ศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2016
ไทย - สิงคโปร์
ศึกฟุตบอล เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ กลุ่ม เอ นัดสอง เมื่อวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา มีการบรรเลงเพลงแข้งทั้งหมด 2 คู่ ที่สนาม ฟิลิปปินส์ สปอร์ต สเตเดี้ยม เริ่มต้นด้วย ทีมชาติไทย จ่าฝูงของสาย ซึ่งเอาชนะ อินโดนีเซีย มา 4-2 ลงสนามพบกับ สิงคโปร์ ที่มีอยู่ 1 แต้ม จาการเจอกับ ฟิลิปปินส์ 0-0
ก่อนเริ่มเกมราว 2 ชั่วโมงครึ่ง "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือใหญ่ของทีมชาติไทยได้นำนักเตะมาถึงสนาม ฟิลิปปินส์ สปอร์ต สเตเดี้ยม โดยมี "เสี่ยเช" วรพจน์ ยศะทัตต์ ผช.ผจก.ทีม ถือพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวง รัชกาลที่ 9 ชูขึ้นเหนือศรีษะลงมาจากรถอีกด้วย
แฟนบอลไทยรับบัตรคึกคัก
ในเวลา 14.50 น. (ตามเวลาท้องถิ่นที่เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง) แฟนบอลไทยราว 100 กว่าคน ได้เดินทางมาหน้าสนาม ฟิลิปปินส์ สปอร์ต สเตเดี้ยม เพื่อมารับบัตรเข้าชมเกมที่สองกับ สิงคโปร์ โดยมี "เสี่ยเช" วรพจน์ ยศะทัตต์ ผช.ผจก.ทีมชาติไทย เป็นผู้แจกตั๋ว
ซึ่ง "เสี่ยเช" วรพจน์ ยศะทัตต์ ผช.ผจก.ทีม "ช้างศึก" ได้เผยว่า สำหรับตนแล้วต้องการให้แฟนบอลไทยที่อยู่ในมะนิลา หรือที่มาจากไทยเข้ามาเชียร์กันเยอะๆ โดยเฉพาะในเกมสุดท้ายที่พบกับ ฟิลิปปินส์ วันที่ 25 พ.ย.นี้ แม้จะมีกองเชียร์เจ้าภาพที่เยอะกว่า แต่มั่นใจว่าพลังใจของกองเชียร์ที่ทีมจะได้เข้ามาในสนามราว 3,000 คน จะทำให้นักเตะเก็บ 9 คะแนนเต็ม ที่เป็นเลขมหามงคลได้
โดยแฟนบอลไทยที่เดินทางมารับบัตรในเกมกับ สิงคโปร์ ส่วนใหญ่แล้วมาจากประเทศไทย ซึ่งพวกเขาได้นำธงชาติไทยผืนใหญ่ ที่เคยไปกาง ณ อิหร่าน มาแล้ว ในเกมฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง เสมอ อิรัก 0-0 เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา
ไทยจัด 4-4-1-1 เป็นรุกปรับ 4-3-3
การจัดระบบของทีมชาติไทย ในเกมนี้ พวกเขาเลือกที่จะเล่น 4-4-2 ซึ่งกลายเป็น 4-4-1-1 ได้เช่นเดียวกัน วาง กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ เฝ้าเสา แบ็กขวา ทริสตอง สมชาย โด ฟิตสมบูรณ์กลับมาลงสนามหลังจากสลัดอาการบาดเจ็บ มี ธีราทร บุญมาทัน อยู่ฝั่งซ้าย เซนเตอร์ฮาล์ฟเป็นการจับคู่กันของ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ กับ กรวิทย์ นามวิเศษ
