หลังจากที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้ทำการประกาศรายชื่อ 23 นักเตะทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ในการลุยศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย กลุ่ม บี ซึ่ง 2 เกมแรกจะออกไปเยือน ซาอุดิอาระเบีย วันที่ 1 ก.ย. ก่อนกลับมาเล่นในรังเหย้าพบ ญี่ปุ่น วันที่ 6 ก.ย. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

        "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง แม่ทัพ "ช้างศึก" ได้ให้สัมภาษณ์ถึงรายชื่อทั้ง 23 คน ว่า"ทั้งหมดที่เราส่งชื่อให้กับสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้ทำการประกาศนั้น ถือว่าทีมงานสตาฟฟ์โค้ชได้ทำการบ้านมาอย่างหนัก โดยเฉพาะในเรื่องของการดูฟอร์มการเล่น

        "เราเลือกในสิ่งที่ทุกคนอยากจะเห็น โดยเฉพาะ สิโรจน์ ฉัตรทอง ที่เราตามดูฟอร์มมานาน ก่อนหน้านี้หลายคนมองว่าเป็นเรื่องเซอร์ไพรส์ แต่ผมได้นั่งทบทวนการเล่นในลีกของเขา ที่มีความกระหาย มุ่งมั่น ทุ่มเท สิ่งเหล่านี้ทำให้ผมอยากจะตอบแทนเขา และอยากจะทำให้เยาวชนทุคนเห็นว่า ไม่จำเป็นต้องติดทีมชาติไทย ชุด 16, 19 ปี มาก่อน เพียงแต่ขอให้คุณมีความพยายาม ขยันที่จะพัฒนาตัวเองตลอด ความสำเร็จก็จะตามมาในที่สุด"

        ขณะเดียวกัน "ซิโก้" ยังได้ตอบคำถามถึงการตัดสินใจรียก ชาริล ชัปปุยส์ กองกลางลูกครึ่งไทย-สวิสเซอร์แลนด์ คัมแบ็คมาสู่ทัพ "ช้างศึก"ในรอบ 20 เดือน หลังจากห่างหายไปจากทีมชาติไทย นับตังแต่จบศึก เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2014 เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.2014 หลังจากพาทีมชนะ มาเลเซีย สกอร์รวม 2 นัด 4-3 คว้าแชมป์ในรอบ 12 ปีได้สำเร็จ จากนั้นเจ้าตัวได้ทำการผ่าเข่ารักษาอาการบาดเจ็บนานร่วมปี ก่อนที่จะกลับมาผลิตผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับ สุพรรณบุรี เอฟซี ได้ในปีนี้

        "เราติดตาม ชาริล ชัปปุยส์ มาตลอด ตั้งแต่การเคลื่อนไหวที่เขาลงเล่นในช่วงแรก 15-20 นาที ก่อนที่จะพัฒนามาเรื่อยๆ ซึ่งเราอยากจะดึงเขากลับเข้ามาสู่ทีม เพราะเขามีทีเด็ดในการยิงไกลได้ดี และเป็นการเพิ่มมิติเกมรุกให้กว้างกว่าเดิม แม้ว่าเรามี ปกเกล้า อนันต์ กับ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่ทะลุทะลวงได้ดีอยู่แล้วก็ตาม แต่เขาจะมาเป็นอีก 1 อาวุธของเราด้วย ประกอบกับ สรรวัชญ์ เดชมิตร ประสบอุบัติเหตุ ทำให้มีอาการบาดเจ็บเกิดขึ้นมา"

        อย่างไรก็ตามการประกาศรายชื่อ 23 ขุนพลทีมชาติไทย ในการลุยศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย กลุ่ม บี ซึ่ง 2 เกมแรกจะออกไปเยือน ซาอุดิอาระเบีย วันที่ 1 ก.ย. ก่อนกลับมาเล่นในรังเหย้าพบ ญี่ปุ่น วันที่ 6 ก.ย. ค่อนข้างจะมีการสร้างเซอร์ไพรส์อีก 1 เรื่องคือ การที่ กรวิทย์ นามวิเศษ เซนเตอร์ฮาล์ฟของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่เพิ่งจะหายเจ็บกลับมาลงเล่นให้กับต้นสังกัดเพียงแค่ไม่กี่นัดของเลกสอง ได้มีชื่อกลับมาอยู่ในทีมชาติไทยอีกครั้ง โดยในรอบที่แล้วเจ้าตัวลงเล่นไป 360 นาที ตั้งแต่ ชนะ เวียดนาม 1-0 (ห), เสมอ อิรัก 2-2 (ห), ชนะ เวียดนาม 3-0 (ย) และ เสมอ อิรัก 2-2 (ห)

        "ซิโก้" ได้พูดถึงปราการหลังรายนี้ว่า "ผมได้มีโอกาสคุยกับ กรวิทย์ นามวิเศษ แล้ว เขามีความเชื่อมั่นในเรื่องของความฟิต, ความมั่นใจ แม้ว่าจะมีเกมกับสโมสรไม่มากเท่าที่ควร ทว่าในนามทีมชาติไทย ผมเห็นเขาลงเล่นมาตลอดจึงมีความไว้ใจว่าเขาจะสามารถสร้างความแข็งแกร่งให้กับเรา