ความเคลื่อนไหวของทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ในการเตรียมความพร้อมเพื่อสู้ศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย กลุ่ม บี นัดห้า ในการเปิดบ้านรับมือ ออสเตรเลีย วันที่ 15 พ.ย.59 ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ได้นำลูกทีมลงฝึกซ้อมช่วงเย็นเพียงครั้งเดียว โดยเน้นเรื่องการทำประตูเป็นหลัก ซึ่ง ศิวะพงษ์ เจริญศิลป์ บาดเจ็บเอ็นร้อยหวาย และเจนรบ สำเภาดี บาดเจ็บโคนขาหนีบ ต้องแยกซ้อม ส่วน ธนา ชะนะบุตร ลงฝึกซ้อมได้แต่ยังไม่เต็มร้อย เช่นเดียวกับ ศราวุฒิ มาสุข ที่ได้รับบาดเจ็บจากการฝึกซ้อม

         โดยเฮดโค้ช "ช้างศึก" ได้กล่าวว่าหลังจากซ้อมเสร็จใน 1 ชั่วโมงครึ่ง ถึงเรื่องราวการจบสกอร์ของ ไทย ยังคงเป็นปัญหาและต้องแก้ไขเพื่อให้เกิดความแม่นยำมากที่สุดเมื่อถึงการแข่งขัน “เราพยายามแก้ไขข้อบกพร่องในหลายๆ จุด หลังจากที่ 4 เกมแรกมีจุดอ่อนให้เห็นเยอะพอสมควร"

         "ส่วนสภาพทีมเวลานี้มี 2 คนที่บาดเจ็บและต้องแยกซ้อม คือ ศิวะพงษ์ เจริญศิลป์ กับ เจนรบ สำเภาดี โดยรายแรกไม่หนักเท่าไหร่ ส่วน เจนรบ ต้องพักประมาณ 3-4 วัน ขณะที่ ศราวุฒิ มาสุข ไม่น่ามีปัญหาอะไร และ ธนา แม้จะหายเจ็บกลับมาแล้ว แต่ไม่อยากเสี่ยงให้ฝึกซ้อมหนักเนื่องจากต้องการให้หายขาด แต่ไม่ใช่ปัญหาเพราะ ธนา เข้าใจในแท็คติกเป็นอย่างดี จึงอยากให้สภาพร่างกายสมบูรณ์ที่สุดในวันแข่งกับ ออสเตรเลีย"

         ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้รับรายงานว่า ในวันที่ 9 พ.ย.นี้ ซึ่งโปรแกรมเดิมจะอุ่นเครื่องพบ อิหร่าน แต่สุดท้ายได้ยกเลิกไป เนื่องจากสถานการณ์ของประเทศไทยในเวลานี้ ทำให้ทีมชาติไทยเตรียมปิด กิเลน วัลเลย์ ในการอุ่นเครื่องกันเอง เพื่อที่จะทดสอบระบบ แท็กติก ที่ได้ฝึกซ้อมมาตลอดระยะเวลา 11 วัน ในการมาเก็บตัวที่นี่

         "ซิโก้"บอกว่า "ในวันที่ 9 พ.ย.นี้ เราจะลงทีมแข่งขันกันเอง ซึ่งจะแบ่งนักเตะออกเป็น 2 ชุด แต่จะคละกันระหว่างชุดฟุตบอลโลกฯ กับซูซูกิ คัพ ดังนั้นจึงยังไม่รู้ว่าใครจะเป็น 11 ผู้เล่นตัวจริงพบ ออสเตรเลีย ซึ่งสิ่งที่ต้องการเห็นในการลงทีมกันเองคือดูว่าความฟิตเต็มร้อยหรือไม่ โดยจะเตะ 90 นาที เสมือนแข่งขันจริง"

         "ฉะนั้นเราจึงขอความร่วมมือทุกคน ที่จะปิดสนามในการอุ่นเครื่อง เพราะเราต้องการลองแท็กติก รวมทั้งเราไม่ต้องการให้ข้อมูลหรือสิ่งที่เราซ้อมกันมานั้น ตัองถูกเผยแพร่ไปให้กับคู่แข่งได้รู้ก่อนที่เราจะพบกับ ออสเตรเลีย วันที่ 15 พ.ย.นี้"