ฟุตบอลเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018
วันพุธที่ 5 ธันวาคม 2561
ทีมชาติไทย 2-2 มาเลเซีย
ปรับ2ตำแหน่งจากเกมแรก! 11รายชื่อนักเตะ "ช้างศึก" ทีมชาติไทย ออกมาเรียบร้อย โดยมีการปรับเปลี่ยนผู้เล่นตัวจริง2คน โดยวันนี้ ให้ "จ่าเย็น" มงคล ทศไกร และ ฟิลิป โรลเลอร์ ออกสตาร์ทตัวจริงแทนที่ มิก้า ชูนวลศรี และ นูรูล ศรียานเก็ม
สำหรับ 11 รายชื่อตัวจริงของ มิโลวาน ราเยวัช มาในระบบ 4-2-3-1 โดยมี ฉัตรชัย บุตรพรหม ยืนเป็นปราการด่านสุดท้ายตามเดิม แผงหลังจากขวาไปซ้าย มี ฟิลิป โรลเลอร์, พรรษา เหมวิบูลย์, เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว และ กรกช วิริยอุดมศิริ แผงกองกลางใช้ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ตัดเกมร่วมกับ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ใช้ สรรวัชญ์ เดชมิตร ทำเกมรุกกับ ศุภชัย ใจเด็ด และ มงคล ทศไกร โดยมี อดิศักดิ์ ไกรษร ยืนค้ำหน้าเป้าตามเดิม
ครึ่งแรกมาเลเซียในชุดสีเหลืองเขี่ยบอลบุกจากขวาไปซ้าย น.2 ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ กองกลางทีมชาติไทยต้องตัดฟาวล์ที่กลางสนามเบรกเกมของมาเลเซีย
น.6 บอลยาวของไทยมีลุ้นทำประตูจังหวะนี้ ศุภชัย ใจเด็ด วิ่งหนีตัวประกบเพื่อหวังเข้าถึงบอล แต่ โมฮัมเหม็ด ไฟซาล ผู้รักษาประตูมาเลเซียยังออกมาคว้าได้ก่อน
น.10 อดิศักดิ์ ไกรษร กองหน้าทีมชาติไทยโต้กลับเร็วจากแดนตัวเองสปีดหนี 4 ตัวประกบที่กลางสนามเกือบทำชิ่งต่อให้เพื่อน แต่ยังโดนแซะทิ้งได้ก่อน น.12 มาเลเซียได้ฟรีคิกที่ริมขวาเล่นสั้นบอลทะลุถึง มาฮามาดู ซูมาเร่ ที่หลุดถึงสุดเส้นหลังเปิดเข้ากลางหวังให้เพื่อนเข้าชาร์จ แต่ยังไม่แม่น
น.16 ไทยได้ฟรีคิกที่กลางสนาม กรกช วิริยอุดมศิริ เปิดด้วยซ้ายลึกไปที่หน้าประตู บอลเกือบถึง อดิศักดิ์ ไกรษร ที่จะเข้าชาร์จ แต่ยังไม่โดนบอลยังเข้ามือนายด่านมาเลเซียน.18 มาเลเซียต้องเปลี่ยนตัวรายแรก โมฮัมเหม็ด ไอดิล เล่นต่อไม่ไหวต้องส่ง อีฟราน ซากาเลีย ลงเล่นแทน
น.20 โมฮัมเหม็ด อัสด้า รัดซัค กัปตันทีมมาเลเซียไม่ยอมทุ่มบอลคืนให้ไทยหลังจากไทยเตะออกข้างให้เพราะมาเลเซียมีตัวเจ็บ แต่ดันเลือกยิงไกลเข้าประตูไปเล่นเอาผู้ตัดสินต้องมาเตือนเรื่องสปิริตแฟนบอลไทยโห่ใส่ทันที
