ความเคลื่อนไหวของทีมชาติไทย ในการทำศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย กลุ่ม บี นัดที่ 5 ซึ่งทัพ "ช้างศึก" จะเปิดสนามราชมังคลากีฬาสถาน รับการมาเยือนของ ออสเตรเลีย ในวันที่ 15 พ.ย.59 ตลอดจนการไปป้องกันแชมป์ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2016 ระหว่าวันที่ 19 พ.ย.- 17 ธ.ค.นี้
ล่าสุดทื่อเวลา 16.00 น. ของวันที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือทีมชาติไทย ได้ทำการปิด กิเลน วัลเลย์ เพื่อให้นักเตะได้แบ่งเป็น 2 ทีม พร้อมกับลงอุ่นเครื่องกันเอง อย่างไรก็ตาม 4 ผู้เล่นอย่าง ธนา ชะนะบุตร, ศิวะพงษ์ เจริญศิลป์, เจนรบ สำเภาดี และศราวุฒิ มาสุข ที่มีอาการบาดเจ็บก่อนหน้านี้ ไม่ได้ลงสนามแต่อย่างใด
หลังเสร็จสิ้นการอุ่นเครื่อง "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง แม่ทัพ "ช้างศึก" เผยว่า การลงทีมวันนี้ส่วนตัวแล้วเป็นที่น่าพอใจอย่างมาก เนื่องจากไม่มีนักเตะคนใดที่แสดงอาการถึงการเป็นตะคริวออกมาเลย เพราะวันนี้เล่นกันครึ่งละ 45 นาที 2 ครึ่ง แสดงให้เห็นว่าตลอด 10 กว่าวันที่ผ่านมา ทีมซ้อมทั้งเช้าและเย็น
ถ้าเห็นว่านักเตะมีความฟิตแล้ว ทุกคนจะภูมิใจไปจนถึงแฟนบอลด้วย หากว่าไม่เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์อาจจะเกิดความเสียหายได้ จากนี้ไปคงจะเหลือเพียงแค่ทบทวนแท็กติกเล็กน้อยเท่านั้น รวมทั้งเซ็ตพีท ลูกตั้งเตะต่างๆ ที่จะมีเวลาอีก 4-5 วัน คิดว่าขุมกำลังที่เรามี 27 คน เป็นสิ่งที่หนักใจสำหรับตนในการตัดตัว
ย้ำจะทำให้ไทยเป็น "แจ๊คผู้ฆ่ายักษ์"
ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เฮดโค้ชของทีมว่า หลังจาก ออสเตรเลีย เดินทางมาถึงประเทศไทยครบทั้ง 23 คน พร้อมที่จะเริ่มทำการฝึกซ้อมอย่างเต็มรูปซึ่งจะเหลือเวลา 4-5 วัน คิดว่าแท็กติกของขุนพล "ซ็อคเกอร์รูส์" จะออกมาเป็นเช่นไร
"ซิโก้" บอกว่า "มันเป็นสิทธิ์ของ ออสเตรเลีย ในการเดินทางมาซ้อมก่อน แต่เราต้องการเป็นแจ๊คผู้ยักษ์ หรือเป็นจุดเปลี่ยนให้กับทุกทีมที่มาเจอเราให้ได้ในกลุ่ม บี ทั้ง ซาอุดิอาระเบีย, ญี่ปุ่น, ยูเออี, อิรัก หรือออสเตรเลีย เพื่อสร้างงานหนักให้กับพวกเขา อย่ามามองว่าเราเป็นทางผ่าน"
"ซึ่งเราต้องการทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะหยุดการมาเอาแต้มจากบ้านของเรา หลังจากได้เก็บตัวมานานเกือบ 2 สัปดาห์เศษ"