สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ วางคิวหยุดพักลีกให้กับทีมชาติเพียงแค่ช่วงเดียวเดือนก.ค. เท่านั้น เพื่อเปิดทางให้กับทีมทีมชุดอายุไม่เกิน 23 ปี ที่จะทำศึกฟุตบอลยู 23 ชิงแชมป์เอเชีย 2018 รอบคัดเลือก ขณะที่ทีมชุดใหญ่ ที่มีคิวทำศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือกโซนเอเชีย 12 ทีมสุดท้ายที่เหลือ 5 นัดมองว่าเป็นช่วงฟีฟ่าเดย์อยู่แล้ว รวมถึงช่วยซีเกมส์เดือนส.ค.ที่ประเทศมาเลเซีย ก็จะไม่มีการหยุดลีกแต่อย่างใด
โดยทางพาทิศ ศุภะพงษ์ รองเลขาธิการสมาคมฯ และโฆษกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้ออกมากล่าวว่า "ฤดูกาล 2017 จะมีโปรแกรมของ ทีมชาติไทย รายการต่างๆ มาขั้นกลางฟุตบอลลีก ซึ่งได้พิจารณาแล้วว่าจะมีการหยุดลีกในช่วงกลางเดือน กรกฎาคม เพียงช่วงเดียวเท่านั้น ซึ่งช่วงนั้นจะเป็นโปรแกรมของทีมชุดอายุไม่เกิน 23 ปี ที่จะทำศึกฟุตบอลยู 23 ชิงแชมป์เอเชีย 2018 รอบคัดเลือก เพราะเป็นรายการสำคัญ ส่วนทีมชุดใหญ่ ที่มีเตะฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย อีก 5 นัดประกอบด้วย วันที่ 23 มีนาคม เปิดบ้านพบ ซาอุดิอาระเบีย, วันที่ 28 มีนาคม เยือน ญี่ปุ่น, วันที่ 13 มิถุนายน เปิดบ้านพบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, วันที่ 31 สิงหาคม เปิดบ้านพบ อิรัก และวันที่ 5 กันยายน เยือน ออสเตรเลีย ซึ่งเป็นช่วง ฟีฟ่าเดย์อยู่แล้วตามปกติ จึงไม่มีปัญหาอะไร ดังนั้นการแข่งขันฟุตบอลลีกจึงจะไม่หยุดการแข่งขัน ส่วนซีเกมส์ ครั้งที่ 29 ที่ประเทศมาเลเซีย ในเดือนสิงหาคม แม้นักเตะส่วนใหญ่จะเป็นชุดอายุไม่เกิน 23 ปี แต่ทางสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ฯ มีการพิจารณาแล้วก็จะไม่หยุดการแข่งขันกมลีกเช่นกัน "
ขณะเดียวกันทาง " บิ๊กอ๊อด" พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ก็ได้กล่าวถึงคิวลงสนามอุ่นเครื่องของทีมชาติไทยชุดใหญ่ ที่ปีหน้ามีเพียงนัดเดียวคือวันที่ 7 มิ.ย. ที่จะยกพลไปลับแข้งกับ อุซเบกิสถาน ซึ่งนัดดังกล่าวเป็นไปตามฟีฟ่าเดย์ ที่จะมีการสะสมคะแนนอยู่แล้วนั้นว่า ต้องขอโทษแฟนบอลชาวไทยด้วย ที่ปี 2017 จะมีคิวอุ่นเครื่องให้ทีมชาติไทยเพียงนัดเดียว ซึ่งทางสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ พยายามที่จะหาทีมที่ดีที่สุดแล้ว และกาทีมที่มีแรงกิ้งสูงกว่ามาลงอุ่นเครื่องกับทีมชาติไทย เพื่อเป็นการเพิ่งแรงกิ้งให้กับทีมชาติ เนื่องจากเข้าใจดีว่าแฟนบอลไทยไม่ต้องการให้ทีมชาติต้องมาอยู่เบอร์ 2 ของอาเซี่ยนตามแรงกิ้ง ที่ผ่านมาทุกคนก็พยายามทำหน้าที่กันทุกฝ่ายอย่างดีที่สุดขอชื่นชม ทว่าทีมชาติฟิลิปปินส์ ที่แรงกิ้งเป็นเบอร์ 1 อาเซี่ยน
ส่วนหนึ่งก็มาจากเกมลีกไม่ค่อยมีมากนักทำให้สามารถหาคิวอุ่นเครื่องให้กับทีมชาติได้ง่ายกว่า ทว่าอย่างไรทางสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ก็จะพยายามหาคิวอุ่นเครื่องของทีมชาติไทยชุดใหญ่ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ในปี 2017 เพื่อหวังว่าจะได้มีแรงกิ้งที่สูงขึ้นและนักเตะเองก็จะได้รับ ประสบการณ์ที่ดีสำหรับการพัฒนาต่อไปในอนาคต