การแข่งขันฟุตบอล ''ทันห์ เนียน นิวส์เปเปอร์ คัพ 2016'' ที่สนามตอง นัท สเตเดี้ยม ณ กรุงโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 59 เวลา 18.00 น. ที่ผ่านมา ทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี มีคิวลงสนามในเกมนัดชิงชนะเลิศกับโยโกฮาม่า เอฟซี ยู-23 ซึ่งผลงานก่อนหน้านี้ทีมชาติไทยทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในรอบแรกด้วยการเอาชนะ กังวอน เอฟซี จากเกาหลีใต้ 6-2 และเอาชนะ ฮอง อันห์ ยาลาย จากเวียดนาม 1-0 ทำให้ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม บี จากการเก็บ 6 คะแนนเต็ม และเอาชนะเวียดนาม ยู-23 มาได้ 3-1 ในรอบตัดเชือก ก่อนที่จะทะลุเข้ามาสู่รอบชิงในการเจอกับโยโกฮาม่า เอฟซี 
        
          โดยเกมนี้ ทีมชาติไทย ยู-23 ภายใต้การคุมทัพของสองกุนซือชั่วคราวอย่าง ''โค้ชหระ'' อิสระ ศรีทะโร กับ ''โค้ชก้าง'' นฤพล แก่นสน จัดผู้ตัวเล่นชุดที่ดีที่สุดลงสนามเล่นในระบบ 4-2-3-1 ประกอบไปด้วย ผู้รักษาประตู รัตนัย ส่องแสงจันทร์ แผงหลัง 4 คน ไล่จากซ้ายไปขวา แบ็กซ้าย สุริยา สิงห์มุ้ย คู่เซนเตอร์ฮาล์ฟ วรวุฒิ นามเวช ประสานงาน เนติพงษ์ แสนมะฮุง ส่วนแบ็กขวาเป็นหน้าที่ของ ชินภัทร์ ลีเอาะ กลางรับสองคนเป็นหน้าที่ของ นพพล พลคำ ที่คอยยืนตัดเกมกับ วงศกร ชัยกุลเทวินทร์ ด้าน 3 ประสานในแนวรุกประกอบไปด้วย ชัยวัฒน์ บุราณ ลงลากเลื้อยทางริมเส้นฝั่งขวา ด้านซ้ายวาง ณัฐวุฒิ สมบัติโยธา ส่วนหน้าต่ำเป็นหน้าที่ของ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ และหน้าเป้าส่ง เจนรบ สำเภาดี ลงล่าตาข่าย
        
          เริ่มเกมเป็นทีมชาติไทยที่เดินเกมบุกเข้าใส่ทางโยโกฮาม่า เอฟซี จนกระทั่งในนาที 17 ทีมชาติไทยเกือบมาได้ประตูออกนำไปก่อนจากจังหวะที่ ชัยวัฒน์ บุราณ เปิดบอลทางด้านขวาของสนามเข้ามาปากประตู เป็นแนวรับของโยโกฮาม่าที่สกัดบอลไม่ขาด บอลมาเข้าทาง ณัฐวุฒิ สมบัติโยธา แต่ยิงเหินข้ามคานออกไปนิดเดียว
        
          นาที 36 กลับเป็นโยโกฮาม่า เอฟซี ที่เกือบมาได้ประตูขึ้นนำบ้างจากจังหวะยิงไกลหน้ากรอบเขตโทษของ โคซึเกะ ไซโกะ ที่ซัดบอลไปชนคานเด้งออกหลัง ก่อนที่ในนาที 39 ทีมไทยมาได้ลุ้นอีกครั้งจากจังหวะโต้กลับเร็วขึ้นมา โดยเป็น ณัฐวุฒิ สมบัติโยธา ที่ได้ลองสับไกบริเวณหัวกะโหลก แต่บอลหลุดกรอบออกไปนิดเดียว ช่วงท้ายเกมครึ่งแรก ทั้งสองทีมก็ยังคงพยายามเปิดเกมแลกใส่กันอย่างสนุก แต่ทว่าในจังหวะสุดท้ายทั้งสองทีมไม่สามารถเข้าไปในพื้นที่สุดท้ายได้ ทำให้หมดครึ่งแรกยังคงเสมอกันที่ 0-0
       
          กลับมาลุยต่อในครึ่งหลัง ทีมไทยแก้เกมด้วยการส่ง ศศลักษณ์ ไหประโคน ลงมาเล่นแทน วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ และนาที 57 ทีมไทยเกือบมาได้ประตูจากลูกฟรีคิกระยะเกือบ 30 หลา ของ สุริยา สิงห์มุ้ย แต่ยิงบอลไปตรงตัวผู้รักษาประตูของโยโกฮาม่า เอฟซี ถัดมาในนาที 61 ทีมไทยมาเปลี่ยนตัวผู้เล่นอีก 1 คน ด้วยการส่ง สุประวีณ์ มีประทัง ลงมาเล่นแทน ชัยวัฒน์ บุราณ
      
          จากเกมบุกต่อเนื่องของทีมไทย จนกระทั่งในนาที 63 ทีมไทยพลาดได้ประตูขึ้นไปอย่างน่าเสียดายเมื่อ เจนรบ สำเภาดี ได้บอลบริเวณด้านซ้ายของหัวกะโหลก ก่อนจะแทงบอลทะลุช่องไปให้ สุประวีณ์ มีประทัง ที่เติมเกมรุกขึ้นมา ก่อนจะตัดสินใจกดบอลด้วยซ้ายเต็มข้อเหินข้ามคานออกไปนิดเดียวเท่านั้น
      
          นาที 72 ทีมไทยเปลี่ยนตัวผู้เล่นคนสุดท้ายด้วยการส่ง กิตติพงษ์ วงมา ลงมาแทน นพพล พลคำ ก่อนที่เจ้าตัวจะมาได้บอลมาในจังหวะถัดมาแล้วเลี้ยงบอลจี้เข้าหน้าปากประตูแล้วกดบอลด้วยขวาแต่บอลนั้นเบาไป เข้ามือผู้รักษาประตูโยโกฮาม่า
      
          ช่วงท้ายเกมในนาที 87 โยโกฮาม่ามาได้ประตูออกนำทีมไทย 1-0 จากจังหวะลูกเตะมุม เป็นทาง ชิริว อิโตะ ที่ฉีกตัวประกบของทีมไทยก่อนจะขึ้นโหม่งบอลเข้าไป จากนั้นเป็นทีมไทยที่พยายามเดินเกมบุกหวังทวงประตูตีเสมอ แต่ก็ทำไม่สำเร็จ จบเกมทีมไทยพ่ายให้กับโยโกฮาม่า 0-1 ส่งผลให้ทีมไทยยังคงไม่สามารถคว้าแชมป์ในรายการนี้ได้ต่อไปนับตั้งแต่ปี 2007 ที่ส่งทีมเข้าร่วมการแข่งขัน
      
          ส่วนผลการแข่งขันในคู่ชิงอันดับที่ 3 ผลปรากฏว่าเป็น ฮอง อันห์ ยาลาย ที่เอาชนะ เวียดนาม ยู-23 1-0 ส่งผลให้ฮอง อันห์ ยาลาย คว้าอันดับที่ 3 ส่วนเวียดนาม ยู-23 คว้าอันดับ 4, อันดับ 5 เมียนมาร์ และอันดับ 6 กังวอน เอฟซี (เกาหลีใต้)