เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2561 ณ ห้องประชุม War Elephant ภายในสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ มีการประชุมสรุปผลงานของทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี หลังเสร็จสิ้นการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย ที่ประเทศจีน
การประชุมในครั้งนี้ นำโดย คุณ วิทยา เลาหกุล ประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิคฯ, คุณ พาทิศ ศุภะพงษ์ รองเลขาธิการฝ่ายต่างประเทศและโฆษกสมาคมฯ, คุณ สาวิน จรัสเพชรานันท์ หัวหน้าฝ่ายเทคนิคสมาคมฯ และ โซรัน ยานโควิช หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี
ภายหลังจากการประชุม "โค้ชเฮง" วิทยา เลาหกุล ประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิคฯ กล่าวว่า "ปกติ โค้ชทุกรุ่นจะต้องมีประเมินในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนกุมภาพันธ์ แต่วันนี้เราเรียกมาคุยถึงปัญหาภายในทีม เกี่ยวกับผลงานที่ผ่านมา เพราะฉะนั้นตรงนี้ยังไม่มีการตัดสินใจ แต่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งต้องรอในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์"
"จากผลงานที่ผ่านมา โซรัน บอกว่า มีปัญหาเยอะมาก รวมทั้งความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่าง สตาฟฟ์และผู้เล่น ตรงนี้ก็ต้องพิจารณาด้วย เราก็คงต้องเตรียมทีมสำหรับรุ่นต่อไป เพื่อให้พร้อมดีที่สุดในสองปีข้างหน้า เราก็ต้องดูว่าใครเหมาะสมที่สุดที่จะมาทำทีมชุดนี้ ซึ่งรวมถึง รุ่น 16 ปี และ 19 ปี รวมถึง 21 ปี ทัวร์นาเมนต์ต่อไปในการแข่งขันเอเชียน เกมส์ เราจะต้องเรียกกลุ่มนักเตะประมาณ 50 คน ไว้สำหรับทำการแข่งขัน 4 รายการในช่วงสองปีหลังจากนี้ รวมไปถึง ซีเกมส์ ครั้งต่อไป หลังจากนี้น่าจะมีการเปลี่ยนแปลง ทางสมาคมฯ ไม่ได้ต้องการปลดทาง วรวุธ ศรีมะฆะ แต่เจ้าตัวอยากจะลงมาเป็นผู้ช่วย เพื่อเรียนรู้จากโค้ชต่างชาติ ตรงนี้เขาก็คงได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง"
"การมาเป็นโค้ชทีมชาติไม่ว่าชุดไหน สิ่งแรกคือเรื่องเวลา และอย่างต่อมาคือเขาไม่สามารถแก้ตัวได้ ว่าขาดผู้เล่นคนไหน มันเป็นคำถามของผมเหมือนกันว่า ถ้าหากยังขาดผู้เล่นเหล่านี้ เขาจะทำอย่างไร ซึ่งผมก็ถามเขาตั้งแต่จะเข้ามารับงานแล้วว่า ผู้เล่นหลายคน หากไม่สามารถมาเล่นได้ ถ้าผลงานออกมาไม่ดี ก็ไม่สามารถแก้ตัวได้"
"เรื่องโค้ชใหม่ก็ยังไม่แน่ เพราะเราก็มีโค้ชที่เข้าอบรมระดับ โปรไลเซนส์หลายคนที่มีประสิทธิภาพมาก ทุกอย่างเป็นไปได้หมด แต่อยู่ที่ใครก็ตามที่เข้ามาทำทีมชาติ เขาต้องรู้ว่ารูปแบบของทีมชาติเป็นอย่างไร หากทำด้วยความคิดของตัวเอง ก็คงไม่เหมาะสม จะเป็นระบบการเล่นไหนก็ได้ แต่เขาต้องเข้าใจรูปแบบ มันเป็นหลักการของฟุตบอลทั่วโลก ที่โค้ชทุกคนจะต้องมีแนวทางที่เหมือนกัน ส่วนเอคโคโน เรานำเขามาเพื่อปูพื้นฐานเยาวชน เขาคงให้คำแนะนำกับโค้ช ซึ่งหน้าที่หลักเขาต้องดูนักฟุตบอลรุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี ลงไป"