ปีกซ้ายให้ สิโรจน์ ฉัตรทอง คอย เกม ฝั่งขวาเลือก รุ่งรัฐ ภูมิจันทึก ลงสนามใน เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2016 เป็นเกมแรกอย่างเป็นทางการ กองกลาง สารัช อยู่เย็น กับ ปกเกล้า อนันต์ ทำเกมร่วมกัน มี ชนาธิป สรงกระสินธ์ เป็นกองหน้าร่วมกับ ธีรศิลป์ แดงดา
อย่างไรก็ตามแผนผังที่เกิดขึ้นนั้น ทีมชาติไทย สามารถปรับเป็น 4-3-3 หรือ 4-2-3-1 ได้ทันควันในการสร้างเกมบุก โดยดัน "เมสซี่เจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์ มาเป็นเพลเมเกอร์ที่จะคอยสร้างสรรค์เกม รวมทั้งให้ สิโรจน์ ฉัตรทอง กับ รุ่งรัฐ ภูมิจันทึก ลากเลื้อยทางริมเส้นสนับสนุน "กัปตันมุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา เจ้าของแฮตทริกนัดแรกกระซวกตาข่าย
ด้าน สิงคโปร์ ภายใต้การคุมทัพของ วาราดายู ซุนดรามัวตรี้ มาในระบบ 4-1-4-1 ตามการคาดการณ์ของสื่อบ้านเกิด ให้ ฮัสซัน ซันนี่ นายทวารจาก อาร์มี่ ยูไนเต็ด เฝ้าเสา โดยให้ ดาเนียล เบนเน็ต ยืนคุมเกมรับ ปล่อยให้ ไครุล อัมรี หัวหอกตัวแสบแผงฤทธิ์ในแดนหน้า
ในเรื่องของคณะผู้ตัดสินที่ทำหน้าที่ ประกอบด้วย ผู้ตัดสิน โรวาน อารูมูกาห์น (อิเดีย), ผช.ผู้ตัดสนที่ 1 ปัง กีโยล (เกาหลีใต้), ผช.ผู้ตัดสินที่ 2 ซาเปนโก้ อันเดร (อุซเบกิสถาน), ผู้ตัดสินที่ 4 โควาเลนโก้ วาเลนติน (อุซเบกิสถาน)
สถิติสองทีมขี่กันไม่น้อยหน้าถ้วยนี้
ในเรื่องของสถิติที่พบกันกับ สิงคโปร์ ซึ่งเอาเฉพาะถ้วย เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ นั้น ปรากฏว่า ทีมชาติไทย ค่อนข้างจะล้มทัพ "ลอดช่อง" มากทีเดียว เพราะเจอกันมาทั้งหมด 7 ครั้ง ไทย ชนะ 3 เสมอ 2 แพ้ 2 ได้ 8 เสีย 8 ประตู ซึ่งถือว่าสูสีไม่น้อย
โดยผลงานที่พบกันมีดังนี้ วันที่ 10 ก.ย.1996 ไทย ชนะ สิงคโปร์ 1-0 (ย) ซูซูกิ คัพ รอบแรก, วันที่ 22 ธ.ค.2002 ไทย เสมอ สิงคโปร์ 1-1 (ย) ซูซูกิ คัพ รอบแรก, วันที่ 31 ม.ค.2007 ไทย แพ้ สิงคโปร์ 1-2 (ย) ซูซูกิ คัพ รอบชิงฯ นัดแรก, วันที่ 4 ก.ย.2007 ไทย เสมอ สิงคโปร์ 1-1 (ห) ซูซูกิ คัพ รอบชิงฯ นัดสอง
วันที่ 19 ธ.ค.2012ไทย แพ้ สิงคโปร์ 1-3 (ย) ซูซูกิ คัพ รอบชิงฯ นัดแรก, วันที่ 22 ธ.ค.2012 ไทย ชนะ สิงคโปร์ 1-0 (ห) ซูซูกิ คัพ รอบชิงฯ นัดสอง และวันที่ 23 พ.ย.2014 ไทย ชนะ สิงคโปร์ 2-1 (ย) ซูซูกิ คัพ รอบแรก
