ฟุตบอล เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2016

วันพฤหัสบดีที่ 8 ธันวาคม 2559

ไทย 4 - เมียนมาร์ 0 (รวมผล2นัดไทยชนะ6-0)

         ศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2016 รอบรองชนะเลิศ นัดสอง ในวันที่ 8 ธ.ค. ที่ผ่านมา ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน แชมป์เก่าในรายการนี้อย่าง ทีมชาติไทย เปิดบ้านพบกับ เมียนมาร์ หลังจากเกมแรกบุกไปชนะ 2-0 หากว่าใครที่ชนะในเกมนี้จะเข้าไปพบกับ อินโดนีเซีย ในรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งแมตช์แรกจะต้องบุกไปเยือนก่อนในวันที่ 14 ธ.ค. นี้ ก่อนกลับไปเฝ้ารังในนัดสอง วันที่ 17 ธ.ค. 59

         สำหรับ 11 ผู้เล่นที่ลงสนามของทีมชาติไทย ในศึก เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2016 รอบรองชนะเลิศ นัดสอง วันที่ 8 ธ.ค. 59 ภายใต้การกุมบังเหียนของ ''ซิโก้'' เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ได้ยึดระบบ 3-4-1-2 และมีการเปลี่ยนตัวนักเตะเพียงแค่ 2 ตำแหน่งเท่านั้นจากเกมรอบรองชนะเลิศ นัดแรก เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. ที่ผ่านมา มี กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ เฝ้าเสา แผงหลัง ประทุม ชูทอง, ธนบูรณ์ เกษารัตน์, อดิศร พรหมรักษ์ วิงแบ็กฝั่งซ้าย ธีราทร บุญมาทัน ยังคงบัญชาการ ฝั่งขวาจะเป็น ทริสตัน สมชาย โด คู่กลางยังคงวาง ปกเกล้า อนันต์ กับ สารัช อยู่เย็น มี ''เมสซี่เจ'' ชนาธิป สรงกระสินธ์ เป็นตัวรุกทำเกมลากเลื้อย ขณะที่ ''กัปตันมุ้ย'' ธีรศิลป์ แดงดา จะลงล่าตาข่ายเพื่อสร้างสถิติใหม่ร่วมกับ ศราวุฒิ มาสุข ที่ยิงในรายการนี้ไปแล้ว 2 ประตู

         ส่วน เมียนมาร์ ยังคงมีตัวหลักๆ ที่มาจากรอบรองชนะเลิศ เกมแรก ลงสนามหลายราย ไม่ว่าจะเป็น คยอ ซิน เพียว, ซอ มิน ตุน, เดวิด ฮะตัน, คยอ นันดา, คยอ ยาน ออง, อ่อง ตู

          ออกสตาร์ตครึ่งแรก น.3 เจ้าบ้านเสียฟรีคิก หลังจาก ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ไปกระแทก พยอ โค โค ตรงฝั่งขวา ทว่า อ่อง ตู เปิดบอลออกหลัง น.6 ซอ มิน ตุน เปิดเตะมุมฝั่งขวาเข้าไปในเขตโทษโดนแนวรับทีมชาติไทยเคลียร์ทิ้งออกมาได้เสียก่อน

         น.9 ''ช้างศึก'' หวิดทะยานนำจากการทักทายครั้งแรก หลังจาก ทริสตัน สมชาย โด เปิดบอลเรียดจากขวา ศราวุฒิ มาสุข วิ่งข้ามหลอกก่อนที่บอลไปถึง ธีรศิลป์ แดงดา วิ่งเข้ามายิงแต่บอลข้ามคาน
 

          น.13 ทาน เพียว ตวัดยิงหน้าเขตโทษเยื้องออกมาทางขวา แต่บอลไปเข้ามือ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ น.17 สารัช อยู่เย็น พยายามจ่ายบอลทะลุช่องเข้าไปในเขตโทษให้ ศราวุฒิ มาสุข แต่บอลลึกไปเข้ามือ คยอ ซิน เพียว น.19 ทีมชาติไทยพลาดการขึ้นนำอีกครั้ง คราวนี้ ธีราทร บุญมาทัน เปิดเตะมุมฝั่งขวาไปให้ ธีรศิลป์ แดงดา โฉบเข้ามาโหม่งส่งบอลไปโดนคาน
น.23 ลวิน มัง มัง ได้โอกาสยิงไกลแต่บอลพุ่งออกหลัง น.26 ชนาธิป สรงกระสินธ์ แทงบอลออกมาทางซ้ายให้กับ ธีราทร บุญมาทัน เปิดเข้าไปในเขตโทษ คยอ นันดา โหม่งเคลียร์ออกไปก่อนที่บอลไปถึง ธีรศิลป์ แดงดา กองหน้ากัปตันทีมชาติไทย
 

