มิโลวาน ราเยวัช กุนซือใหญ่แห่งทัพ "ช้างศึก" ทีมชาติไทย ชุดใหญ่ พาลูกทีมลงซ้อมผ่อนคลายก่อนปล่อยนักเตะพัก รอรวมพลลงซ้อมสนามจริงที่ราชมังคลาฯวันพฤหัสบดีนี้ ด้าน เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว กองหลังและกัปตันทีมชาติไทย กระตุ้นเพื่อนร่วมทีมห้ามประมาทติมอร์ เลสเต เด็ดขาด ก่อนลั่นเป้าเก็บชัยชนะ 3 ใน 4 แมตช์ของรอบแบ่งกลุ่มให้ได้ หวังแฟนบอลให้กำลังใจล้นสนามทุดนัดเพื่อผลักดันและกรุยทางสู่การป้องกันแชมป์ซูซูกิ คัพ
ความเคลื่อนไหวของขุนพลทัพ "ช้างศึก" ทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ภายใต้การคุมทีมของ มิโลวาน ราเยวัช กุนซือใหญ่ชาวเซอร์เบีย ที่เตรียมทีมเพื่อลุยศึกฟุตบอล "เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018" ระหว่างวันที่ 8 พ.ย.-15 ธ.ค.61 โดยทีมชาติไทย อยู่ในกลุ่ม บี ร่วมกับ อินโดนีเซีย , ฟิลิปปินส์ , สิงคโปร์ และติมอร์ เลสเต
ล่าสุด เมื่อวันพุธที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ.2561 ที่สนามฟุตบอลวินด์มิลล์ สุวรรณภูมิ เวลา 8.30 น. มิโลวาน ราเยวัช กุนซือใหญ่ของทีม ได้นำลูกทีมปักหลักฝึกซ้อมในมื้อเช้า โดยการฝึกซ้อมครั้งนี้ได้เน้นการซ้อมให้เบาลงกว่าที่ผ่านมา หลังจากที่หนึ่งสัปดาห์เต็มได้ซ้อมการอย่างเข้มข้น เช้า-กลางวัน-เย็น รวมถึงการฟื้นฟูร่างกายนักเตะให้ผ่อนคลายที่สุด ก่อนจะทบทวนการฝึกซ้อมที่ผ่านมา โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงจึงแล้วเสร็จ
ภายหลังจากการฝึกซ้อมในช่วงเช้าเสร็จสิ้นทาง มิโลวาน ราเยวัช กุนซือใหญ่ของทีมได้ปล่อยนักเตะให้กลับไปพักผ่อนงดฝึกซั้อมในช่วงเย็น โดยจะกลับมารวมพลฝึกซ้อมอีกครั้งในมื้อสุดท้ายที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ซึ่งเป็นสังเวียนฟาดแข้งกับ ติมอร์ เลสเต ในวันพฤหัสบดีที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ.2561 เวลา 19.00 น.
ขณะเดียวกันทาง เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว ปราการหลังจอมแกร่ง ในฐานะสวมบทกัปตันทีมชาติไทย ลุยศึกซูซูกิ คัพ 2018 กล่าวว่า "หลังจากได้รับหน้าที่ให้เป็นกัปตันทีมผมก็ต้องพร้อมครับ และต้องคอยกระตุ้นเพื่อนร่วมทีมให้มากกว่าเดิม และต้องเก็บชัยชนะให้ได้เพื่อเป็นก้าวแรกที่ดีและเป็นกำลังใจของทีมเราด้วย อยากเชิญชวนให้แฟนบอลเข้ามาให้กำลังใจพวกเราที่สนาม เพื่อเป็นแรงผลักดันให้พวกเราทำผลงานได้ดี"
"ผมเข้าใจว่า ด้วยความที่เราเป็นแชมป์เก่า ก็ทำให้แฟนบอล คาดหวังกับเราค่อนข้างมาก ส่วนตัวผมก็อยากบอกว่า เราทุกคนก็คาดหวังเหมือนกันครับ แต่สำหรับฟุตบอล เวลาลงไปเล่น มันไม่ได้ง่าย ไม่ว่าเราจะเจอทีมที่ดีกว่า หรือต่ำกว่า เราก็ต้องทำงานให้หนักกว่าทีมอื่น อย่างการเจอ ติมอร์ เลสเต เราก็ไม่สามารถมองข้ามได้เลย"
"ส่วนตอนนี้สภาพร่างกายของผมหลังจากอยู่แคมป์มา 2 อาทิตย์กว่าก็ฟิตเต็มร้อยพร้อมลงสนาม ส่วนเป้าหมายของทีมตอนนี้ผมคิดว่าเรามองเป็นนัดต่อนัดมากกว่า ทำเต็มที่ให้ดีที่สุดเชื่อว่าผลงานก็ต้องดีตาม แต่ว่า 4 แมตช์ในรอบแบ่งกลุ่มผมก็คิอว่าเราน่าจะเก็บชัยชนะได้ 3 ถึง 4 แมตช์ครับ"
