"โค้ชโย่ง" วรวุธ ศรีมะฆะ กุนซือใหญ่ทีมชาติไทย ได้เผยว่า "หลังจากเราถึงโรงแรมที่พักคงเตรียมตัวลงซ้อมทันที เพราะเราให้ทีมงานเตรียมสถานที่เอาไว้หมดแล้ว ส่วนเรื่องสภาพสนามไม่น่ามีปัญหา เนื่องจากทุกคนเคยเจอกับสภาพสนามแบบนี้มาก่อน ตอนไปเล่นที่ประเทศเวียดนาม และทุกคนน่าจะปรับตัวได้"
"ในส่วนเรื่องความกดดัน ผมมองว่าคงไม่มีแล้ว เพราะเราได้ทำการตัดตัวเรียบร้อย อีกอย่างการเล่นนอกบ้านมันมีทั้งข้อดีและข้อเสีย โดยข้อดีคืออาจไร้แรงกดดันต่างๆมากกว่าอยู่ในประเทศ ส่วนสิ่งที่ไม่ดีคือเสียงเชียร์ที่อาจลดลง แต่การที่ทุกคนเดินทางได้ไปอุ่นเครื่องที่ต่างปรเทศบ่อยๆก็น่าจะช่วยได้เยอะ"
ชี้4ชาติกระดูกชิ้นโตท้าชิงทอง
ต่อข้อซักถามที่ว่าได้มองคู่แข่งทีมใดที่อันตรายมากที่สุดของทีมชาติไทย "โค้ชโย่ง" บอกต่อว่า "จริงๆแล้วมีอยู่ 4 ชาติ คือมาเลเซีย (เจ้าภาพ), เวียดนาม, อินโดนีเซีย และ เมียนมาร์ ที่อาจจะเข้ามาสร้างความหนักใจให้กับทีมเรา หรืออาจจะเข้ามาสอดแทรกในทัวร์นาเม้นต์นี้
"ทั้งนี้ก็ต้องขอดูเกมการแข่งขันด้วยว่า พอถึงสถานการณ์จริงแล้ว แต่ละชาติจะส่งรายชื่อนักเตะว่ามีใครบ้าง เพราะว่ารายการชิงแชมป์เอเชียกับซีเกมส์มันคนละชุด ซึ่งอาจจะทำให้โครงสร้างของทีมเปลี่ยนไปบ้าง ฉะนั้นต้องไปดูหน้างานกันอีกที"
ไม่ผลี่ผลามบุกแต่เน้นโจมตีเร็ว
"โค้ชโย่ง" ยังได้เผยถึงสไตล์ของทีมชาติไทยที่จะเดินทางไปแข่งขันมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 29 ที่ประเทศมาเลเซีย ต่อไปอีกว่า "เราคงไม่เน้นเกมบุกมากเกินไป อาจจะตั้งรับให้เหนียวแน่นแล้วคอยโต้กลับก็ได้ เพราะต้องดูจากสถานการ์ของเกมแต่ละนัด"
"ต้องยอมรับว่าศักยภาพของนักเตะชุดนี้ไม่เหมือนกับชุดแชมป์ครั้งที่แล้ว เราไม่มีเพลยเมคเกอร์ เราไม่มีตัวโฮลดิ้ง เพราะทุกคนมีเลเวลที่เท่ากัน ฉะนั้นเราจึงต้องใช้ระบบทีมในการเล่น เราอาจจะต่อบอลน้อยลง แต่จะมีเน้นประสิทธิภาพในการโจมตีให้เร็วขึ้น"
ชูทีมสปิริตคือจุดแข็งช้างศึกพิชิตทอง
ในส่วนจุดแข็งของทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ครั้งที่ 29 นี้ "โค้ชโย่ง" บอกว่า "ผมมองเป็นเรื่องของทีมสปิริต เพราะจะเห็นได้ว่าทีมเรามีการเปลี่ยนแปลงเรื่องตัวนักเตะเข้า-ออกอยู่ตลอดเวลา แต่พอถึงสถานการณ์ที่หลังชนฝา ทุกคนก็ช่วยกันเล่นสามารถคว้าชัยชนะทำได้"
"ส่วนตัวมีความมั่นใจว่าทีมจะประสบความสำเร็จ แต่ทั้งนี้ก็ต้องขอดูเกมการแข่งขันด้วยว่า พอถึงสถานการณ์จริงแล้วเราจะก้าวเข้าสู่รอบรองฯโดยเป็นอันดับที่เท่าไหร่ หรือว่าทำยังไงก็ได้ให้ทีมผ่านเข้าสู่รอบรองฯก่อน ส่วนจะพบกับใครนั้นค่อยมาว่ากันอีกที หรือพูดง่ายๆว่าขอโฟกัสนัดต่อนัด"
"เดียร์"กำชับลูกทีมต้องคุมอารมณ์
ด้าน "มาดามเดียร์" วทันยา วงษ์โอภาสี ผู้จัดการทีมสาวแสนสวย ได้เผยเพิ่มเติมว่า "เรามีความพร้อม 98 เปอร์เซ็นต์แล้ว เหลือเพียงการฝึกซ้อมให้เข้ากับสภาพอากาศและสภาพสนาม ซึ่งทางเราพยายามบอกนักเตะทุกคนตลอดเวลาว่า อยากทุกคนโฟกัสเพียงเรื่องฟุตบอลและระบบการเล่นเท่านั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือเรื่องการดูแลรักษาสภาพร่างกายให้พร้อมสมบูรณ์อยู่เสมอ เพราะอย่าลืมว่าเรามีโปรแกรมลงสนามแบบวันเว้นวัน"
