร์ ลีเอาะ, ศฤงคาร พรมสุภะ, ทิตาธร อักษรศรี, พีฬาวัช อรรคธรรม แดนกลาง กฤษดา กาแมน ยืนคู่กับ รัตนากร ใหม่คามิ ขณะที่ริมเส้นฝั่งซ้ายเป็น ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ส่วนฝั่งขวา เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ คู่หน้าเป็น สุภโชค สารชาติ กับ ศุภชัย ใจเด็ด

 

เริ่มเกม ไทยได้ลุ้นตั้งแต่นาทีแรก จากการขึ้นเกมทางฝั่งขวาเป็น พีฬาวัช อรรคธรรม ได้เปิดบอลทางฝั่งขวา ศุภชัย ใจเด็ด ขึ้นโขกแต่บอลหลุดเสาสองออกไป

 

นาทีที่ 4 บอลทางฝั่งซ้าย ทิตาธร อักษรศรี เปิดจากด้านข้างมาที่ปากประตู เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ ขึ้นโขก แต่บอลยังหลุดกรอบออกไปอีก 

 

นาทีที่ 7 ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ลากผ่านแนวรับสิงคโปร์มาทางฝั่งซ้าย ก่อนเปิดให้ เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ ซัดเข้าไปตุงตาข่าย ช้างศึก ขึ้นนำ 1-0

 

นาทีที่ 18 ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ทำชิงกับ รัตนากร ใหม่คามิ ก่อนกระดกบอลให้กองหน้าดาวรุ่งจากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จิ้มบอลเข้าไปให้ช้างศึกนำห่าง 2-0 

 

นาทีที่ 35 ช้างศึก ขึ้นมาทางฝั่งขวา บอลจาก สุภโชค สารชาติ แทงออกมาริมเส้นให้ กฤษดา กาแมน ก่อนเปิดเข้ากลางให้ พีฬาวัช อรรคธรรม ที่เติมขึ้นมาตวัดยิงด้วยขวา บอลเสียบเสาสองเข้าไปตุงตาข่าย ช้างศึก ทิ้งห่าง 3-0 และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

 

เริ่มครึ่งหลังไทยทยอยเปลี่ยนตัว ด้วยการส่ง จตุรพัช สัทธรรม และ วิศรุต อิ่มอุระ ลงไปเล่นแทน ทิตาธร อักษรศรี และ ศุภชัย ใจเด็ด

 

ทั้งสองทีมเปิดเกมแลกเข้าใส่กัน แต่ก็เปลี่ยนเป็นสกอร์ ไม่ได้ทั้งคู่ จบเกม ทีมชาติไทย เอาชนะ สิงคโปร์ ไป 3-0

 

ชัยชนะนัดนี้ ทำให้ทีมชาติไทย มีเพิ่มเป็นหกคะแนน จากสามนัด ส่วนสิงคโปร์มีแต้มเดียวเท่าเดิม

 

โปรแกรมนัดต่อไป ทีมชาติไทยชุดลุยศึกซีเกมส์ จะต้องพบกับ สปป.ลาว ที่สนาม ริซัล เมโมเรียล ในกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ วันที่ 3 ธันวาคม 2562 เวลา 15.00 น. ตามเวลาประเทศไทย