เมื่อเวลา 10.00 น. ณ บริษัท ไทยลีก จำกัด อาคาร จิตต์อุทัยชั้น 14 ของวันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จัดการประชุมเพื่อพิจารณาการออกใบอนุญาต คลับ ไลเซนส์ซิ่ง ให้กับสโมสรสมาชิก ประจำฤดูกาล 2561 หรือปี 2018 ในระดับ โตโยต้า ไทยลีก และ เอ็ม 150 แชมเปี้ยนชิพ

 

    การประชุมในครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก ศุภสิน ลีลาฤทธิ์ อุปนายกฝ่ายจัดการแข่งขัน, พาทิศ ศุภะพงษ์ รองเลขาธิการฝ่ายต่างประเทศและโฆษกสมาคมฯ, เบนจามิน ตัน ผู้อำนวยการฝ่ายคลับ ไลเซนซิง สมาคมฯ และ รองประธานฝ่ายจัดการแข่งขันบริษัท ไทยลีก จำกัด, กรวีร์ ปริศนานันทกุล รองประธานฝ่ายจัดการแข่งขัน บริษัท ไทยลีก จำกัด, กรรมการ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่คลับ ไลเซนส์ซิ่ง

 

 

    สำหรับการประชุมครั้งนี้หัวข้อสำคัญคือการพิจารณา การส่ง คลับ ไลเซนส์ซิ่ง ผ่านระบบ CLAS ที่เพิ่งสิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2560 ที่ผ่านมา โดยหลักเกณฑ์สำคัญ ประกอบไปด้วย

 

    1. หลักเกณฑ์ด้านกีฬา (Sporting Criteria) คือเรื่องการพัฒนาเยาวชนของสโมสรหรืออคาเดมี ซึ่งต้องจัดทำแผนงานต่างๆ และโครงสร้างทางด้านนักกีฬาให้ครบถ้วน เป็นต้น

 

    2. หลักเกณฑ์ด้านโครงสร้างสนาม (Infrastructure Criteria) คือเรื่องของมาตรฐานสนามแข่งขัน ห้องอำนวยความสะดวกต่างๆ, แผนการรักษาความปลอดภัย, ระบบสาธาณูปโภค เป็นต้น

 

    3. หลักเกณ์ด้านการบริหารและทรัพยากรบุคคล (PERSONAL AND ADMINISTRATIVE CRITERIA) ซึ่งสโมสรสมาชิก จะต้องมีเจ้าหน้าที่ในแต่ละฝ่ายตามที่ทาง เอเอฟซี กำหนดไว้ เป็นต้น

 

    4. หลักเกณฑ์ด้านกฏหมาย (LEGAL CRITERIA) ที่ต้องมีหนังสือยอมรับข้อระเบียบต่างๆ, เอกสารนิติบุคคลของสโมสร เป็นต้น

 

    5. หลักเกณฑ์ด้านการเงิน (FINANCIAL CRITERIA) ที่ต้องมีงบดุล และงบการเงินที่ได้รับการรับรองจากผู้สอบบัญชี, ไม่มีการค้างค่าเหนื่อยนักฟุตบอล, บุคลากร รวมถึงภาษี, แผนการเงินในอนาคต เป็นต้น

 

    หลังการประชุม ศุภสิน ลีลาฤทธิ์ อุปนายกฝ่ายจัดการแข่งขัน ได้เผยว่า จากที่ผ่านมาที่สมาคมกีฬาฟุตบอลได้กำหนดให้แต่ละทีมต้องส่งเอกสารคลับ ไลเซนส์ซิ่ง ซึ่งเป็นเหมือนเอกสารการันตีตอบรับว่าทีมจะส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลรายการต่างๆของสมาคมกีฬาฟุตบอลในฤดูกาลหน้า 2018 หรือไม่ เพื่อนำส่งขึ้นทะเบียนกับสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเซียหรือ เอเอฟซี 

 

    แต่ ปรากฏว่าขณะนี้ยังมีอีก 2 ทีมในลีกที 2 อย่าง นครปฐม ยูไนเต็ด และ สมุทรสงคราม เอฟซี ที่ยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จทั้งๆที่สมาคมฯได้แจ้งให้ทราบและเร่งให้ดำเนินการไปแล้วแต่ปรากฎว่าทั้ง 2 ทีมยังคงนิ่งเฉยทั้งๆที่เลยกำหนดกรอบระยะเวลาที่ต้องส่งเอกสารให้เอเอฟซี มาระยะหนึ่งแล้ว โดยหากทั้ง 2 ทีมไม่ส่งฤดูกาลหน้าก็จะหมดสิทธิเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลในประเทศไทยอย่างแน่นอนและเอเอฟซี ก็จะไม่รับรองอีกด้วย ส่วนจะมีบทลงโทษใดๆจากสมาคมกีฬาฟุตบอลเพิ่มเติมก็ต้องรอพิจารณากันอีกครั้ง

 

   สำหรับสองสโมสรจากที 2 และยังไม่ได้ส่งเอกสารเพื่อขอ คลับ ไลเซนส์ซิ่ง ได้แก่ นครปฐม ยูไนเต็ด และ สมุทรสงคราม เอฟซี โดยพวกเขาจะมีเวลาในการยื่นอุทธรณ์ต่อคณะอุทธรณ์ในวันที่ 9 ต.ค.นี้ หากว่ายังไม่ส่งอีกก็ไม่สามารถที่จะทำการแข่งขันในปี 2018 ได้ ส่วนทีมที่ส่งมาแล้วเรายังไม่ได้ตรวจสอบให้ชัดว่าครบถ้วนหรือไม่ เพราะเรายังพอมีเวลาที่จะเช็กหลักฐานทุกอย่าง หากว่ามีข้อผิดพลาดก็สามารถนำกลับไปแก้ไขได้ทัน