                                                                ''ศราวุฒิ''ตอร์ปิโดบกส่งไทยนำ 1-0
   

          น.27 ลิว มัง มัง ปั๊มบอลแย่งจาก ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ทางฝั่งขวาแล้วยิงยัดไปที่เสาแรก กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ยังเซฟไว้ได้ น.29 ธีราทร บุญมาทัน วางบอลจากกลางออกไปทางขวา ศราวุฒิ มาสุข สปีดไปเอาบอลก่อนที่จะเปิดกลับมากลางประตู คยอ ซิน เพียว ยังคว้าบอลได้ก่อนถึง ธีรศิลป์ แดงดา
 

            น.30 พยอ โค โค พลาดการรับใบเหลืองหลังจากเบรกเกมบุกของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ น.32 แฟนบอล ''ช้างศึก'' ได้เฮ หลังจาก ธีราทร บุญมาทัน วางบอลแบบแม่นยำจากทางซ้ายไปให้ ศราวุฒิ มาสุข โหม่งแบบตอร์ปิโดบกส่งบอลเข้าไป ทำให้ทีมชาติไทยออกนำ 1-0 และสกอร์รวมไทยหนีเมียนมาร์ 3-0 อีกทั้งยังเป็นเม็ดที่สามของ ''เจ้าหนุ่ย'' ในรายการนี้ ขึ้นมาเป็นรองดาวซัลโวเท่ากับ โบอาซ โซลอซซ่า กองหน้าของอินโดนีเซีย
 

           น.37 ทีมเยือนหวิดตีเสมอหลังจาก คยอ ยาน อ่อง กองกลางกัปตันทีมวางเท้ายิงลูกใบไม้ร่วงจากหน้าเขตโทษ บอลหวิดจะเสียบคาน แต่ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ทะยานปัดบอลออกหลังได้ทัน น.43 ทริสตัน สมชาย โด เตะบอลอัด เมียวโค ตุน บอลหวิดเสียบสามเหลี่ยมแต่ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ยังทุบบอลทิ้งได้
 

            น.44 สารัช อยู่เย็น จ่ายบอลเข้าไปในเขตโทษ ชนาธิป สรงกระสินธ์ หลอก คยอ ซิน เพียว นายทวารทีมเยือนจังหวะแรก แต่สุดท้าย ''เมสซี่เจ'' กลับตวัดยิงไม่ทัน บอลจึงไปเข้ามือผู้รักษาประตูเมียนมาร์ เวลาที่เหลือไม่มีใครทำสกอร์เพิ่ม หมดครึ่งแรกทีมชาติไทยยังนำอยู่ 1-0 สกอร์รวมสองนัดหนีไป 3-0

"ธีราทร" ซัดโทษส่งไทยหนี 2-0
 

          ครึ่งหลังทีมชาติไทยส่ง สิโรจน์ ฉัตรทอง ลงไปแทน ธีรศิลป์ แดงดา ซึ่งปลอกแขนกัปตันทีมถูกส่งต่อไปให้กับ ธีราทร บุญมาทัน และ น.46 หวิดแผลงฤทธิ์หลังจากหลุดเข้าไปที่เสาแรก แต่กองหน้าจาก อุบล ยูเอ็มที กลับซัดโด่งส่งลูกลอยออกหลังไป

          น.47 ทาน เพียว หลุดเข้าไปยิงที่หน้าเขตโทษส่งบอลพุ่งชนสามเหลี่ยมเสาสองอย่างจัง น.52 ธีราทร บุญมาทัน หลอกยิงฟรีคิกฝั่งขวาส่งบอลเลี้ยวข้ามคานไปนิดเดียว น.55 ธีราทร บุญมาทัน วางบอลยาวขึ้นหน้าให้กับ สิโรจน์ ฉัตรทอง แต่จังหวะสุดท้ายโดน คยอ นันดา ตัดบอลไปได้
 

           น.60 ทีมชาติไทย แก้เกมครั้งที่สองด้วยการส่งประวีณวัช บุญยงค์ ลงไปแทน ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ที่มีอาการบาดเจ็บออกไปพัก น.61 เมียว โค ตุน หลุดเข้าไปยิงในเขตโทษ แต่ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ยังเซฟได้ด้วยมือเพียงข้างเดียวเท่านั้น
 

          น.64 "ช้างศึก" มาได้จุดโทษ หลังจาก ศราวุฒิ มาสุข กระชากบอลเข้าเขตโทษ ก่อนที่จะโดน คาน ยาน อ่อง ยกเท้าสูงเข้าไปที่หน้าอกจนล้มลงไปผู้ตัดสินให้จุดโทษ ก่อนจะเป็น ธีราทร บุญมาทัน ที่อาสาสังหารไม่พลาดส่งให้ ทีมชาติไทย หนี เมียนมาร์ 2-0 สกอร์รวมสองนัดทะยานนำ 4-0 และเป็นลูกที่สองในรายการนี้ของเจ้าตัวหลังเคยทำได้ในปี 2012 เกมรอบรอง นัดสอง ที่ชนะ มาเลเซีย 2-0
 

