เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมา ณ โรงแรม ดิ เอเมอรัลล์ บริเวณห้องประชุมสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย "โค้ชเฮง" วิทยา เลาหกุล ประธานเทคนิคของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ได้เชิญตัวแทนทีมเยาวชน ทีมชาติไทย มาร่วมการหารือ
 

          โดยมีทีม ยู-14, "โค้ชหนุ่ย" เฉลิมวุฒิ สง่าพล กุนซือใหญ่ทีม19 ปี และ "โค้ชโย่ง" วรวุธ ศรีมะฆะ เฮดโค้ชทีมซีเกมส์ เข้าร่วมหารือ อีกทั้งยังมีตัวแทนจากฟีฟ่า เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ด้วย ซึ่งใช้เวลาถึง 2 ชั่วโมงเต็มเลยทีเดียว ก่อนที่  "โค้ชเฮง" วิทยา เลาหกุล  ประธานเทคนิคของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ จะให้สัมภาษณ์ว่า
 

          "เราต้องการที่จะทำหน้าที่ในส่วนของประธานเทคนิค ในการหารือกับทีมเยาวชน ทีมชาติไทย ที่มีบางส่วนยังขาดอยู่ เพื่อให้เป็นแบบลูกโซ่ โดยเฉพาะในเรื่องของสนามฝึกซ้อม ตลอดจนโปรแกรมอุ่นเครื่อง และเท่าที่ได้คุยกันทีม 19 ปี กับทีม ยู-21 หรือซีเกมส์ ค่อนข้างจะน่าเป็นห่วงตรงที่นักเตะส่วนใหญ่เล่นอยู่ในลีก ฉะนั้นการรวมตัวกันน่าจะเป็นเรื่องที่ยากไม่น้อย"

          "ซึ่งการเก็บตัวของ 2 ทีมดังกล่าว อาจจะทำไม่ได้เหมือนเมื่อก่อนที่เรียกมาเข้าแคมป์มา 1-2 เดือน เรื่องนี้เราได้หารือกันเป็นที่เรียบร้อย ก่อนที่จะส่งไปให้กับสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้รับทราบต่อไป เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาเหล่านี้"

          "โค้ชโย่ง" ยังบอกอีกว่า "ในเรื่องของโครงการที่เรานำเสนอให้กับฟีฟ่า ที่จะใช้เวลา 6 เดือน ในการพัฒนาโค้ชในลีกภูมิภาคและเยาวชนในรุ่นต่างๆ โดยมีงบประมาณมาให้ 700,000 เหรียญดอลล่าห์ (ราว 24,500,000 บาท) เพื่อเป็นการช่วยเหลือบริหารสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ"
 

          "อีกทั้งฟีฟ่ายังมีเงินที่จะแบ่งให้กับ ทีมชาติไทย ชุดใหญ่, ทีมหญิง และทีมต่างๆ รวมถึงการให้เงินมาช่วยจัดลีกเยาวชน ทำให้เราต้องเขียนโครงการไปให้กับฟีฟ่า ที่จะทำโปรเจคต์ต่างๆในช่วงเวลานี้" ในเรื่องของข่าวลือที่ อเล็กซานเดอร์ กามา จะมาเสียบเก้าอี้แทนที่ "โค้ชโย่ง" วรวุธ ศรีมะฆะ ในการเป็นกุนซือทีมชาติไทย ชุดป้องกันแชมป์ซีเกมส์ ที่ประเทศมาเลเซีย ในปี 2017 "โค้ชโย่ง" วรวุฒิ ศรีมะฆะ ประธานเทคนิคของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ  ได้ให้สัมภาษณ์ว่า

          "เรื่องดังกล่าวผมขอย้ำว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด เพราะสิทธิ์ขาดในเรื่องของตัวโค้ชจำต้องเป็นตำแหน่งของประธานเทคนิคที่ตัดสินใจเท่านั้น อีกทั้งเรายังต้องการให้เขาทำงานต่อไป หลังจากที่เขียนแผนงานมาให้กับผมแล้ว ซึ่งข่าวที่ออกมานั้นน่าจะเป็นข่าวลือมากกว่า"