ช้างศึก" ทีมชาติไทย ที่มีโปรแกรมแข่งขันรายการสำคัญในปี พ.ศ.2560 คือฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย กลุ่ม บี โดยเหลือโปรแกรมเตะอีก 5 นัด ประกอบด้วย วันที่ 23 มีนาคม เปิดบ้านพบ ซาอุดิอาระเบีย, วันที่ 28 มีนาคม เยือน ญี่ปุ่น, วันที่ 13 มิถุนายน เปิดบ้านพบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, วันที่ 31 สิงหาคม เปิดบ้านพบ อิรัก และวันที่ 5 กันยายน เยือน ออสเตรเลีย ซึ่งปัจจุบันผ่านมา 5 นัด ไทย รั้งอันดับสุดท้ายของกลุ่ม มีเพียงคะแนนเดียว จากการจากการบุกแพ้ ซาอุดีอาระเบีย 0-1, เปิดบ้านแพ้ ญี่ปุ่น 0-2, บุกแพ้ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1-3, บุกแพ้ อิรัก 0-4 และเปิดบ้านเสมอ ออสเตรเลีย 2-2  ขณะที่อันดับเพื่อนร่วมกลุ่ม 1.ซาอุฯ 10 คะแนน 2.ญี่ปุ่น 10 คะแนน 3.ออสเตรเลีย 9 คะแนน 4.สหรัฐอาหรับอิมิเรสต์ 9 คะแนน 5.อิรัก 3 คะแนน
 

          ล่าสุดทาง "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ได้กล่าวถึงคิวลงทำศึกของทีมชาติไทยชุดใหญ่ว่า ปี 2560 ทีมชาติไทย มีงานที่ค่อนข้างหนัก เพราะเป็น 5 นัดสุดท้ายที่จะชี้ชะตาว่า "ช้างศึก" ดีพอสำหรับการผ่านเข้ารอบสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย หรือไม่
 

          "แน่นอนว่าเป็นงานที่ยากลำบากมากที่เดียว เพราะ 5 นัดที่เหลือเราจะพลาดไม่ได้เด็ดขาด แม้โอกาสเข้ารอบจะเหลือน้อยแต่เราต้องสู้และตั้งเป้าหมายของเราเอาไว้ เพื่อเป็นแรงใจให้กับทุกคน โดยส่วนผมตั้งเป้าเอาไว้ว่าจะต้องเก็บให้ได้ 6-7 แต้ม ซึ่งเราจะได้เล่นในบ้านถึง 3 นัด เจอทีมจากตะวันออกกลางทั้งหมด คือ ซาอุดิอาระเบีย, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และอิรัก คิดว่าน่าจะสู้ได้ และหากเป็นไปได้เราก็หวังว่าจะสามารถเก็บชัยชนะทุกนัด ส่วนเกมเยือน ญี่ปุ่น กับ ออสเตรเลีย ก็ต้องทำเต็มที่ เพื่อหวังที่จะแบ่งคะแนนอีกเช่นกัน  ทั้งนี้แม้ว่า 6-7 คะแนนอาจไม่เพียงพอต่อการเข้ารอบสุดท้าย  แต่ฟุตบอลอะไรก็เกิดขึ้นได้ ทีมที่เหมือนจะหมดลุ้นก็มีโอกาสพลิกสถานการณ์เข้ารอบได้เหมือนกัน แต่เราต้องทำให้ได้ตามเป้าหมายเสียก่อน ซึ่งทุกคนจะต้องร่วมแรงร่วมใจกันเป็นหนึ่งเดียว"

          "ซิโก้" กล่าวต่อว่าตนเองเข้าใจดีว่าแฟนบอลตั้งความหวังกับทีมชุดนี้ค่อนข้างสูง แต่การเข้ามาเล่นในระดับเอเชียย่อมไม่มีอะไรง่าย ทีมชาติไทยเป็นเพียงทีมเดียวของย่านอาเซี่ยนที่เข้ามาถึงรอบนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นแล้วว่าเราก้าวมาอีกขั้น เพียงแต่เราจะทำอย่างไรต่อไปในการรักษาระดับการเล่นในเอเชียให้ได้ ซึ่งเป็นการบ้านหนักที่เราต้องก้าวเดินต่อไป ให้มีความมั่นคง ขณะเดียวกันในปีหน้า อีกหนึ่งสิ่งที่แฟนบอลอาจได้เห็นในปี 2560 คือผู้เล่นหน้าใหม่ที่จะก้าวขึ้นมาติด ทีมชาติไทย ซึ่งเราพร้อมที่จะเปิดโอกาสให้กับทุกคนอยู่แล้ว

          "ปีที่แล้วเราได้ สิโรจน์ ฉัตรทอง กองหน้าจากอุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด  ซึ่งไม่เคยผ่ายการเล่นระดับเยาวชนทีมชาติมาก่อน แต่สามารถก้าวขึ้นมาติด ทีมชาติไทย ได้ ดังนั้นปี 2560 หากใครทำผลงานได้ดีก็มีโอกาสติดทีมชาติได้เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับฟอร์มการเล่นในสโมสร"
 

          ขณะที่ บริษัท วาริกซ์ สปอร์ต จํากัด ซึ่งเป็นผู้ชนะการประมูลชุดแข่งขัน ทีมชาติไทย จากสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ในระะเวลา 4 ปี นับตั้งแต่ พ.ศ.2560-2563 ล่าสุด "วาริกซ์" ได้ปล่อยทีเซอร์ชุดสำหรับกองเชียร์ออกมาเรียกน้ำย่อยแฟนบอลแล้ว

           โดยเสื้อดังกล่าวเรียกว่า "เสื้อเชียร์" ซึ่งผลิตออกมาสำหรับแฟนบอล โดยเป็นเสื้อสีดำ คอวี มีโลโก้ "ช้างศึก" ติดอยู่หน้าอกด้านซ้าย ส่วนด้านขวาเป็นโลโก้ของ "วาริกซ์" ส่วนเนื้อผ้ามีลวดลายผสม ภายใต้คอนเซปต์ "We are the 12th warrior" สนนราคา 390 บาท ซึ่งจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการและจำหน่ายวันที่ 5 มกราคม 2560 แฟนบอลที่สนใจสามารถสั่งซื้อได้ที่เซเว่น อีเลฟเว่น, เว็บไซต์ www.lazada.co.th, ซุปเปอร์สปอร์ต, สปอร์ตมอลล์, ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ หรือสอบถามรายละเอียดที่หมายเลขโทรศัพท์ 027117600 และ www.warix.co.th