น.21 ไทยวางยาวจากซ้าย ศุภชัย ใจเด็ด เปิดจากซ้ายลึกไปเสาไกล มงคล ทศไกร อาศัยลูกขยัน ตามไปโหม่งย้อนกลับมาที่หน้าประตูในจังหวะที่ โมฮัมเหม็ด ไฟซาล นายด่านมาเลเซียออกมาไม่เจอบอล ก่อนที่จะเป็น ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ชาร์จจ่อๆ แม้ โมฮัมเหม็ด ไฟซาล จะพยายามตามมาเคลียร์ แต่บอลก็ยังเข้าประตูอยู่ดี ทีมไทย ออกนำ 1-0
น.28 มาเลเซียมาได้ประตูตีเสมอจนได้จากจังหวะสวนกลับเร็วที่กลางสนาม นอร์ซารู ทาลาฮา จ่ายไปขวาให้ โมฮัมเหม็ด ไซมี่ วิงขวาเติมสูงแต่งหนึ่งจังหวะก่อนซัดด้วยขวานอกกรอบบอลพุ่งแรงเสียบสามเหลี่ยมเสาไกลเข้าไปอย่างสวยงามเล่นเอา ฉัตรชัย บุตรพรหม นายด่านไทยหมดสิทธิ์ป้องกัน มาเลเซียได้อะเวย์โกล 1-1 ซึ่งหากจบสกอร์นี้ มาเลเซีย จะผ่านเข้ารอบชิงฯ
หลังจากมาเลเซียได้ประตูตีเสมอ น.40 เกือบได้ลุ้นขึ้นนำจากลูกกึ่งยิงกึ่งผ่านที่ริมขวาของ มาฮามาดู ซูมาเร่ แต่บอลยังหลุดกรอบออกไปนิดเดียว จบครึ่งแรก ไทย ยังเสมอ มาเลเซีย 1-1
ครึ่งหลัง ไทย ส่ง ปกเกล้า ลงมาแทน ธนบูรณ์ เริ่มมาเพียง 2 นาที มาเลเซียได้ทักทายก่อน โมฮามาดู ซูมาเรห์ หลุดขึ้นมาทางกราบขวา ก่อนจ่ายยัดเข้ากลางให้ นอร์ชาห์รูล ยิงแบบไม่จับแต่บอลเหินข้ามคาน
จน น.64 ไทยขึ้นนำอีกครั้ง 2-1 จากจังหวะฟรีคิก สุมัญญา ปุริสาย เปิดเข้าเขตโทษ อดิศักดิ์ ไกรษร โหม่งไปชนคาน ก่อนที่ พรรษา เหมวิบูลย ตามโหม่งซ้ำจ่อๆเข้าไป
อย่างไรก็ตาม น.71 มาเลเซีย ตามตีเสมออีกครั้ง 2-2 โมฮามาดู ซูมาเรห์ จ่ายบอลเข้าเขตโทษไปให้ นอร์ชาห์รูล ตวัดยิงด้วยขวาบอลเสียบเสาสองไม่เหลือ
น.82 ไทยหวิดขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย กรกช วิริยอุดมศิริ เปิดลูกฟรีคิกจากฝั่งซ้ายให้ พรรษา เหมวิบูลย์ ขึ้นโขกเต็มๆ แต่บอลไปชนคาน
ทดเวลาบาดเจ็บ น.90+4 มาเลเซียเสียจุดโทษ เมื่อ ไซอาห์มี ซาฟารี เจตนาทำแฮนด์บอลในเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษพร้อมเป็นใบเหลืองที่สองของเจ้าตัวเป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม โดยเป็น อดิศักดิ์ ไกรษร รับหน้าที่สังหาร แต่กลับยิงข้ามคานไปแบบเหลือเชื่อ
เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม ไทย เสมอ มาเลเซีย 2-2 รวมผลสองนัดทัพ "ช้างศึก" กระเด็นตกรอบด้วยกฏอเวย์โกล โดย มาเลเซีย จะผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศไปรอพบผู้ชนะระหว่างเวียดนาม หรือ ฟิลลิปปินส์ โดยนัดชิงฯเกมแรกจะแข่งขันในวันอังคารที่ 11 ธันวาคม ส่วนนัดที่สองแข่งในวันเสาร์ที่ 15 ธันวาคม