ความเคลื่อนไหวของทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ในการลุยศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย กลุ่ม บี นัด 7 บุกมาเยือน ญี่ปุ่น ที่สนามไซตามะ สเตเดี้ยม 2002 วันที่ 28 มี.ค.นี้ ช่อง 7 สี ถ่ายทอดสด ตามเวลาไทย 17.35 น. เป็นต้นไป

  ล่าสุดเมื่อเวลา 18.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นของญี่ปุ่นที่เร็วกว่าไทย 2 ชั่วโมง)ของวันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่ห้องแถลงข่าวภายในสนาม ไซตามะ สเตเดี้ยม 2002 "ซิโก้"เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือใหญ่ของทีม พร้อมด้วย สินทวีชัย หทัยรัตนกุล นายทวารทีมชาติไทย ได้ร่วมกันแถลงความพร้อมของทีม
 
 
          "ซิโก้"บอกว่า "เกมกับญี่ปุ่นผมคิดว่าพวกเขาเป็นทีมที่ดีที่สุดในกลุ่ม บี เห็นชัดว่านัดก่อนที่ ญี่ปุ่น บุกไปชนะ ยูเออี 2-0 ทำให้โมเมนตั้มที่จะเกิดขึ้น เป็นเกมที่ยากของเราแน่นอน ไม่ว่าจะเป็น เทคนิคของผู้เล่นและแท็กติกของทั้งสองทีม แต่สิ่งที่ผมได้คุยกับนักเตะทุกคนก็คือ ใจที่เราอบยากจะเล่นแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่มีอะไรเสียหาย"

 
          "หลายปีมานี้เราไม่มีโอกาสเล่นกับทีมที่แข็งแกร่งที่สุดในเอเชียอย่าง ญี่ปุ่น เลย เป็นโอกาสที่ดีที่เราจะได้เล่นกับทีมที่ไปฟุตบอลโลกมาแล้วหลายครั้ง เพื่อเล่นต่อหน้าแฟนบอลเจ้าถิ่น รวมทั้งกองเชียร์ไทยที่มาชม และให้กำลังใจทางบ้าน เราจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด"
 

  ไม่คิดเลียนแบบลอดช่องมาเสมอ 0-0

          พอล เมอร์ฟี่ นักข่าวสก๊อตแลนด์ของ อีเอสพีเอ็น ซึ่งประจำอยู่ที่เมืองไทย ได้สอบถาม "ซิโก้"เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เฮดโค้ช "ช้างศึก" ว่า ทีมจากอาเซียนอย่าง สิงคโปร์ เคยมาประสบความสำเร็จด้วยการยันเสมอ ญี่ปุ่น 0-0 ในสนาม ไซตามะ สเตเดี้ยม 2002 มาแล้ว เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.2016 ในฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง

 
          ซึ่งจะเป็นเรื่องผลักดันให้กับทีมชาติไทย ในฐานะที่มาจากอาเซียนด้วยการ ก่อนที่จะต่อกรกับขุนพลจากเนอาทิตย์อุทัยหรือไม่ นายใหญ่ที่มีถิ่นกำเนิดจาก อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น บอกว่า "สิงคโปร์ ทำได้ดีในการบุกมาเสมอกับ ญี่ปุ่น 0-0 ซึ่งเราเองก็ไม่รู้ว่าจะทำได้ดีเช่นนั้นหรือไม่ วันนี้เรายังหวังลึกๆว่าการมาได้ 1 คะแนนจะสามารถตอบโจทย์ให้กับเราได้ หรือได้ 3 แต้ม แต่ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายในการมาพบกับเจ้าถิ่นที่เล่นอย่างแข็งแกร่งในบ้านตัวเอง"

 
          "อย่างไรก็ตาม ญี่ปุ่น ต้องการการันตีการไปฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้าย ที่ประเทศรัสเซีย ให้ได้ ซึ่งทีมใดที่มี 15-16 คะแนน จะสามารถไปถึงจุดนั้นได้ ทำให้พวกเขาจะเปิดเกมรุกแน่นอน แต่เราจะทำงานให้หนัก หากว่านักเตะเราท็อปฟอร์มอะไรก็เกิดขึ้นได้ในโลกฟุตบอล"
 

