ความเคลื่อนไหวของทีมชาติไทย ในการป้องกันแชมป์ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2016 รอบแบ่งกลุ่ม ที่ประเทศฟิลิปปินส์ โดยนัดสอง กลุ่ม เอ จะพบกับ สิงคโปร์ ในวันที่ 22 พ.ย.นี้ ที่สนาม ฟิลิปปินส์ สปอร์ต สเตเดี้ยม เวลา 15.30 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ซึ่งจะถ่ายทอดสดผ่านทาง ช่อง 7 สี และ ฟ็อกสปอร์ต เอชดี 680

        ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 พ.ย.ที่ผ่านมา ณ ห้องระชุมโกแกง ชั้น 3 โรงแรมโนโวเทล ในกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ได้มีการแถงข่าวความพร้อมก่อนเกมที่สอง กลุ่ม เอ ของศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2016 ระหว่าง ทีมชาติไทย ที่จะพบกับ สิงคโปร์ เวลา 16.30 น. และ ฟิลิปปินส์ เจอ อินโดนีเซีย เวลา 20.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) ในวันที่ 22 พ.ย.นี้ ที่สนาม ฟิลิปปินส์ สปอร์ต สเตเดี้ยม  โดยทีมชาติไทยส่ง "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือใหญ่ของทีมมาร่วมง่ามแถลงข่าว ด้านสิงคโปร์มีเทรนเนอร์อย่าง วาราดายู ซุนดรามัวตรี้

        ซิโก้เผย"เกมที่สองเป็นเกมที่ยากที่สุดเพราะตอนนี้สิงคโปร์มีแต้มเดียว หากแพ้โอกาสตกรอบมีสูง ฉะนั้นคงจะมาใส่กับทีมชาติไทยเกิน 120 เปอร์เซ็นต์ โดยพวกเขามีความแข็งแกร่ง มีความฟิต อย่างไรก็ตามเราได้เห็นจากเสมอ ฟิลิปปินส์ 0-0 ทั้งๆที่เหลือ 10 คน ดังนั้นเราจึงห้ามประมาทเด็ดขาด แต่เป้าหมายของทีมคือ 3 แต้มเท่านั้น"

        ชมจุดเด่นลอดช่องและอัมรี

        ผู้สื่อข่าวได้สอบถามจุดเด่นของ สิงคโปร์ หลังจากเจ้าตัวได้มีโอกาสชมเกมแรกที่เสมอกับ ฟิลิปปินส์ ไป 0-0 รวมทั้งกองหน้าตัวความหวังที่มักจะสร้างสรรค์ในการยิงระตูทีมชาติไทยอย่าง ไครุล อัมรี โดยที่ "ซิโก้" บอกว่า

        "จุดเด่นของ สิงคโปร์ ชุดนี้ คือเกมรุกในเรื่องของลูกกลางอากาศ ถ้าทีมชาติไทยสามารถปิดตรงจุดนี้ได้ก็น่าจะมีโอกาส พร้อมกับดึงศักยภาพในเกมที่เสมอกับ ออสเตรเลีย 2-2 ได้ โอกาสเข้ารอบจะมีสูง ดังนั้นในเกมวันที่ 22 พ.ย.นี้ เราจะใส่เกิน 100 เปอร์เซ็นต์แน่นอน"

        "ส่วน ไครุล อัมรี ยอมรับว่าเขาเป็นผู้เล่นที่มีความเร็ว จุดนี้เองจะต้องใช้แนวรับที่มีความเร็วในการตามประกบ ซึ่งผมเองได้เตรียมแท็กติกที่จะใช้ไว้แล้ว เนื่องจากเขาจะสามารถสร่างความปั่นป่วนให้กับแนวรับทีมชาติไทยได้ทุกครั้งที่เจอกันในช่วงที่ผ่านมา"

        เชื่อคู่แข่งเป็นทีมดี, ไม่หวั่น "ฮัสซัน ซันนี่"

        มีคำถามในเรื่องของผู้เล่นของ สิงคโปร์ ที่กลายเป็นเลือดผสมระหว่างดาวรุ่งกับประสบการณ์สูง ตลอดจนการเข้ามาค้าแข้งในไทยลีกของ ฮัสซัน ซันนี่ นายทวารลอดช่อง ว่าแนวรุกของทีมชาติไทย จะสามารถยิงมุมจุดตายขงผู้รักษาประตูรายนี้ได้หรือไม่ กุนซือจอมตีลังกาได้ให้สัมภาษณ์ว่า

        "ทุกทีมต้องมีผู้เล่นทั้งวัยรุ่นและมีประสบการณ์ สิงคโปร์ เองก็เรียกผู้เล่นที่มีประสบการณ์เข้ามาแสดงว่าเขาต้องการแก้ข้อบกพร่อง ผมคิดว่าการผสมผสานนักเตะวัยรุ่นกับประสบการณ์จะเป็นจุดแข็งของสิงคโปร์ เขามีรู้รางที่สูงใหญ่ มีกลยุทธ์มีวิธีการเล่นเพราะฉะนั้นไม่ใช้งานง่ายและประมาทไม่ได้"