ไทยลุ้น สิโรจน์ ได้ซัดติดเซฟ ซันนี่
เริ่มการแข่งขันสิงคโปร์เริ่มเล่นก่อน น.2 ไครุล ฮัมรี กองหน้าสิงคโปร์ ได้ลองทักทายก่อนจากการดีดบอลยิงไกลบริเวณเส้น 18 หลา กลางประตูแต่ตรงตัว กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ รับเข้าซองสบาย น.3 ไทยได้ฟรีคิกริมเส้นซ้ายจากการที่ ชนาธิป สรงกระสินธ์ โดนทำฟาวล์ ธีราทร บุญมาทัน เปิดเข้าไปลุ้นในเขตโทษแต่โดนโหม่งเคลียร์ออกมาได้ก่อน เกมผ่านไป 10 นาทีทีมชาติไทยครองบอลได้ดีกว่าค่อยๆ ต่อเกมเดินเข้าหากดดันแต่ยังหาช่องเจาะไม่ได้ น.11 ชนาธิป สรงกระสินธ์ ได้บอลกลางสนามกระชากขึ้นมาทางกราบซ้ายไหลตามช่องให้ สิโรจน์ ฉัตรทอง วิ่งแซงแนวรับของสิงคโปร์ เบียดกระชากเข้าในกรอบเขตโทษก่อนซัดมุมแคบแต่ ฮัสซัน ซันนี่ ปิดมุมรับเอาไว้ได้
ไทยบุกต่อเนื่อง โด ซัดติดบล็อก
ทีมชาติไทยยังเดินหน้าเปิดเกมรุกใส่ต่อเนื่อง น.13 ก็มีใบเหลืองแรกเป็นฝั่งสิงคโปร์ ฟาริซ บิน อับดุล ฮามี้ด ที่ไปทำฟาวล์ สิโรจน์ ฉัตรทอง บริเวณกราบซ้าย จากนั้นทางสิงคโปร์ เริ่มที่จะทำได้ดีขึ้นมีโอกาสครองบอลได้มากขึ้น ค่อยๆ ลำเลียงขึ้นมาทางริมเส้นสองข้างแต่ไม่ผ่านแนวรับของไทยยังหาช่องเข้าไปยิงไม่ได้ น.20 ไทยทำชิ่งกันสวยทางกราบขวา เมื่อ สารัช อยู่เย็น จ่ายให้ รุ่งรัฐ ภูมิจันทึก จับบอลพลิกจ่ายตัดหลังแนวรับสิงคโปร์ให้ ทริสตอง โด หลุดเข้าเขตโทษโยกหลบหนึ่งจังหวะก่อนซัด แต่ไปติดบล็อกกองหลังสิงคโปร์เด้งออกมา
ช้างศึกพับสนามบุกแต่เจาะไม่เข้า
25 นาทีผ่านทีมชาติไทยเปิดเกมใส่ต่อเนื่องบุกแทบจะพับสนาม น.25 ไครุล ฮัมรี่ กองหน้าตัวเก่งสิงคโปร์ ก็โดนเหลืองคนที่ 2 ของเกมเมื่อไปเตะบอลทิ้งในจังหวะที่ผู้ตัดสินเป่าฟาวล์ไปแล้ว น.26 ไทยได้ฟาวล์บริเวณกรายซ้ายก่อนเข้าเขตโทษจากการที่ ธีรศิลป์ แดงดา โดน ซาเคียร์ ฮัมซาห์ ไปเสียบล้มลง แต่ ธีราทร บุญมาทัน ยิงไปติดกำแพงเด้งออกมา น.28 รุ่งรัฐ ภูมิจันทึก มิดฟิลด์ริมเส้นทางซ้ายได้บอลจาก สารัช อยู่เย็น กระชากบอลตัดเข้าในและซัดทันทีบนเส้น 18 หลาบอลพุ่งหาเสาแรก ฮัสซัน ซันนี่ ประตูสิงคโปร์ ต้องออกแรงพุ่งปัดออกไป
สิงคโปร์มีโอกาสบ้างแต่ยังวืด