  มั่นใจลูกทีมเปิดเกมรุกสู้สนุกตลอด 90 นาที

          ผู้สื่อข่าวเจ้าถิ่นได้สอบถามว่า "ซิโก้"ว่า อะไรคือสาเหตุที่ทำให้ทีมชาติไทย ปราชัยในบ้านตัวเองต่อ ซาอุดิอาระเบีย 0-3 ในวันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา รวมทั้งจะส่งผลต่อสภาพจิตใจในเกมที่จะพบกับ ญี่ปุ่น ศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย กลุ่ม บี ที่สนามไซตามะ สเตเดี้ยม 2002 วันที่ 28 มี.ค.นี้ หรือไม่ ก่อนที่เจ้าตัวจะบอกว่า

          "เกมกับ ซาอุดิอาระเบีย เราต้องการ 3 คะแนน ทำให้เราเปิดเกมรุกเข้าใส่ เพราะเราได้เล่นในบ้านแบบเต็มพิกัดด้วย แต่คู่ต่อสู้ไม่ได้เพรสซิ่งเรามากมาย ทว่าเรามาเสียประตูแรกเร็ว ทำให้เราไม่มีทางเลือก ที่จะเล่นรับตลอดทั้ง 90 นาที จึงเป็นสาเหตุในการเสียลูกที่สอง ที่กองหลังของเราผิดพลาดกันในการทำเข้าประตูตัวเอง"

          "แน่นอนว่าการเสียไป 2 ลูก ทำให้เกมของเราต้องเปิดกว่าเดิม นำมาซึ่งการแพ้ 0-3 ผมเชื่อว่าเกมนั้นแม้จะไม่ได้ 3 คะแนนในบ้านตัวเอง แต่เราลืมความเจ็บปวดในวันนั้นไปแล้ว เรากำลังโฟกัสไปที่เกมต่อไป เพื่อให้คู่แข่งเจอกับเกมที่ยากที่สุดในการพบกับทีมชาติไทย จะเล่นให้สนุก ทำให้ดีที่สุด ดึงศักยภาพของนักเตะออกมาใช้ รวมทั้งใช้เกมรุกสู้ตลอด 90 นาที"
  
 

  มีคนแทน "อุ้ม"ทุกคนฝันเหยียบรังไซตามะ

          ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวญี่ปุ่นและไทย ได้สอบถาม "ซิโก้"เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือใหญ่ของทีมชาติไทย เกี่ยวกับการติดโทษแบนของ ธีราทร บุญมาทัน กัปตันทีม และการที่นักเตะลืมเกมจากการแพ้ ซาอุฯ 0-3 ว่าจะส่งผลถึงเกมกับญี่ปุ่นอย่างไร เจ้าตัวบอกว่า

          "การขาดกัปตันทีมชาติไทย อย่าง ธีราทร บุญมาทัน อาจจะทำให้ทีมของเรามีจุดอ่อนลงบ้างในเรื่องของลูกเซ็ตพีท และลูกตั้งเตะตามจุดต่างๆ แต่มันจะส่งผลดีต่อทีมของเราในเรื่องของ การให้คนลงไปทดแทน เราคิดถึงเรื่องของแท็กติกเป็นหลัก ส่วนตัวบุคคลเราอยากจะใช้สไตล์ที่เราเคยเป็นอยู่ ในเรื่องของทีมเวิร์ก และนักเตะของเรามีความกระหายอยากจะลงเล่นอีกด้วย"

          "และเป็นเวลานานแล้วที่เราไม่ได้มาเล่นในบ้านญี่ปุ่นนานแล้ว รวมถึงตัวของผมเองด้วยที่มาครั้งสุดท้ายในปี 1992 ในการเจอกับ คาซูโยชิ มิอูระ เกือบจะ 25 ปีแล้ว ผมมาครั้งนี้ได้มาคุมทีมชาติไทย รวมทั้งเจอกับทีมที่ดีที่สุดในเอเชีย มันคือความโชคดีที่เราจะเล่นให้สนุก เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ทั้งหมด"

          "เราอยากจะเห็นทีมชาติไทย เดินในเวทีเอเชียบ่อยๆ และสนามไซตามะ สเตเดี้ยม 2002 ยังใช้ในฟุตบอลโลก 2002 ไม่ใช่ทีมใดที่จะมาได้ง่ายๆ ซึ่งนักเตะทุกคนมีความใฝ่ฝันที่อยากจะมาเหยียบสนามแห่งนี้"
 

  ขอมี "เจ" 11 คนเพื่อไปบอลโลกเหมือนญี่ปุ่น

          พร้อมกันนี้สื่อญี่ปุ่นยังสอบถามว่า การที่ ชนาธิป สรงกระสินธ์ เพลเมกเกอร์ของทีมชาติไทย จาก เอสซีจี เมืองทองฯ จะมาเล่นใน เจ ลีก กับ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ด้วยสัญญายืมตัวช่วงเดือน ก.ค.นี้ จะทำให้สร้างความกดดันในการเจอกับ ญี่ปุ่น หรือไม่
 