ทั้งนี้การแถลงข่าวและประชุมทีมก่อนเกมการแข่งขันของคู่นี้ จะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ.2561 เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุม 217 ภายในราชมังคลากีฬาสถาน ก่อนที่เวลา 15.00 น. จะเป็น official training (ลงซ้อมสนามจริง) ของ ติมอร์ เลสเต และเวลา 19.00 น. จะเป็นของทีมชาติไทย
สำหรับเกมการแข่งขัน "เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018" ของกลุ่ม บี นัดแรก ระหว่าง ติมอร์ เลสเต พบ ทีมชาติไทย ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน จะมีขึ้นในวันศุกร์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ.2561 เวลา 19.00 น. ถ่ายทอดสดทางช่อง 7HD โดยบัตรมีจำหน่ายแล้วที่ ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ ทุกสาขา
''มานูเอล'' ฟิตปั๋งพร้อมช่วยช้างศึกล่าแชมป์ซูซูกิ
มานูเอล ทอม เบียห์ร แนวรับวัย 25 ปี ช่วยต้นสังกัด ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด จบรองแชมป์ไทยลีก ในฤดูกาล 2018 อีกทั้งก่อนหน้านี้ยังมีโอกาสเป็นตัวจริงให้ทีมชาติไทย ในเกมกระชับมิตรฟีฟ่าเดย์ ที่บุกชนะ ฮ่องกง 1-0 กระทั่งล่าสุดถูก มิโลวาน ราเยวัช ใส่ชื่อเป็น 23 ขุนพล ลุยศึกซูซูกิ คัพ 2018
ล่าสุดทาง มานูเอล ทอม เบียห์ร กองหลังลูกครึ่งไทย-เยอรมนี ได้ออกมาเปิดเผยว่า "ที่ผ่านมา เวลาเข้าแคมป์ทีมชาติ ผมมีอาการบาดเจ็บรบกวนค่อนข้างบ่อย แต่ครั้งนี้ ผมรู้สึกว่า ผมอยู่ในสภาพร่างกายที่พร้อมมากๆ และปีที่ผ่านมา ผมก็ทำผลงานได้ดีกับต้นสังกัด ตอนนี้ผมรู้สึกว่า ผมอยู่ในช่วงฟอร์มที่ดีที่สุด ในชีวิตค้าแข้ง ผมรู้สึกดีใจและภูมิใจเสมอที่ได้รับใช้ชาติ ยิ่งไปกว่านั้น มันเป็นครั้งแรกของผมในรายการนี้ด้วย โอกาสลงเล่นนั้นอยู่ที่โค้ช (มิโลวาน ราเยวัช) ตัดสินใจ แต่ต่อให้ผมจะได้เล่นหรือไม่ได้ ผมก็พร้อมทำงานหนักเพื่อทีม และเป็นส่วนหนึ่ง เพื่อช่วยทีมคว้าผลการแข่งขันที่ดีให้ได้"
"ผมรู้ว่าทุกทีมในอาเซียน มองว่าเราเป็นเต็งหนึ่งอยู่แล้ว ก็ยอมรับว่ามีความกดดันอยู่บ้างครับ แต่การที่เรามีโอกาสเตรียมทีมดีขนาดนี้ มันก็ทำให้พวกเราพร้อมมากๆ และถ้าเพื่อนทุกคน เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน รวมถึงเล่นเป็นทีมเวิร์ค ผมก็เชื่อว่า เรามีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จได้ ในฐานะผู้เล่น เราก็มีเป้าหมายเดียวกับแฟนๆ คือต้องเป็นแชมป์ให้ได้ แน่นอนว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายครับ"
"แต่อย่างที่ผมบอกไป ถ้าเราเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ผมก็คิดว่า เรายังมีโอกาสมากที่สุด และอีกสองสิ่งที่สำคัญ เราต้องมีสมาธิกับเกมการแข่งขัน และห้ามประมาทเป็นอันขาด ขณะที่การพบกับ ติมอร์ เลสเต ผมรู้ว่า ทุกคนอาจคิดว่าเราเหนือกว่า แต่จริงๆ นั้นไม่เลย สำหรับฟุตบอล ไม่ว่าคุณจะเจอใครก่อนเกม แต่สุดท้ายมันก็ต้องไปวัดกันที่สนาม อีกอย่าง การลงเล่นนัดแรก ไม่มีคำว่าง่ายอยู่แล้ว แน่นอนว่า เราจะพยายามทำให้ดีที่สุด และหวังว่าจะคว้า 3 คะแนนให้ได้"