ความเคลื่อนไหวของทัพ "ช้างศึกพลังหนุ่ม" ทีมชาติไทย ชุดยู-23 ปี ที่ในช่วงปลายปีจะต้องลงแข่งขันในมหกรรมกีฬาแห่งอาเซียน ครั้งที่ 30 หรือ "ซีเกมส์" 2019 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 30 พ.ย.-11 ธ.ค.62 นี้
ล่าสุด ศ.เจริญ วรรธนะสิน มนตรีซีเกมส์ ได้ออกมาเปิดเผยว่า "จากการไปร่วมประชุมมนตรีซีเกมส์ ที่ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเจ้าภาพยังยืนยันว่าจะจัดการแข่งขันทั้งหมด 56 ชนิดกีฬา รวม 523 เหรียญทองเท่าเดิม ไม่มีการตัดรายการไหนออกเลย แม้ว่าจะถูกตัดงบประมาณลงก็ตาม"
"ส่วนการถ่ายทอดสดนั้น เจ้าภาพจะถ่ายเพียงแค่ 11 กีฬาเท่านั้นคือ กรีฑา , กีฬาทางน้ำ (ว่ายน้ำ , โปโลน้ำ , กระโดดน้ำ , ระบำใต้น้ำ , ว่ายน้ำมาราธอน) , แบคมินตัน , บาสเกตบอล , มวยสากลสมัครเล่น , เทควันโด , ยิมนาสติก , วอลเลย์บอล , อีสปอร์ต , เซปักตะกร้อ และฟุตบอลชายเท่านั้น ส่วนฟุตบอลหญิงจะไม่มีการถ่ายทอดสดให้ชมแต่อย่างใด"
สำหรับเจ้าเหรียญทองในศึกลูกหนังชาย "ซีเกมส์" ทีมชาติไทย คว้าได้มากที่สุด 16 ครั้ง ส่วนอันดับ 2 เป็น มาเลเซีย 6 ครั้ง , เมียนมา 5 ครั้ง , อินโดนีเซีย 2 ครั้ง และเวียดนาม 1 ครั้ง โดยการแข่งขันฟุตบอลชายซีเกมส์ 2019 ในปีนี้จะใช้สนาม ริซาล เมโมเรียล สเตเดียม กรุงมะนิลา เป็นสังเวียนแข้งนั่นเอง