วันที่ 19 มิถุนายน 2561 เวลา 16.00 น. กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ถนนราชดำเนินนอก แขวงวัดโสมนัส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ คณะผู้บริหารสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เดินทางเข้าแสดงความยินดี และปรึกษาหารือแนวทางการพัฒนากีฬาฟุตบอลกับ นาย วีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาคนใหม่
การเดินทางไปในครั้งนี้นำโดย พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ พร้อมด้วย คุณ ธนะศักดิ์ สุระประเสริฐ อุปนายกฝ่ายสื่อสารองค์กร, คุณ วิทยา เลาหกุล อุปนายกฝ่ายพัฒนาเทคนิค, คุณ กรวีร์ ปริศนานันทกุล รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดการแข่งขัน บริษัท ไทยลีก จำกัด, คุณ พาทิศ ศุภะพงษ์ รองเลขาธิการฝ่ายต่างประเทศ และ โฆษกสมาคมฯ และ คุณ ชนินทร์ แก่นหิรัญ ที่ปรึกษาฝ่ายกฏหมายสมาคมฯ
หลังการเข้าพบ พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ กล่าวว่า "สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยพร้อมคณะ อุปนายกฯ สภากรรมการฯ และเจ้าหน้าที่สมาคมฯ ได้มาเยี่ยมท่านรัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา อย่างเป็นทางการเพื่อรับมอบนโยบายและรายงานการทำงานของสมาคมฯ ที่ผ่านมา"
"โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ผมเป็นตัวแทนประเทศไทยเดินทางไปประชุมสามัญที่ประเทศรัสเซีย ได้ทำหน้าที่ลงคะแนนเสียงเลือกเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกในปี 2026 นั้น ก็คือกลุ่มประเทศแคนาดา สหรัฐอเมริกา และเม็กซิโก"
"ตลอดจนได้พูดคุยกับท่านเกี่ยวกับการบริหารจัดการ และสิ่งที่จะทำในอนาคต รวมทั้งแผนพัฒนาฟุตบอล 20 ปี วันนี้ได้นำมามอบให้กับท่าน จากการพูดคุย ท่านมี วิสัยทัศน์และรู้ทุกเรื่องทุกวงการกีฬาโดยเฉพาะฟุตบอล เมื่อพูดถึงปัญหา หรือการทำงาน ท่านได้มอบนโยบายตลอดจนการแก้ปัญหา แนะนำให้สมาคมฯ ดำเนินการ เพื่อให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรม”
“โดยเฉพาะเรื่องการแข่งขันต่างๆ ที่ผ่านมา ควรจะทำร่วมกัน เพื่อประโยชน์หลายๆ อย่าง เช่น มีรูปแบบเดียวกัน การใช้จ่ายงบประมาณจะน้อยลงทั้งภาครัฐและสมาคมฯ สำคัญคือสิ่งที่ออกมาจะมีคุณค่า ประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยเฉพาะสิ่งที่สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ตั้งใจไว้ว่าอยากจะออกมาในทิศทาง Thailand way นับเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ต้องขอบคุณท่าน นอกจากนี้ ท่านพร้อมให้การสนับสนุนและการพัฒนาฟุตบอล ท่านมั่นใจว่าสมาคมฯ ตั้งใจทำงานและต้องการพัฒนาวงการฟุตบอลอย่างจริงจัง"
"เวลามีการจัดการแข่งขันร่วมกับภาครัฐอื่นๆ ระดับภาค 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น สิ่งที่สมาคมฯ ได้คิดหรือได้ทำร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ว่าจะทำอย่างไร ให้ทุกคนมีส่วนร่วมอย่างไร แต่ทุกคนก็เห็นชอบที่จะนำกีฬาฟุตบอลซึ่งเป็นกีฬาที่ทุกคนให้การชื่นชมและชื่นชอบ เพื่อนำไปสู่ความสามัคคี วิสัยทัศน์ตรงกับสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ”
"ฟุตบอลรายการนี้จะสร้างความสนุกสนานให้กับทุกๆ คนใน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเราอาจจะได้พบช้างเผือกจากรายการนี้ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากเห็นนักกีฬาฟุตบอลจากภาคใต้ติดทีมชาติในอนาคต ซึ่งท่านนายกรัฐมนตรี ท่านให้การสนับสนุนและสั่งการไปหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องเรียบร้อยแล้ว"
"ส่วนการเดินทางไปประเทศรัสเซีย ในฐานะสมาคมฯ ได้รับเกียรติจากฟีฟ่า ให้ไปชมการเเข่งขันฟุตบอลโลก สิ่งที่ทำให้เห็นถึงความแตกต่างคือความแข็งแกร่ง ของทีมต่าง ๆ โดยเฉพาะชาติจากเอเชีย ทีมจากเอเชียไม่รองใคร แต่ไปเจอทีมใหญ่ๆ ผลจึงเป็นอย่างที่เห็น เพราะฉะนั้นถ้าทีมชาติไทยอยากไปบอลโลก ต้องเตรียมตัวให้มากกว่านี้ แม้โควต้าในปี 2026 จะเพิ่มขึ้นจาก 6 ทีม เป็น 8 ทีม แต่ถ้าเราไม่พร้อมก็จะเสียโอกาส ผมพูดเสมอว่าต้องพร้อมตั้งแต่วันนี้เพื่อโอกาสในวันข้างหน้า เช่นเดียวกับความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพวันนี้เท่าที่ทราบประเทศไทยมีเพียงสนามราชมังคลากีฬาสถานแห่งเดียวที่ได้มาตรฐาน วันนี้ผมเพียงสะกิดรัฐบาลว่าถ้าวันนั้นมาถึงเราไม่มีอะไรเลย หรือมีเท่าที่มีวันนั้นเราก็อาจจะไม่ได้สิทธิ์การเป็นเจ้าภาพหรือได้สิทธิ์เข้าแข่งขันในฐานะชาติเจ้าภาพ เพราะฉะนั้นที่ผมพูดทั้งหมดนี้อยากให้ทุกคนเข้าใจผมว่าเตรียมพร้อมไว้เพื่ออีก 10-20 ปี ข้างหน้า ซึ่งถ้าใครยังอยู่ถึงวันนั้นอาจจะคิดได้ว่าผมเคยพูดไว้แต่เราไม่เตรียมตัวกันเอง"
"ผมคิดว่า การพัฒนาจะต้องร่วมมือกันทุกภาคส่วน สมาคมฯ มีหน้าที่ดูแลช่วยเหลือ ทั้งครอบครัว ,นักกีฬา ,แฟนบอล ,สื่อ และ ผู้สนับสนุน มีความจำเป็นอย่างยิ่ง เราอยากเห็นสิ่งที่คนไทยฝัน ฟุตบอลไทยไปบอลโลก เพียงลำพังคงไม่สามารถทำให้เกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะระยะเวลาอันสั้น แต่ละทีมที่ไปจุดนั้นมีจุดเด่นและไม่ธรรมดา ต้องมีความมุ่งมั่นอย่างมาก"