มิโลวาน ราเยวัช เฮดโค้ชทีมชาติไทย วางเป้าหมายอุ่นเกือกกับทีมยุโรปในปีหน้า หรือทีมที่เข้าเล่นฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้าย ที่รัสเซีย ที่จะอยู่กลุ่มเดียวกับทีมในเอเชีย เพื่อให้ทัพ “ช้างศึก”เก็บประสบการณ์นานาชาติมากที่สุด
เมื่อเวลา 12.00 น. ของวันที่ 10 ตุลาคม 2560 ณ ห้องประชุม War Elephant ที่ทำการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ สมาคมฯ จัดการประชุมหารือ สรุปผลงานของฟุตบอลชายทีมชาติไทยชุดใหญ่ ที่ลงอุ่นเครื่องตามปฏิทินฟีฟ่า เดย์ ทั้งสองนัดที่ผ่านมา ในเกมบุกเยือนชนะ เมียนมา 3-1 และเล่นในบ้านเอาชนะ เคนยา ไป 1-0
การประชุมครั้งนี้ นำโดย พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ, คุณวิทยา เลาหกุล ประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิคสมาคมฯ พร้อมด้วย มิโลวาน ราเยวัช หัวหน้าผู้ฝึกสอน, มิโลวาน ซีร์โควิช ผู้ช่วยผู้ฝึกสอนคนใหม่, ซาซ่า โทดิช ผู้ฝึกสอนผู้รักษาประตูและ เนบอยซา สตาเมนโควิช ผู้ฝึกสอนด้านฟิตเนส
จากการพูดคุยกัน ผมเองไม่ได้ห่วงทีมชุดใหญ่มากนัก ทว่าได้ให้การบ้านกับ มิโลวาน ราเยวัช ไป นั่นคือ เรื่องของเกมรับ จะเห็นว่าที่ผ่านมาเกมรับของเราดี ทว่าจังหวะการครองบอลแม้ว่าจะทำได้ 20-30 ครั้ง แต่การจบสกอร์ไม่เฉียบขาด”
“อีกทั้งการโยนบอลเข้าไปส่วนใหญ่ บอลจะไปเข้ามือผู้รักษาประตูฝั่งตรงข้ามทั้งหมด เราต้องมีเป้าหมายและทิศทางที่ชัดเจนกว่านี้ การเล่นเกมโต้กลับเราจบสกอร์ไม่ได้ รวมถึงการโจมตีทางด้านข้าง ที่เราเปิดบอลเข้าไปแต่ไม่มีโอกาสลุ้นเลย ซึ่งตรงนี้เป็นอีกสิ่งที่ฝ่ายเทคนิคได้แนะนำโค้ช แต่ผมมั่นใจว่า มิโลวาน ราเยวัช จะสามารถทำได้ โดยเฉพาะ ผู้ช่วยคนใหม่อย่างมิโลวาน ซีร์โควิช ผมเชื่อว่าเขาจะสามารถแก้ไขปัญหาตรงนี้ได้"
ด้าน มิโลวาน ราเยวัช หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยชุดใหญ่ กล่าวว่า "อย่างแรกเลยผมยังคงติดตามดูฟอร์มนักเตะทุกลีกที่ยังแข่งขันอยู่ในปีนี้ เพราะปีหน้าเรายังมีโปรแกรมแข่งขันอย่างต่อเนื่อง ทั้งเกมอุ่นเครื่องฟีฟ่าเดย์และการแข่งขันฟุตบอลทัวร์นาเมนต์อื่นๆ ผมพยายามหานักเตะใหม่ๆ เข้ามาเล่นให้กับทีมชาติไทยอยู่เสมอ โดยเฉพาะนักเตะดาวรุ่ง เพื่อสร้างนักเตะเหล่านั้นให้เป็นกำลังสำคัญให้ทีมชาติไทยในอนาคต"