        "เวลานักเตะอาชีพไปเล่นที่ไหนเขาก็ต้องทำหน้าที่เต็มที่ เขาเล่นทีมชาติก็ต้องทำหน้าที่ของเขา เราต้องสเก้าท์ทุกคำแหน่งไม่ใช่แค่ฮัสซัน ซันนี่ เราก็ต้องดูทั้งหมดทั้งทีมสิงคโปร์ เกมพรุ่งนี้ถ้าเราเดินเกมได้ตามแท็คติกวิธีการเราก็หวังว่าจะมีแต้ม"

        ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า จากที่คุณวิเคราะห์ทีมสิงคโปร์ คุณมีวิธีเจาะเกมรับสิงคโปร์ได้หรือยัง กุนซือช้างศึกตอบสั้นๆว่า "เราวิเคราะห์ข้อมูลมาตั้งแต่โค้ชแล้วครับ โค้ชคู่แข่งก็รู้ทีมเราอย่างดีเช่นกัน ทว่าสิงคโปร์เล่น 10 คนยังยืดหยัดสู้ฟิลิปปินส์ได้ เพราะฉะนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเจาะสิงคโปร์ ฉะนั้นเราต้องทำทุกวิถีทางเพื่อยิงประตูให้ได้"

        ไม่สนประตูได้-เสียวางเป้า 3 แต้มทุกเกม

        หัวหน้าโค้ชทีมชาติไทย กล่าวว่า "ตนได้ดูเกมกลุ่ม บี ซึ่งเตะที่เมียนมานั้น มาเลเซีย ชนะ กัมพูชา 3-2 และ เวียดนาม ชนะ เมียนมา 2-1 เห็นได้ว่าทั้ง 4 ทีมต่างเล่นกันได้ดีมาก ถือว่าวงการฟุตบอลอาเซียน ยกระดับพัฒนาขึ้นมา เช่น กัมพูชา บดกับ มาเลเซีย ได้สูสี ดังนั้นจึงคาดเดายากว่าทีมใดจะเข้ารอบ ซึ่งในส่วนของทีมไทยเอง ต้องคิดแบบนัดต่อนัด พยายามทำผลงานกลุ่ม เอ ให้ดีที่สุดก่อน อย่าเพิ่งไปคิดว่าจะเจอกับใคร เพราะไม่ว่าทีมไหนก็เป็นงานหนักทั้งนั้น"

        อย่างไรการดวลแข้งรายการนี้ ในรอบแรก หากคะแนนเท่ากัน จะดูผลต่างประตูได้เสียก่อน จากนั้นจึงไปดูประตูได้ และผลงานการพบกันของทีมคู่กรณี ซึ่งเรื่องนี้ "ซิโก้" กล่าวว่า "เรายังไม่อยากจะกดดันนักเตะในเรื่องของการยิงประตูคู่ต่อสู้ เพื่อนำมาคิดถึงผลการแข่งขัน เนื่องจากทีมวางเป้าหมายไว้ที่ 3 แต้มทุกนัดอยู่แล้ว หากเราสามารถทำได้จะเป็นเรื่องที่ดี แต่เราจะขอมองไปทีละเกม ไม่ได้มองไปไกลมากนัก"

        "ยอมรับว่ามาตรฐานของทีมระดับอาเซียนดีขึ้นทุกทีม เพราะเห็นได้จากกลุ่ม บี ที่ กัมพูชา แพ้ มาเลเซีย 2-3 ถือเป็นเรื่องที่ดีที่พวกเขายกระดับขึ้นมา แต่เรายังไม่ได้มองว่าใครจะเข้ารอบต่อไป เนื่องจากต้องขอดูกลุ่มของเราเสียก่อน เพราะยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครจะเข้ารอบต่อไป"

        กุนซือสิงคโปร์ขอมีแต้ม, จับตาย "ธีรศิลป์"

        ขณะที่ วาราดายู ซุนดรามัวตรี้ กุนซือสิงคโปร์ บอกว่า "ทีมชาติไทย เป็นทีมที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว โดยเฉพาะพวกเขามีเกมรุกที่ดีมากในเกมแรก หลังจากทำได้ถึง 4 ประตู ในการเอาชนะ อินโดนีเซีย ไป 4-2 ทำให้จุดเด่นของไทยคงจะหนีไม่พ้นเกมรุกอย่างแน่นอน"

        "โดยเฉพาะกองหน้าของทีมชาติไทยที่สามารถทำแฮตทริกได้ (ธีรศิลป์ แดงดา) จุดนี้เองที่ทำให้เราจะต้องไม่เสียสมาธิ หรือประมาทไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว ไม่เช่นนั้นเราอาจจะถูกลงโทษเหมือนกับ อินโดนีเซีย ในเกมแรกที่แพ้ไป 2-4 ได้"

        เมื่อถูกนักข่าวสิงคโปร์ยิงประเด็นว่าจะรับวิธีการป้องกันกับ ธีรศิลป์ แดงดา เช่นไร วาราดายู ซุนดรามัวตรี้อ กุนซือสิงคโปร์ ได้ให้สัมภาษณ์