ศึกฟุตบอล u23 ชิงแชมป์เอเชีย กลุ่มเอช ทีมชาติไทย ลงเล่นนัดสุดท้ายในรอบแบ่งกลุ่มพบกับอินโดนีเซีย
สถานของกลุ่มนี้ ไทย ต้องชนะเท่านั้น เพื่อการผ่านเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่ม แต่ถ้าเสมอ หรือ แพ้ มาเลเซีย ซึ่งมี 6 แต้ม จาก 3 นัด จะเป็นแชมป์กลุ่มแทน
นัดนี้ ช้างศึก ส่ง เจนรบ สำเภาดี ที่ยิงสองประตูในเกมมาเลเซีย ออกสตาร์ตเป็น 11 ตัวจริง ประสานงานกับชัยวัฒน์ บุราณ และ ศศลักษณ์ ไหประโคน
นาทีที่16 อินโดนีเซีย ได้ลุ้นจากจังหวะเตะมุมที่ เฟ็บรี่ ฮาริยาดี่ เปิดเตะมุมมาให้ ฮันซามู ยาม่า โขกที่เสาแรก แต่บอลยังหลุดกรอบออกไปไกล
นาทีที่17 ทีมชาติไทย ยู-23 เกือบได้ประตูออกนำ จากจังหวะที่ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ วางบอลตัดจากขวาไปซ้ายให้ ชัยวัฒน์ บุราณ ยิงด้วยซ้าย เคอร์เนียวาน การ์ติก้า รับกระฉอกในจังหวะแรก แต่ยังตามมาแก้ตัวได้สำเร็จ
จุดที่น่าสนใจของเกมนี้ คือนาทีที่ 20 ฝนกระหน่ำลงมาที่สนามศุภชลาศัยอย่างหนัก และตกยาวจนจบครึ่งแรก จนสนามกลายมามีน้ำขัง เหมือนกับแมตช์ที่เสมอมองโกเลีย
การมีน้ำขังทำให้ไทยเล่นยาก ต่อบอลกันไม่ได้ ก่อนจะจบครึ่งแรก 0-0
โค้ชโย่งพยายามแก้เกมส่งตัวรุกมากขึ้น โดย เอาสิทธิโชค กันหนู ซึ่งเป็นแนวรุกลงมาช่วยในการยิงประตู เพราะสถานการณ์แบบนี้ไทยต้องชนะอย่างเดียวเท่านั้น
เข้าสู่ครึ่งหลัง แม้จะแก้เกมแล้ว แต่ไทยยังไม่ดีขึ้น และคอนโทรลบอลแทบไม่ได้ ต้องใช้การโยนยาวอย่างเดียว ซึ่งก็โดนกองหลัง อินโดนีเซียตัดบอลได้หมด
นาทีที่ 64 อินโดนีเซีย เกือบนำ 1-0 จากจังหวะเติมเกมของออสวัลโด้ อาร์ดิเลส ฮาย ได้จิ้มบอลเหน่งๆในเขตโทษ แต่เฉี่ยวเสาไปแบบเส้นยาแดงผ่าแปด
ในเวลาที่เหลือ ทั้งสองทีม ไม่มีไอเดียในการเจาะเข้าทำ ได้แต่โยนไปมาถึงเขตโทษของอีกฝ่าย แล้วก็เสียบอลกันง่ายๆ
สุดท้ายจบเกม 90 นาที ไทยเสมออินโดนีเซียไป 0-0 เก็บได้ 5 แต้มในรอบแบ่งกลุ่ม จบอันดับ 2 ของสายเอช ขณะที่มาเลเซียมี 6 แต้ม ได้แชมป์กลุ่มไปครอง
อย่างไรก็ตาม ไทยยังมีสิทธิเข้าไปเล่นรอบสุดท้าย ที่จีน ในต้นปีหน้า แต่ต้องรอลุ้นผลของกลุ่มอื่นด้วย โดย ใน 10 กลุ่ม ทีมอันดับสองคะแนนดีสุด 6 กลุ่มแรก จะได้ไปเล่นในรอบสุดท้ายต่อไป
รายชื่อ 11 ตัวจริงของไทย
นนท์ ม่วงงาม, สุริยา สิงห์มุ้ย, ศฤงคาร พรหมสุภะ, ชินภัทร์ ลีเอาะ, รัตนากร ใหม่คามิ, พิธิวัต สุขจิตธรรมกุล ,นพพล พลคำ, ศศลักษณ์ ไหประโคน, วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ,ชัยวัฒน์ บุราณ, เจนรบ สำเภาดี