เปิดฉากครึ่งแรก ไทยในชุดน้ำเงินเดินหน้าลุย แต่ทาง อินโดฯ ก็มีจังหวะขึ้นมาป้วนเปี้ยนสร้างความหวาดเสียวได้เหมือนกัน โดยโอกาสแรกของไทยแบบจังๆ เกิดขึ้นในน.14 เมื่อ สรรวัชญ์ เดชมิตร ดึงจังหวะก่อนไหลจากซ้ายใส่พานให้ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ได้สับเน้นๆ แต่เบาเกินไป
แต่ถัดมานาทีเดียว อินโดนีเซียสวนกลับเร็ว และเป็น ริโก้ ได้ซัดโค้งๆ ด้วยขวา บอลยังติดเซฟ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน ที่บินคว้าเอาไว้ได้
เข้าสู่ น.26 ไทยเกือบโดน เมื่อ เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว เข้าพรวดผิดจังหวะ บอลมาถึง สเตฟาโน่ ลิปาลี่ ได้จังหวะดวลเดี่ยวในกรอบเขตโทษ ก่อนซัดไปแฉลบขา ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน บอลหลุดกรอบนิดเดียว
จากนั้น น.29 อินโดนีเซีย ช็อกแฟนบอลชาวไทย ด้วยการขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ได้ลูกเตะมุมด้านซ้าย แล้วเล่นลูกสูตร แตะย้อนให้ ซุลฟีอันดี้ ตะบันไกลเสียบมุมเด็ดขาด ซึ่งจากประตูนี้ ส่งผลให้มิดฟิลด์จาก ศรีวิจายา เอฟซี กลายเป็นแข้งอิเหนาคนที่ 3 ในรอบเกือบ 18 ปี ที่พังประตูได้บนแผ่นดินไทยในรายการนี้ ถัดจาก อุสตัน นาวาวี (18 พ.ย. 2000, รอบชิงชนะเลิศ ที่สนามราชมังคลากีฬาถาน) และ โนวา อาเรียนโต้ ปราการหลังร่างยักษ์ (20 ธ.ค. 2000, รอบรองชนะเลิศ)
ผ่านมาถึง น.36 ทีมชาติไทยได้เสียว จากลูกยิงไกลของ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ที่ถูกปัดทิ้งออกหลังหวุดหวิด และจากจังหวะเตะมุมด้านขวา กรกช วิริยะอุดมศิริ เปิดโค้งย้อยเช็ดเสาสองเข้าประตูไปสวยงาม ขยับสกอร์ให้ไทยตีเสมอ อินโดฯ 1-1 ในน.38
น.42 อินโดฯ เปลี่ยนผู้เล่นรายแรก ส่ง เฟบี้ ฮาริยาดี้ ลงแทน อันดิก เวอร์มาซ่า จากนั้น ช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก น.45+2 ไทยได้ฟรีคิกริมเส้นด้านขวา กรกช เปิดยัดแรงเข้าไป เบโต้ กองหลังทีมเยือนพยายามสกัด บอลไปชนเสาก่อนเด้งมาเข้าทาง พรรษา เหมวิบูลย์ ทิ่มเผาขนไม่เหลือ ให้ไทยแซงนำ 2-1 ในครึ่งแรก
กลับมาเล่นครึ่งหลัง อินโดฯ พยายามบุกเพื่อเอาประตูตีเสมอ แต่กลายเป็นไทยที่หนีห่าง 3-1 ใน.64 จากจังหวะที่ ฐิติพันธ์ จ่ายให้ อดิศักดิ์ พลิกหนีตัวประกบเข้าไปซัดเน้นๆ เสยตาข่ายสุดงาม นับเป็นประตูที่ 7 ของเขาในรายการนี้ นำเป็นดาวซัลโว
ผ่านมาถึงน.75 สรรวัชญ์ เดชมิตร แทงทะลุช่องให้กับ ปกเกล้า อนันต์ ตัวสำรองที่ลงมาแทน มงคล ทศไกร วิ่งเข้าไปชิพข้ามนายด่านอินโดฯ เข้าไปอย่างเหนือชั้น ช่วยให้ไทยทะยาน 4-1
น.89 จากจังหวะเตะมุม ริโก้ เปิดมาที่เสาสอง และเป็น วานยูดี้ อยานโต้ ที่โหม่งย้อนศรเข้าไป ส่งผลให้ทีมชาติอินโดฯ มาได้ประตูไล่ตาม ทีมชาติไทย เป็น 2-4
ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีทีมใดทำประตูเพิ่มเติมได้ ครบ 90 นาที ทีมชาติไทย ชนะ อินโดนีเซีย 4-2 เก็บเพิ่มเป็น 6 คะแนน พร้อมนำเป็นจ่าฝูงของ กลุ่มบี หลังมีผลต่างประตูได้เสียดีกว่า ฟิลิปปินส์ ที่บุกชนะ ติมอร์-เลสเต้ หวุดหวิด 3-2
เกมนัดต่อไปของทีมชาติไทยในศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ2018 จะบุกเยือน ฟิลิปปินส์ วันพุธที่ 21 พ.ย.61 ที่สนามปานาอัด สเตเดี้ยม ตรงกับเวลาไทย 18.30 น.
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
ทีมชาติไทย - ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน(ผู้รักษาประตู) 6 , เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว(กัปตันทีม) 6 , พรรษา เหมวิบูลย์ 6 , ฟิลิปป์ โรลเลอร์ 6 , กรกช วิริยะอุดมศิริ 7.5 , ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ 7.5 , ธนบูรณ์ เกษารัตน์ 7(แทน น.84 สุมัญญา ปุริสาย 5 ) , สรรวัชญ์ เดชมิตร 7.5 , นูรูล ศรียามเก็ม 7(แทน น.67 ศุภชัย ใจเด็ด 5.5 ) , อดิศักดิ์ ไกรษร 7 , มงคล ทศไกร 6(แทน น.46 ปกเกล้า อนันต์ 6.5 )
ทีมชาติอินโดนีเซีย - อวาน ราฮาโจ้(ผู้รักษาประตู) 5 , ปูตู อันทาร่า 5 , วานยูดี้ อยานโต้ 5 , ฮานซามู ยาม่า(กัปตันทีม) 5 , อัลฟาส เฟเธอร์ 5, ซูฟินดี้ 5.5(แทน น.75 บายา ปราดาน่า 5 ) , เอวาน ดิมาส 5 , สเตฟาโน่ ลิปาลี่ 5 , อันดิก เวอร์มาซ่า 4.5(แทน น.42 เฟบี้ ฮาริยาดี้ 5 ) , ริโก้ 6 , อัลเบอร์โต้ กอนคาเวส 6(แทน น.85 ดีดิก เซเทวาน