ครึ่งชั่วโมงผ่านสองทีมยังยิงกันไม่ได้เสมอ 0-0 ทว่า เกมของไทยยังทำได้ดีกว่า เปิดเกมกดดันใส่สิงคโปร์แทบตลอด ทว่า น.31 ไครุล อัมรี ตักบอลยาวกลางสนามออกทางกราบขวาให้กับ มาเลส จูมา จานทาน ที่เติมขึ้นมาสูง พยายามจะตวัดยิงแต่ข้ามคานไปไกล น.34 ไครุล ฮัมรี่ ใช้ความสามารถเฉพาะตัวได้บอลบริเวณหัวกะโหลกหลบทาง ธนบูรณ์ เกษารัตน์ เข้าในเขตโทษแต่จังหวะจะซัด ปกเกล้า อนันต์ วิ่งเข้ามาแหย่บอลได้ทันเคลียร์ทิ้งออกไปก่อน
ท้ายเกมไทยเกือบพลาดครึ่งแรก 0-0
5 นาทีสุดท้ายในครึ่งแรกทีมชาติไทยยังไม่เพลาเกมรุก น.40 ทีมชาติไทยน่าจะได้ประตูออกนำมากที่สุดเมื่อ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ได้บอลทางกราบซ้ายเปิดโด่งไปที่เสาสองที่มี "มุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา เข้ามาโหม่ง ทว่า บอลเฉี่ยวเสาออกไปนิดเดียวอย่างน่าเสียดาย เข้าสู่ช่วงทดเจ็บ 2 นาทีสุดท้ายไทยเกือบพลาด เมื่อสิงคโปร์พาบอลสวนกลับขึ้นมาทางปีกขวาที่ ฟาริส รัมลี่ ลากตัดเข้าในจ่ายให้กับ ฮารีส ฮารูน ซึ่งฮารีส พยายามจะชิ่งต่อแต่บอลไปแฉลบผู้เล่นไทยเปลี่ยนทางและจังหวะนั้น ฟาริส รัมลี่ สปีดเข้าไปขณะที่ผู้เล่นไทยคิดว่า กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ จะออกมารับทำให้ไม่ขยับ และเกือบที่ ฮารีส ฮารูน กัปตันทีมสิงคโปร์จะเข้าถึงบอลอยู่แล้ว ดีที่กวินทร์ ยังไวออกมารับเอาไว้ได้เฉียดฉิว จากนั้นผู้ตัดสินชาวอินเดีย ก็เป่าจบเกมครึ่งแรกทั้งสองทีมยังเสมอกันอยู่ 0-0
ไทยบุกเจาะไม่เข้า-สิงคโปร์ได้เสียว
กลับมาลงสนามสู้กันต่อในช่วงครึ่งเวลาหลังของเกม ทั้งสองทีมยังไม่มีการเปลี่ยนตัวแต่อย่างใด ทว่าไทยปรับหมากให้รุ่งรัฐ ภูมิจันทึก ที่เล่นริมเส้นขวาในครึ่งแรกโยกมาเล่นทางซ้าย ส่วนสิโรจน์ ฉัตรทอง ที่ครึ่งแรกเล่นริมเส้นซ้ายไปเล่นทางขวาแทน ส่วนตำแหน่งอื่นๆยังเหมือนเดิม ซึ่งทีมชาติไทยยังครองเกมได้มากกว่าเช่นเดิมเดินหน้าบุกใส่แต่ยังหาช่องเจาะเข้าไปยิงเหมาะๆไม่ได้ น.61 สารัช อยู่เย็น เปิดยบอลจากริมเส้นขวาไปเสาสองให้กับ รุ่งรัฐ ภูมิจันทึก สอดเข้ามาแปที่เสาแรกเข้าข้างตาข่าย นาทีต่อมาสิงคโปร์หวิดนำเมื่อโต้กลับขึ้นมาที่ ไครุล ฮัมรี เปิดบอลจ่ายทะลุให้กับมาเลส จูมา จานทาน เข้าเขตโทษทางขวาได้ซัดแต่ยังดีที่ไปติดขาของธีราทร บุญมาทัน บอลออกหลังไป
ไทยปรับหนุ่ยแทนปีโป้,เก่งแทนปริ๊ซนซ์
