ไทย 0- จีน 0 (ไทยชนะต่อเวลาพิเศษ2-0)

         การแข่งขันฟุตบอลนักเรียนชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี ครั้งที่ 8 รอบรองชนะเลิศ ทีมไทยแชมป์เก่าและอดีตแชมป์ 3 สมัย พบกับ  จีน
 

         ผลงานรอบแรกของนักเรียนไทยชนะรวด 3 นัด ประกอบด้วย ชนะ อินโดนีเซีย 2-0, ชนะ บรูไน 3-0 และชนะมาเลเซีย บี 3-0 เข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่มเอ ขณะที่จีน ชนะฮ่องกง 2-1, แพ้ มาเลเซีย เอ 1-4 และชนะศรีลังกา 1-0 เข้ารอบในฐานะรองแชมป์กลุ่มบี โดยรายการนี้แข่งขันครึ่งละ 35 นาที
 

         สำหรับ 11 ผู้เล่นตัวจริงทีมนักเรียนไทยในระบบ 4-3-3 ประกอบด้วย ผู้รักษาประตู ธนบดี โรคาพ่าย, แบ็กขวา กฤษฎา นนทรัตน์, แบ็กซ้าย กรกฎ อุตพันธ์, เซนเตอร์ฮาล์ฟ นิติบดินทร์ มะคต (กัปตันทีม) จับคู่กับ จิระพงค์ รักสงคราม, กองกลาง กิตติภณ ชูกร, กิตติศักดิ์ บรรจง และ ณัชชา พรมสมบูรณ์ ส่วน 3 ประสานแดนหน้าฝั่งซ้าย กฤษณพล บุญชารี, หน้าขวา ธนา อิซอ และหน้าเป้า ผดุงเกียรติ อาจคิดการ
 

         เปิดฉากเริ่มเกมไทยเป็นฝ่ายพับสนามบุกอยู่ข้างเดียว น.7 ผดุงเกียรติ อาจคิดการ ปั่นฟรีคิกระยะ 23 หลา บอลไปชนคานอย่างจังเกือบได้ประตูนำเร็ว จากนั้น น.12 ณัชชา พรมสมบูรณ์ สับไกยิงกว่า 30 หลา บอลแฉลบมาเข้าทาง กฤษณพล บุญชารี หลุดเข้าไปล่อเป้าเหน่งๆ แต่กลับยิงหลุดเสาออกไป นาทีถัดมาไทยได้เตะมุม กิตติภณ ชูกร เปิดมาที่เสาสอง จิระพงค์ รักสงคราม ทิ้งตัวโหม่งพยายามเข้าชาร์จวืดไปอย่างน่าเสียดาย
 

         ท้ายครึ่งแรกไทยเกือบได้อีกครั้ง กิตติภณ ชูกร เปิดบอลให้ ผดุงเกียรติ อาจคิดการ ล็อกบอลเข้าเท้าขวาก่อนจะกดเรียดเน้นๆ แต่ก็ยังไปติดขาผู้รักษาประตูที่ซูเปอร์เซฟไว้ได้อย่างเหลือเชื่อ หมดครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 0-0
 

         กลับสู่ครึ่งหลังมีฝนตกลงมาเล็กน้อย ทำให้สภาพสนามค่อนข้างลื่นแต่ไม่มีน้ำท่วมขังสามารถแข่งขันได้ตามปกติ น.45 กฤษณพล บุญชารี ผ่านบอลจากกรอบเขตโทษด้านซ้ายไปที่เสาสองให้ กิตติภณ ชูกร แปเหน่งๆ ก็ยังหลุดกรอบออกไปอย่างไม่น่าเชื่อ
 

         น.54 ไทยน่าได้ประตูนำอีกครั้ง กฤษณพล บุญชารี เปิดบอลระดับอกไปที่หน้าประตู ผดุงเกียรติ อาจคิดการ โฉบเข้าไปโหม่งจ่อๆ แค่ 5 หลา แต่ทาง เจีย เนียน นายทวารจีน ก็ยังซูเปอร์เซฟปัดไว้ได้ และอีกครั้ง จิระพงค์ รักสงคราม สับไกยิงกว่า 35 หลา บอลแฉลบขากองหลังจีนไปเข้าทาง ผดุงเกียรติ อาจคิดการ แต่งบอลหนึ่งจังหวะก่อนจะเลือกกดเน้นๆ แทบจะใส่สกอร์อยู่แล้ว แต่ก็ยังไปติดปลายเท้านายทวารจีนที่เซฟไว้ได้อย่างเหลือเชื่ออีกหน

         ช่วงทดเจ็บ สุภัทร วรรณแจ่ม คอร์สบอลจากกราบขวามาที่กลางประตู ผดุงเกียรติ อาจคิดการ สะบัดโหม่งเช็ดผู้รักษาประตูได้แต่ยืนมองแล้ว แต่บอลก็ยังหลุดกรอบออกไปแค่คืบไม่ได้ประตูเสียที หมดเวลา 70 นาทีเสมอกัน 0-0 ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 20 นาที
 