"การไปแข่งขันครั้งนี้ไม่ใช่แค่เรื่องในสนามที่ต้องควบคุมอารมณ์ แต่นอกสนามทุกคนก็ต้องปฏิบัติตัวให้ดีด้วย เพราะอย่าลืมว่าการไปแข่งขันครั้งนี้เราไปในฐานะตัวแทนของทีมชาติไทย ดังนั้นทุกคนต้องปฏิบัติตัวให้อยู่ในกรอบเสมอ"
"กัปตันเจน" เผยสภาพร่างกายดีขึ้นเรื่อยๆ
ขณะที่ "กับตันเจน" เจนรบ สำเภาดี ได้ออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับความพร้อมของทีมชาติไทยชุดนี้ว่า " ตอนนี้สภาพทีมของเราค่อนข้างพร้อม ทุกอย่างลงตัวก็เหลือไปปรับสภาพที่มาเลเซีย อย่างเช่นเรื่องสภาพอากาศรวมไปถึงทำความคุ้นเคยกับสนามแข่งขันซึ่งใช้หญ้ามาเลฯซึ่งเป็นหญ้าใบใหญ่อาจจะไม่คุ้นเคยแต่ โดยรวมคิดว่าไม่มีปัญหาอะไร ส่วนสภาพร่างกายของผมในตอนนี้ก็ดีขึ้นเรื่อยๆเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์เต็มแล้ว
กับเกมนัดแรกที่จะพบกับทีมชาติ อินโดนิเซีย ผมมองว่าสำคัญมากที่สุด และส่วนมากนัดแรกของทัวนาเมท์จะเป็นเกมที่ยากสำหรับนักฟุตบอลทุกคนอยู่แล้ว แต่พวกเราจะพยายามทำให้เต็มที่และมั่นใจว่าจะเอาชัยชนะได้อย่างแน่นอน ก็อยากจะฝากถึงพี่ๆแฟนบอลชาวไทยทุกคนช่วยเป็นกำลังใจให้กับทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ชุดนี้ด้วยนะครับเราจะทำเต็มที่เพื่อนำเหรียญทองมาฝากชาวไทยให้ได้"
"เจ้ายิม" รับกดดันร่วมทัพซีเกมส์ครั้งแรก
"เจ้ายิม" วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ มิดฟิลด์ดาวรุ่งจากสโมสร ชลบุรี เอฟซี ที่ติดทีมชุดซีเกมส์ครั้งนี้ในวัยเพียง 19 ปี ซึ่งถือว่าเป็น้องเล็กสุด โดยผู้สือข่าวได้ถามเจ้าตัวว่ารู้สึกอย่างไรกับการติดทีมชาติ และกดดันหรือไม่ ซึ่งเจ้าตัวได้เปิดเผยว่า "ก่อนอื่นผมดีใจมากที่มีชื่อติดทีมชุดนี้ ก็ไม่คิดว่าจะมีชื่อเพระรุ่นพี่ในทีมทุกคนก็ฝีเท้าดี มาก แต่ก็ดีใจที่โค้ชเลือกเรามาติดทีมด้วย ยอมรับว่ารู้สึกดดันเล็กน้อย เพราะเราอายุน้อยสุด แต่พี่ๆทุกคนก็ช่วยเหลือและดูแลเป็นอย่างดีทำให้คลายความกดดันลงไปได้มาก ส่วนเป้าหมายของผมหากมีโอกาสลงสนามก็จะทำให้เต็มที่ และจะนำเหรียญทองกลับมาให้ได้ครับ"
"เจ้าบอล" เชื่อมั่นไทยดับ"อิเหนา"นัดเปิดหัว
ทางฝั่ง"เจ้าบอล" ชัยวัฒน์ บุราณ ตัวริมเส้นฝั่งซ้ายของทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ ได้ออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับสภาพร่างกายของตนเอง ซึ่งก่อนหน้านี้ได้รับบาดเจ็บมา โดยเจ้าตัวได้กล่าวว่า " ตอนนี้สภาพร่างกายของผมก็กลับมาหายดีแล้ว ซึ่งหากจะต้องลงเล่นอย่างต่อเนื่องหลายเกมก็ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร แต่ผมก็พร้อมเต็มที่ทุกนัด ส่วนนัดแรกที่จะพบกับทีมชาติอินโดนีเซีย ซึ่งเคยเจอกันมาแล้วในรายการชิงแชมป์เอเซีย ก็อย่างที่ทราบว่าตอนนั้นเราวัดอะไรไม่ได้"
"เพราะสภาพสนามก็อย่างที่หลายคนทราบทันค่อนข้างไม่พร้อม เกมนั้นทั้งสองทีมต่างเล่นบอลยาวเข้าหากันเลยไม่รู้ว่าจริงๆแล้วฝีเท้าของพวกเขาในสภาพสนามปกติเป็นอย่างไร ส่วนสนามซึ่งเป็นหญ้าใบใหญ่ ผมว่าไม่เป็นปัญหาเราจะไม่เอาตรงจุดนี้มาเป็นข้ออ้างอย่างเด็ดขาด ผมมั่นใจในศักยภาพของทีมชาติไทยว่าจะสามารถเอาชนะอินโดนีเซียในเกมแรกได้อย่างแน่นอน และทีมชาติไทยดีพอที่จะคว้าแชมป์ซีเกมส์ครั้งนี้ครับ"