ความเคลื่อนไหวนักเตะทีมชาติไทยชุดยู-23 ปี ชิงแชมป์เอเชีย 2019 รอบคัดเลือก ที่ประเทศเวียดนาม ระหว่างวันที่ 22-26 มี.ค. 62 นี้ โดยอยู่ในกลุ่ม เค ร่วมกับ เวียดนาม, อินโดนีเซีย และบรูไน ภายใต้การคุมทัพของอเล็กซานเดร กาม่า พร้อมทีมงานโค้ชผู้รักษาประตูชาวไทยอย่าง อัมรินทร์ เยาว์ดำ ได้ยกพลออกเดินทางไปทำการแข่งขันที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนามแล้ว เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 20 มี.ค. 62 ด้วยเที่ยวบิน FD644 เรียบร้อยแล้ว
ทัพนักเตะที่เดินทางไปครั้งนี้ประกอบด้วย ผู้รักษาประตู: นนท์ ม่วงงาม (เชียงใหม่ เอฟซี), กรพัฒน์ นารีจันทร์ (ขอนแก่น เอฟซี), นพพล ละครพล (ลำปาง เอฟซี) กองหลัง: ชินภัทร์ ลีเอาะ (กัปตันทีม ) (สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด), มาร์โค บัลลินี่ (ชัยนาท ฮอร์นบิล), ศฤงคาร พรมสุภะ ( รองกัปตันทีม ) (เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด) , พัชรพล อินทนี (เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด), กฤษฎา กาแมน (ชลบุรี เอฟซี), ชาติชาย แสงดาว (เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด), จักรกฤษณ์ เวชภิรมย์ (สมุทรปราการ ซิตี้), นาคิน วิเศษชาติ (อาร์มี่ ยูไนเต็ด) , กิตติพงษ์ แสนสนิท ( อัสสัมชัญ ยูไนเต็ด ) กองกลาง: วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ (ชลบุรี เอฟซี) , สหรัฐ สนธิสวัสดิ์ (ชลบุรี เอฟซี) , อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด), วิศรุต อิ่มอุระ (ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด), กานต์นรินทร์ ถาวรศักดิ์ (ศรีสะเกษ เอฟซี), โชติภัทร พุ่มแก้ว (เชียงใหม่ เอฟซี), สกุลชัย แสงโทโพธิ์ (เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด) กองหน้า: ศุภชัย ใจเด็ด (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด) , สุภโชค สารชาติ (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด) , ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด), กรวิชญ์ ทะสา (เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด)
โดยก่อนออกเดินทาง อเล็กซานเดร กาม่า กุนซือใหญ่ให้สัมภาษณ์ว่า " การไปแข่งขันครั้งนี้ เราพอมีข้อมูลของทีมฝ่ายตรงข้าม เราเจอกับอินโดนีเซียมาแล้วเมื่อเดือนก่อน และพวกเขาก็ชนะทีมพวกเราได้ พวกเขาแข็งแกร่ง เช่นเดียวกับเวียดนาม ที่เล่นได้อย่างแข็งแกร่งไม่แพ้กัน และคราวนี้พวกเขาจะเป็นเจ้าบ้านด้วย งานคงยากยิ่งขึ้น ส่วนบรูไนเป็นทีมที่ดี เราจะไม่ประมาทพวกเขาแน่นอน หวังว่าเราจะทำได้ดีในทุกเกม ช่วงผ่านมาเราได้ศึกษาสไตล์การเล่นและรู้ว่าพวกเขาอย้างละเอียดว่าเล่นอย่างไร เช่นเดียวกันพวกเขาเองน่ารู้จักพวกเราดี ทุกทีมต่างมีผู้เล่นที่ดี แต่เรามั่นใจในทีมชุดนี้ ผมเชื่อมั่นในตัวลูกทีมทุกคน"
" ผมเคารพทุกทีม ผมคิดว่าเราต้องแสดงให้เห็นถึงความเป็นทีมชาติไทย แสดงให้เห็นว่าเรายกระดับขึ้นมาแล้ว แม้ช่วงที่ผ่านมา หลายๆสิ่ง หลายๆอย่างอาจจะไม่ดีบ้าง เรามารอดูกัน เวียดนามเป็นตัวเต็งเพราะพวกเขาเล่นในบ้าน แต่อินโดนีเซีย ก็เป็นตัวเต็ง แต่เราจะไปที่นั่นเพื่อพิสูจน์ให้พวกเขารู้ว่าเรามีดีและแข็งแกร่งไม่แพ้กัน ทว่าเราขอโฟกัสทีละเกม ผมเชื่อว่าเราจะทำผลงานออกมาได้ดี เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจ และความมั่นใจก่อนที่เราจะกลับมาเป็นเจ้าภาพรอบสุดท้ายต่อไป "
ด้านชินภัทร์ ลีเอาะ กองหลังกัปตันทีมให้สัมภาษณ์ว่า "ตอนนี้ทุกคนมีความกระหายอย่างมาก อยากที่จะพิสูจน์และแสดงให้เห้นถึงความแข็งแกร่งของทีมชาติไทย หลังจากที่หลายคนไม่ได้ร่วมทัพไปแข่งขันชิงแชมป์อาเซียนที่ผ่านมา แต่หนนี้ถือว่าสำคัญ เพราะทุกทีมจะส่งผุ้เล่นที่ดีที่สุดมาแข่งขันเพื่อการเข้ารอบ ส่วนเรานั้นแม้จะได้เล่นรอบสุดท้ายอยู่แล้วก็จะเต็มที่ ส่วนตัวจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดทั้งในและนอกสนามเพื่อให้ทีมมีผลงานที่ดี อยากให้แฟนบอลชาวไทยเป็นกำลังใจให้กับเราทุกคนด้วย"
ส่วน ศุภโชค สารชาติ แนวรุกตัวเก่งของทีมให้สัมภาษณ์ว่า จากสภาพโดยรวมผมมั่นใจทีมชุดนี้ทุกคนต่างมีฝีเท้า การไปครั้งนี้เราทุกคนต้องการสร้างผลงานที่ดีในทุกนัด เพื่อสร้างความมั่นใจก่อนที่เราจะเป็นเจ้าภาพรอบสุดท้ายต่อไป ก็ขอเชิญชวนแฟนบอลชาวไทยช่วยเชียร์และเป็นกำลังใจให้กับเราทุกคนในทีมด้วย "
สำหรับโปรแกรมการแข่งขันของทีมชาติไทย วันศุกร์ที่ 22 มี.ค.62 พบ อินโดนีเซีย เวลา 17.00 น. , วันอาทิตย์ที่ 24 มี.ค.62 พบ บรูไน เวลา 17.00 น. . และเกมสุดท้าย วันอังคารที่ 26 มี.ค.62 พบทีมชาติเวียดนาม เวลา 20.00 น. ทุกนัดแข่งขันที่สนาม มีดินห์ สเตเดี้ยม รับชมได้ทางพีพีทีวี เอชดี ช่อง 36 และสามารถดูสดผ่านทางเว็บไซต์ https://www.pptvhd36.com หรือแอปพลิเคชั่น PPTVHD36