         ช่วงต่อเวลาไทยก็ยังเป็นฝ่ายกรีธาทัพบุกเข้าใส่อย่างหนักอยู่ฝ่ายเดียว กระทั่ง น.80 ผดุงเกียรติ อาจคิดการ หลุดเข้ากรอบเขตโทษก่อนจะซัดผ่านมือนายทวารจีนเข้าประตูไป ให้ไทยออกนำ 1-0 ท้ายเกมช่วงทดเจ็บของการต่อเวลา น.90+1 สุภัทร วรรณแจ่ม ล้มตัวกวาดบอลบริเวณริมเส้นด้านขวาก่อนจะจิ้มต่อให้ ทวีพร ปู่แดง กระชากตัดเข้ากรอบเขตโทษและกดด้วยซ้ายเข้าประตูไปให้ไทยชนะไปอย่างเด็ดขาด 2-0 ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศต่อไป
 

         หลังเกม "โค้ชก้อง" ก้องเกียรติ ก้องแดนไพร เฮดโค้ชนักเรียนไทย กล่าวว่า "วันนี้นักเตะของเราเล่นกันด้วยสปิริต มีความมุ่งมั่นที่จะเอาประตูคู่แข่งอย่างเต็มที่ และมีโอกาสได้ประตูหลายครั้ง แต่จังหวะเรื่องของโชคไม่เข้าข้างเท่านั้น ซึ่งเรามีโอกาสชนะในเวลาเสียด้วย สุดท้ายนี้ทุกๆ คนก็ยังเร่งเครื่องช่วยกันยิงประตูจนสามารถเอาชนะและผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศตามเป้าหมาย ซึ่งการเจอกับอินโดนีเซียเราเคยชนะมาแล้ว แต่ก็คงประมาทไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ผมก็ยังมั่นใจว่าจะสามารถป้องกันแชมป์และสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยได้อีกครั้งแน่นอน"
 

         ขณะที่ สุพนธ์ มณีธีรกุล ผจก.ทีมเผยว่า "การได้เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศถือเป็นเป้าหมายแรกที่เราตั้งไว้ ซึ่งก็ต้องชมนักเตะและทีมงานทุกคนที่ร่วมด้วยช่วยกันทำงานหนักตลอดมา เหลืออีกก้าวเดียวก็คือรอบชิงชนะเลิศ พวกเราทุกคนต้องขอกำลังใจจากแฟนบอลชาวไทย ช่วยกันเชียร์พวกเราด้วย โดยทุกคนสัญญาว่าจะคว้าแชมป์สมัยที่ 4 เพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับพี่น้องชาวไทยทั้งประเทศให้ได้"
 

         ส่วน ผดุงเกียรติ อาจคิดการ ดาวซัลโวประจำทีมที่ซัดไปแล้ว 5 เม็ด เผยว่า "วันนี้ช่วงแรกพวกเราเล่นกันไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่คู่แข่งเองก็มาเน้นเกมรับทำให้ค่อนข้างอึดอัด ยังดีที่มาช่วยกันเอาชนะได้ในช่วงต่อเวลา ส่วนตัวก็รู้สึกดีใจที่ยิงประตูให้ทีมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตอนนี้ยิงไปแล้ว 5 ประตู ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเอาแชมป์กลับไปฝากคนไทยให้ได้"
 

         รายชื่อนักเตะนักเรียนไทย :   ธนบดี โรคาพ่าย, กฤษฎา นนทรัตน์ (ทวีพร ปู่แดง), กรกฎ อุตพันธ์ , นิติบดินทร์ มะคต, จิระพงค์ รักสงคราม, กิตติภณ ชูกร (อัฐกร หลวงคลัง), กิตติศักดิ์ บรรจง (พีระวิชญ์ แจ้งพรมมา), ณัชชา พรมสมบูรณ์, กฤษณพล บุญชารี (ณัฐวุฒิ เหลืองบริสุทธิ์),  ธนา อิซอ (สุภัทร วรรณแจ่ม), ผดุงเกียรติ อาจคิดการ (ธนาวุฒิ หาญทะเล)
 

         ส่วนผลการแข่งขันรอบรองฯ อีกคู่   อินโดนีเซีย ชนะ มาเลเซีย เอ 2-1 โดยรอบชิงชนะเลิศ ไทย พบ อินโดนีเซีย จะแข่งขันวันพุธที่ 28 ก.ย. 59 ที่สนามยูไอทีเอ็ม เวลา 15.00 น. ส่วนคู่ชิงอันดับ 3 มาเลเซีย เอ พบ จีน ที่สนามเปอซาด้า พลัส เวลา 14.00 น.