                                                                 "ปีโป้"ยิงวันเกิด,"เมสซี่เจ"ก็ซัด
  

          น.66 แกร์ด ซีเซ่ กุนซือเมียนมาร์ โดนไล่ขึ้นข้างบนอัฒจันทร์ หลังจากไปต่อว่าผู้ตัดสิน น.68 ทีมชาติไทย หวิดมาได้สกอร์ที่สาม หลังจาก คยอ ซิน เพียว เตะบอลออกมาไม่ดี สารัช อยู่เย็น จับบอลแล้วยิงเน้นๆหน้าเขตโทษ เดวิด ฮะตัน สกัดบอลได้ทันก่อนที่จะเข้าประตู
 

          น.74 "ช้างศึก" ส่ง ชาริล ชัปปุยส์ ลงไปแทน สารัช อยู่เย็น และ น.75 ชาริล ชัปปุยส์ แผลงฤทธิ์ หลังจากจับบอลจังหวะแรกแล้วเปิดไปให้ สิโรจน์ ฉัตรทอง กระชากบอลเข้าเขตโทษฝั่งขวาก่อนที่จะยิงยัดเสาแรก ส่งบอลแสกหน้า คยอ ซิน เพียว เข้าประตูไป ทำให้ทีมชาติไทย หนี เมียนมาร์ 3-0 สกอร์รวมทิ้งห่าง 5-0 และยังเป็นประตูแรกอย่างเป็นทางการของเจ้าตัวในการเล่นให้กับทีมชาติไทย ชุดใหญ่ นอกจากนี้ยังเป็นสกอร์ฉลองครบรอบ 24 ปี ในวันคล้ายวันเกิดวันที่ 8 ธ.ค.59 อีกด้วย

          น.81 ชาริล ชัปปุยส์ ลองส่องไกลระยะ 35 หลา บอลติดไซด์ก้อยเลี้ยวออกหลัง น.82 "ช้างศึก" ยังไม่เพลาสกอร์ หลังจาก ปกเกล้า อนันต์ ไหลบอลไปให้ ศราวุฒิ มาสุข หลุดไปทางฝั่งซ้ายในเขตโทษ ก่อนที่จะจ่ายมาให้ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ซัดส่งบอลเข้าไป ทำให้ทีมชาติไทย หนี เมียนมาร์ 4-0 สกอร์รวมสองนัดทิ้งห่าง 6-0 
 

           จากนั้นไม่มีสกอร์เกิดขึ้น จบเกมทีมชาติไทย ชนะ เมียนมาร์ 4-0 สกอร์รวมสองนัดอัดไป 6-0 เข้าไปป้องกันแชมป์ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2016 สมัยที่ 5 นอกจากนี้ยังเป็นการเข้ารอบชิงชนะเลิศ ครั้งที่ 8 จากการลงเล่นมา 20 ปี ของถ้วยใบนี้

            ซึ่งผลงานในรอบชิงชนะเลิศ 7 ครั้งที่ผ่านมาของทีมชาติไทย ประกอบด้วย ปี 1996 แชมป์ (ชนะ มาเลเซีย 1-0), ปี 2000 แชมป์ (ชนะ อินโดนีเซีย 4-1), ปี 2002 แชมป์ (ชนะจุดโทษอินโดนีเซีย 4-2), ปี 2007 รองแชมป์ (แพ้ สิงคโปร์ สกอร์รวม 2 นัด 2-3), ปี 2008 รองแชมป์ (แพ้ สิงคโปร์ สกอร์รวม 2 นัด 2-3), ปี 2012 รองแชมป์ (แพ้ สิงคโปร์ สกอร์รวม 2 นัด 2-3) และปี 2014 แชมป์ (ชนะ มาเลเซีย สกอร์รวม 2 นัด 4-3)    
                                                      
 
          สำหรับศึก เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2016 รอบชิงชนะเลิศ ทีมชาติไทย จะออกไปเยือน อินโดนีเซีย ในวันที่ 14 ธ.ค.นี้ ที่สนาม ปากันซารี และจะกลับมาเล่นในรอบชิงชนะเลิศ นัดสอง ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน ในวันที่ 17 ธ.ค.59 เวลา 19.00 น. ซึ่ง ช่อง 7 สี และ ฟ็อกซ์ สปอร์ต จะถ่ายทอดสดให้ชมทั้ง 2 แมตช์