          "ซิโก้" ให้สัมภาษณ์ว่า "ชนาธิป สรงกระสินธ์ เป็นนักเตะฝีเท้าดีคนหนึ่งของทีมชาติไทย ต้องขอขอบคุณทางญี่ปุ่นที่เซ็นสัญญากับ เจ ในการมาค้าแข้งที่ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร เพราะเขามีคุณภาพ หากว่าเขาโชว์ฟอร์มได้ดี เราอยากจะเห็นนักเตะอย่างเขาสัก 11 คน ในการมาเล่นใน เจ ลีก"
 

          "เพราะเราเองมีความฝันเหมือนกับญี่ปุ่น ที่จะไปฟุตบอลโลกให้ได้ ฉะนั้นเราอยากจะให้มีนักเตะที่มีคุณภาพ ด้วยการหล่อหลอมโดยมีแบบอย่างที่ชื่อ ชนาธิป สรงกระสินธ์ อีกด้วย"
 

  เล่นเพื่อถวายในหลวง รัชกาลที่ 9

 
          คำถามสุดท้ายของนักข่าวเจ้าถิ่นได้ยิงประเด็นว่า เกมที่ 5 ซึ่งทีมชาติไทย เปิดบ้านเสมอกับ ออสเตรเลีย 2-2 นั้น ผู้เล่นหลายคนสู้กันแบบลืมเหนื่อย เพื่อถวายให้กับพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุยเดช ซึ่งการพบกับ ญี่ปุ่น จะเหมือนในวันนั้นหรือไม่
 

          นายใหญ่ทีมชาติไทย บอกว่า "ปีที่แล้วเราเล่นเพื่อถวายให้กับในหลวง รัชกาลที่ 9 ซึ่งทำผลงานได้ดีในการเจอกับ ออสเตรเลีย ในปีนี้จะเห็นได้ว่าสีเสื้อของเราเปลี่ยนจากน้ำเงินเป็นสีดำ เพราะเราต้องการถวายความอาลัยให้กับพระองค์ท่านอยู่ ในวันที่ 28 มี.ค.นี้ เราจะใส่สีขาวเป็นการไว้อาลัยอีกครั้งหนึ่ง และเราจะเล่นถวายพระองค์ท่านอีกครั้ง"
 

          ด้าน สินทวีชัย หทัยรัตนกุล ผู้รักษาประตูของทีมชาติไทย เปิดใจว่า การเจอกับ ญี่ปุ่น เป็นเกมที่หนัก แต่สิ่งที่สพคัญที่สุดก็คือทีมของเรา มีนักเตะที่อายุน้อยและพร้อมที่จะเรียนรู้เหมือนกับที่ญี่ปุ่น เคยเรียนรู้ถูกผิดมาก่อน จึงเป็นเกมที่ทีมของเราจะได้รับประสบการณ์กลับไป เพื่อพัฒนาตัวเองไปในทางที่ดีเหมือนกับเจ้าบ้าน

         ฟาก วาฮิด ฮาลิลฮ็อดซิช เฮดโค้ชของทีมชาติญี่ปุ่น ยอมรับว่า แฟนบอลซามูไรจำนวนมาก มองข้ามชอตไทยไปแล้ว คิดว่าจะชนะได้ง่ายๆ แน่นอน แต่เขาอยากบอกว่า นี่เป็นเกมที่ยากกว่าที่คิด ในการแถลงข่าวความพร้อมของทีมเมื่อวันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา ณ สนาม ไซตามะ สเตเดี้ยม 2002

         "การที่เราบุกไปเอาชนะยูเออีได้อย่างสวยงามแบบนั้น ทำให้ใครๆ ก็คิดว่าเราจะชนะไทยได้ง่ายๆ แต่ผมคิดว่ามันเป็นเกมที่ยากกว่าที่คิดมากนัก เพราะไทยคือทีมที่ดี และที่สำคัญพวกเขากำลังกระหายในชัยชนะเกมแรกด้วย"
               
          "เราเห็นหลายทีมที่ประมาทคู่แข่ง สุดท้ายได้ผลการแข่งขันที่น่าผิดหวังมาเยอะแล้ว ดังนั้น จะไม่มีการประมาทคู่แข่ง แม้พวกเขาจะเป็นอันดับสุดท้ายของกลุ่ม ผมบอกนักเตะหลังจบเกมว่า ชัยชนะเหนือยูเออีจะไม่มีความหมายเลยถ้าเราไม่ชนะไทยในเกมวันพรุ่งนี้"