ควันหลงจากการประชุมระหว่าง สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย กับ สโมสร ที 1 และ ที 2 ณ ห้องประชุมชั้น 4 อาคารเฉลิมพระเกียรติ การกีฬาแห่งประเทศไทย ของวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งวันดังกล่าวได้มีการเปิดเผยว่า มิโลวาน ราเยวัช กุนซือทีมชาติไทย จะเรียกนักเตะจากสโมสรไหนมาเข้าแคมป์ช่วงวันที่ 28 พ.ค.- 5 มิ.ย.นี้
ปรากฏว่า มีชื่อของ 4 นักเตะที่เล่นในต่างประเทศ ประกอบด้วย ชนาธิป สรงกระสินธ์ (คอนซาโดเล่ ซัปโปโร), ธีรศิลป์ แดงดา (ซานเฟรซเช่ ฮิโรชิม่า), ธีราทร บุญมาทัน (วิสเซล โกเบ) และ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ (โอเอช ลูเวิน) โผล่มาอยูในลิสต์ที่ทีมชาติไทย ชุดใหญ่ จะเรียกชื่อเข้ามาด้วย
โดยผู้ส่อข่าวได้รับรายงานว่า มิโลวาน รายเยวัช เห็นว่าในการป้องกันแชมป์ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018 ที่จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย. - 15 ธ.ค.นี้ ซึ่งอยู่ในช่วงฟีฟ่า เดย์ ซึ่งสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย มีสิทธิ์ที่จะดึงตัว ชนาธิป สรงกระสินธ์, ธีรศิลป์ แดงดา และ ธีราทร บุญมาทัน กลับมาร่วมทีมได้ตามกฎ 10 วัน แต่ถ้าเข้าสู่รอบรองไปจนถึงชิงชนะเลิศ ต้องรอดูต้นสังกัดของแข้งทั้ง 3 คนที่เล่น เจ ลีก ว่าจะส่งนักเตะมาได้หรือไม่
หลังจากพ้นรอบแรก เจ ลีก จะปิดลีกวันที่ 1 ธ.ค. จากนั้นก็เป็นโปรแกรมฟุตบอลถ้วย อย่างรอบชิงชนะเลิศเอ็มเพอเรอร์ส คัพ ก็จะเตะกันจนถึงวันขึ้นปีใหม่ โดยทัวร์นาเมนต์นี้จะเอาแชมป์ไปเล่นใน เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2019 รอบแบ่งกลุ่ม อีกด้วย ส่วนพร็อกซิมุส ลีก ของเบลเยียม ตามธรรมเนียมแล้วจะสู้กันจนกว่าจะใกล้ถึงช่วงคริสต์มาส นั่นหมายความว่า กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ อาจจะไม่ต้องกลับมาสู่ทีมชาติไทยในรายการดังกล่าวของอาเซียน
จึงเป็นสาเหตุให้ มิโลวาน ราเยวัช ได้ทำการลิสต์รายชื่อให้กับทางสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย เพื่อที่จะขอดึงตัว 4 ผู้เล่นที่กำลังค้าแข้งในต่างแดนกลับมาเข้าแคมป์ เนื่องจากคิดว่าจะเป็นช่วงเวลาสำคัญที่เขาจะได้ทดสอบทีมในการสร้างความพร้อม เพราะช่วงฟีฟ่า เดย์ อีกรอบตอน ก.ย.นี้ เจ้าตัวได้คืนเวลาทั้งหมดให้กับไทยลีก 2018 ซึ่งจะอยู่ในช่วงชี้เป็นชี้ตายวัดแชมป์ รวมทั้งหา 5 ทีมตกชั้น
อีกทั้ง เจ ลีก 2018 จะฟาดแข้งวันสุดท้ายวันที่ 20 พ.ค.นี้ ก่อนที่สมาคมฟุตบอลญี่ปุ่นจะปิดลีกชั่วคราวเพื่อให้กองทัพ "บูชิโด" ทำการเข้าแคมป์ลุยฟุตบอลโลก 2018 เช่นเดียวกับทางเบลเยียม นั่นจึงเป็นเหตุผลว่า มิโลวาน ราเยวัช จึงใช้ไม้ตายดังกล่าวเรียกนักเตะทั้ง 4 คนเข้ามาสู่ทีม
ทว่า ณ ตอนนี้ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ยังไม่ออกมาประกาศอย่างชัดเจนว่าจะให้ทีมชาติไทย เข้าแคมป์ที่ใด ซึ่งวางไว้ยังเป็นยุโรปเหมือนเดิม แต่เปลี่ยนเป็นประเทศสวิสเซอร์แลนด์ มีการยืนยันกับสโมสรว่า ไป-กลับใช้เวลาอย่างละ 2 วัน และไปซ้อมพร้อมอุ่นเครื่อง 1 นัดราว 5 วัน ทว่าได้รับการคัดค้านจากหลายสโมสรเพราะเห็นว่าจะไม่เป็นประโยชน์ต่อสภาพร่างกายนักเตะ ที่จะต้องใช้เวลาเดินทางยาวนาน แถมบาดเจ็บขึ้นมาก็ทำได้เพียงแค่รักษาตัวในทีม ไม่ได้ส่งเข้าโรงพยาบาลเพื่อสแกนอย่างละเอียดเหมือนเก็บตัวในไทย
ส่วนอีกแผนก็คือ ดึงทีมชาติจีน ชุดใหญ่ ที่มี มาร์เซลโล่ ลิปปี้ กุมบังเหียนในปัจจุบันมาอุ่นเครื่องที่ไทยวันที่ 2 มิ.ย.นี้ ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ซึ่งมีรายงานว่าการเจรจาคืบหน้าไปมากกว่า 80-90 เปอร์เซนต์แล้ว แถมยังตรงสเปคกับทางสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ที่ต้องการดึงทีมที่มีแรงกิ้งเหนือกว่า "ช้างศึก" มาลับแข้งด้วย โดยปัจจุบันขุนพล "มังกร" อยู่อันดับที่ 65 ของโลกร่วมกับเอกวาดอร์
ทั้งนี้ความเป็นไปได้ในการอุ่นเครื่องกับ จีน มีสูงมาก หลังจากพวกเขาจะลับแข้งด้วยการเปิดบ้านต้อนรับ จอร์แดน ในวันที่ 26 พ.ค.นี้ หากว่าสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย พับแผนที่จะพาทีมชาติไทย ไปเก็บตัวยังสวิสเซอร์แลนด์ ก็มีโอกาสที่แฟนบอล "ช้างศึก" จะได้เห็น มาร์เซลโล่ ลิปปี้ กุนซือดีกรีแชมป์ฟุตบอลโลก 2006 กับทีมชาติอิตาลีพาขุนพล "มังกร" มาเล่นที่สนามราชมังกีฬาสถาน วันที่ 2 มิ.ย.นี้