น. 64 ทีมชาติไทยปรับทัพคนแรก ถอดทาง "ปีโป้" สิโรจน์ ฉัตรทอง ออกส่งทาง "เจ้าหนุ่ย" ศราวุธ มาสุข ลงไปเล่นแทน น.65 ทีมไทยได้เตะมุมทางขวาเล่นสั้นธีราทร บุญมาทัน จ่ายให้สารัช อยู่เย็น ก่อนที่จะจ่ายทะลุช่องเข้าเขตโทษต่อให้ชนาธิป สรงกระสินธ์ ได้พลิกบอลซัดแต่ติดบล็อกกองหลังเด้งอออกไปอีก น.71 "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือไทยปรับทัพรายที่สอง ถอดทาง "ปริ๊นซ์" รุ่งรัฐ ภูมิจันทึก ปีกซ้ายออกส่ง "เก่ง" อดิศร พรหมรักษ์ ลงมาเล่นแทย และปรับไปเล่นระบบ 3-5- 2 เน้นเกมรุกมายิ่งขึ้น
ท้ายเกมสองฝั่งปรับทัพสิงคโปร์ได้ลุ้น
รูปเกมทีมชาติไทยยังพยายามเดินเกมบุกใส่ แต่ยังหาช่องยิงไม่ได้น. 77 สิงคโปร์รับใบเหลืองคนที่ 3 ของเกมและของทีมเป็นทาง ดาเนียล เบนเน็ต ซึ่งผู้ตัดสินมองว่าเจตนาถ่วงเวลาจากจังหวะได้เตะฟรีคิกแต่ไม่พยายามเล่นบอล น. 80 สิงคโปร์ ปรับทัพบ้างถอดกองหลังมัดฮู โมฮาน่า และส่งมิดฟิลด์ ยานาปี้ ลงไปเล่นแทน น.83 สิงคโปร์ โต้กลับขึ้นมาและมีโอกาสจบเมื่อบอลมาอยู่ที่ไครุล ฮัมรี่ ในเขตโทษทางซ้ายได้ซัดที่เสาแรก แต่กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ปิดมุมรับเอาไว้ได้ทัน น. 85 ไทยส่งตัวสำรองคนสุดท้ายลงมาถอดปกเกล้า อนันต์ ออกส่ง ชารีล ชัปปุยส์ ลงมาเล่นแทน นาทีถัดมาไทยเกือบเสียประตูอีกครั้งเมื่อ ไครุล ฮัมรี่ ได้บอลหลุดขึ้นมาทางกราบซ้ายกระชากเข่าเขตโทษซัดเต็มๆ แต่กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ทุบบอลออกไปได้ทัน
"หนุ่ย" ฮีโร่สำรองโหม่งไทยซิว1-0
น.88 ทีมชาติไทยที่บุกชนิดพับสนามมาตลอดทั้งเกมก็ออกนำจนได้ จากจังหวะที่ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ได้บอลบริเวณกราบขวาเกือบสุดเส้น เปิดบอลย้อนหลังกลับมาให้ ธีราทร บุญมาทัน เปิดบอลจัวหวะเดียวครอสไปในเขตโทษบริเวณ 6 หลาและเป็น "หนุ่ย" ศราวุฒิ มาสุข ตัวสำรองโถมตัวขึ้นโหม่งเช็ดบางๆถึงบอลก่อนที่ฮัสซัน ซันนี่ ประตูสิงคโปร์จะเข้ามาถึงบอล บอลลอยเข้าประตูไปให้ทีมชาติไทยออกนำ 1-0 หลังเสียประตูสิงคโปร์ไม่รอช้าพยายามเดินเกมรุกใส่แต่ไม่ทันเนื่องจากเวลาเหลือน้อย จบเกมทีมชาติไทย เอาชนะ สิงคโปร์ 1-0 เก็บชัยชนะเป็นนัดที่สองติดต่อกัน มี 6 แต้มเข้ารอบรองชนะเลิศแน่นอนแล้ว
โปรแกรมเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2016 นัดต่อไป กลุ่ม เอ วันศุกร์ที่ 25 พ.ย. 59 สิงคโปร์ - อินโดนีเซีย mujสนามริซาล กรุงมะนิลา เวลา 19.00 น. และ ฟิลิปปินส์ พบ ไทย ที่สนามกีฬาแห่งชาติ เวลา19.00 น.