"นอกจากนี้เรายังวางแผนการเตรียมสำหรับการอุ่นเครื่องตามปฏิทินฟีฟ่าเดย์ในช่วงเดือนมีนาคมปีหน้า โดยในช่วงก่อนการแข่งขันฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย เราอยากหาโอกาสไปเก็บตัวที่ทวีปยุโรปดูบ้าง เพื่อหาโอกาสอุ่นเครื่องกับทีมชั้นนำในทวีปยุโรป ที่พวกเขาเตรียมเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย และอยู่กลุ่มเดียวกับทีมชาติ ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ หรือซาอุฯ เพราะพวกเขาอาจอยากอุ่นเครื่องกับทีมในทวีปเอเชีย"
นอกจากนี้ มิโลวาน ราเยวัช ยังกล่าวถึงการค้าแข้งในต่างแดนของนักเตะไทยว่า “แน่นอนเป็นสิ่งที่ดี ผมอยากเห็นนักเตะไทยไปเล่นฟุตบอลในญี่ปุ่นหรือทวีปยุโรป เพราะมันจะทำให้นักเตะได้รับประสบการณ์มากขึ้น ผมคิดว่าลีกญี่ปุ่นเป็นลีกที่แข็งแกร่งที่สุดในเอเชีย หากนักเตะไทยไปค้าแข้งที่นั่นเยอะๆ ผมคิดว่าจะสามารถต่อยอดความสามารถของนักเตะให้มีศักยภาพดียิ่งขึ้นในอนาคตครับ"
"ผมมีความสุขมากที่ตัดสินใจเข้ามาคุมทีมชาติไทย และคิดว่ามันเป็นการตัดสินใจถูกต้อง ผมขอบคุณแฟนบอลไทยทุกคนที่สนับสนุนผมเป็นอย่างดีตลอดมาอย่างที่ผมบอกว่าทีมชาติไทยจะประสบความสำเร็จไม่ได้ หากทุกคนไม่ช่วยกัน เราต้องเดินไปพร้อมกัน เติบโตไปด้วย ผมจะพยายามทำให้ทีมชาติไทยแข็งแกร่งยิ่งขึ้นต่อไป"
สำหรับ มิโลวาน ซีร์โควิช ปัจจุบันอายุ 62 ปี น้อยกว่า มิโลวาน ราเยวัช 2 ปี เคยผ่านการเล่นฟุตบอลอาชีพร่วมกันมาที่ นิว ยอร์ค แอร์โรว์ ของลีกสหรัฐอเมริกา ช่วงปี 1982 ก่อนที่จะมาเจอกันในลีกยูโกสลาเวียกับสโมสร โบรัค คาคัค ปี 1984 จากนั้นร่วมงานกันอีกครั้งในทีม ลุนด์ บีเค ในสวีเดน ช่วงซีซั่น 1985-1986
กระทั่งมาร่วมงานกันอีกครั้งในการเป็นผู้ช่วยโค้ชที่สโมสร อัล อาห์ลี ในลีกซาอุดิอาระเบีย ช่วงระยะเวลาสั้นๆตั้งแต่วันที่ 10 ก.ย.2010 ถึง 20 ก.พ.2011 จากนั้นได้ระหกระเหินไปทำทีมหลายแห่ง ซึ่งก่อนกลับมาเป็นมือขวา มิโลวาน ราเยวัช ในนามทีมชาติไทย เจ้าตัวเคยอยู่ในทีมโค้ชของ เมียนมา ปี 2014-2015 อีกด้วย
โดยเกมแรกที่ มิโลวาน ซีร์โควิช ทำหน้าที่มือขวา มิโลวาน ราเยวัช แทนที่ โซรัน ยานโควิช ซึ่งไปกุมบังเหียนทีมอายุไม่เกิน 21 ปีของทัพ “ช้างศึก”นั้น เกิดขึ้นในเกมอุ่นเครื่อง ชนะ เมียนมา 3-1 (ย) วันที่ 5 ต.ค.60 และ ชนะ เคนย่า 1-0 (ห) วันที่ 8 ต.ค.ที่ผ่านมา