"ส่วนทัวร์นาเมนต์ต่อไปอย่างเอเชียน เกมส์ ในส่วนของนักฟุตบอล เรามีสิทธิ์เลือกกลุ่ม 50 คน ก็ต้องคัดสรรมาจากรุ่นต่อไป ที่สามารถเล่นในโอลิมปิกได้ ส่วนคนที่อายุเต็มที่จะเข้ามาก็ต้องมีคุณภาพและสามารถช่วยทีมได้"
"ในส่วนของเวียดนาม เราเห็นว่าเขามีรูปแบบการเล่นที่ดีมากมาตั้งแต่ช่วงซีเกมส์แล้ว แต่เมื่อมาเจอไทยตอนนั้น ฟอร์มของเขาต่ำกว่ามาตรฐานมาก หากเรามองย้อนไปอีก เขาได้ทำงานกับทั้งโค้ชญี่ปุ่น และ เกาหลีใต้ ที่มาปูพื้นฐาน ซึ่งผมคิดว่าทัวร์นาเมนต์ชิงแชมป์เอเชีย หลายทีมไม่ได้ให้ความสำคัญเท่าไหร่ และเล่นต่ำกว่ามาตรฐาน ผมเชื่อว่าเด็กของเราสามารถเอาชนะเขาได้ หากต้องเจอกัน"
"ส่วนโค้ชทุกรุ่น เรามีแพลนไว้ในใจบ้างแล้ว ตอนนี้เรามีโค้ชหลายคนที่ผ่านการอบรม ระดับโปรไลเซนส์ เราจะให้โอกาสพวกเขา ซึ่งตอนนี้ยังบอกชื่อไม่ได้"
ด้าน โซรัน ยานโควิช กล่าวว่า "ประชุมครั้งนี้ถือว่าเป็นการประชุมครั้งแรกหลังจากจบการแข่งขันฟุตบอลรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ชิงแชมป์เอเชียที่ประเทศจีน วันนี้มีการพูดคุยสถานการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ผมยอมรับว่าผลงานที่ออกมานั้นมันไม่ดีตามที่สมาคมฯ และ แฟนบอลคาดหวัง หลังจากนี้อีกไม่มีกี่วันข้างหน้าจะมีการประกาศอีกครั้งจากสมาคมฯ ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป"
"ในทัวร์นาเมนต์นี้เราขาดผู้เล่นตัวหลักหลายคนที่ไม่ได้เดินทางไปแข่งขันด้วย ซึ่งแตกต่างจากทีมอื่นๆ ที่ใช้ผู้เล่นดีที่สุดไปแข่งขันที่จีน ผมคิดว่าเราน่าจะได้รับการสนับสนุนจากสโมสรมากกว่านี้ ต้องยอมรับว่าการแข่งขันชิงแชมป์เอเชียเป็นการแข่งขันที่จริงจัง สโมสรน่าจะให้โอกาสนักเตะมาติดทีมชาติไทย”
"เรื่องนักเตะกับโค้ชมีความสัมพันธ์ที่ดี แต่ว่าหลายเกมเราเล่นไม่ได้ตามแผนที่วางไว้ มีเกมเดียวที่นักเตะสามารถเล่นตามแท็คติคคือนัดเจอญี่ปุ่น ต้องเขาใจว่าเราเจอญี่ปุ่นเราต้องการเน้นเกมรับ ผมต้องการสร้างรากฐานของทีมจากเกมรับที่แข็งแกร่ง เกม ปาเลสไตน์ เราต้องการเล่นเกมรุกมากขึ้น ทำให้มีช่องว่างและทำให้ผลการแข่งขันออกมาอย่างที่เห็น เกมรับเราต้องเล่นกันทั้งทีม ไม่ใช่เล่นเกมรับแค่ 2-3 คน จังหวะเปลี่ยนเกมรับเป็นรุก เมื่อมีโอกาสเราต้องเปลี่ยนโอกาสเหล่านั้นเป็นประตูให้ได้”
"ยกตัวอย่างในฟุตบอล เอ็ม-150 คัพ เกมพบ เวียดนาม เราครองเกมเยอะและมีโอกาสทำประตูมากกมาย แต่เวียดนามมีโอกาสทำประตูเพียง 3 ครั้ง และได้ 2 ประตู ทำให้ชนะเราได้ เราต้องปรับปรุงทีมให้ดีขึ้นรุกก็รุกทั้งหมด รับก็รับทั้งหมด เชื่อว่าอนาคตจะทีมจะดีขึ้นอย่างแน่นอน”
"นักเตะทั้ง ชินภัทร์, สุริยา และ พิธิวัต นั้นเราพยายามหาตัวแทนนักเตะเหล่านี้ ผมพยายามหาแล้ว แต่เราหาไม่ได้ ผมเชื่อว่าถ้าทั้ง 3 คน บินมาสมทบกับเรา พวกเขาจะได้เป็นตัวจริงแน่นอน และจะทำให้ทีมของเรามีคุณภาพและแข็งแกร่งขึ้น"
"ตอนนี้มันยากที่จะพูด อย่างที่ทราบการตัดสินใจอยู่ที่สมาคมฯ การที่ผมออกก็เป็นเรื่องง่าย เพราะออกไปก็จบ แต่สิ่งสำคัญคือการหาปัญหา และนำมาปัญหามาปรับแก้ ผมอยากให้แฟนบอลมองกว้างๆ มองหาปัญหา เพื่อปรับทีมให้ดีขึ้นในอนาคต"
เมื่อถูกถามว่าหากไม่ได้เป็นเฮดโค้ชไทยU23 จะไปเป็นผู้ช่วยราเยวัช หรือไม่ โซรัน ตอบสั้นๆ ว่า "ตอนนี้ราเยวัชมีผู้ช่วยใหม่แล้ว"