สืบเนื่องผลงานอันเอกอุของทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ที่สามารถคว้าแชมป์ "คิงส์คัพ" ครั้งที่ 44 ในรอบ 9 ปี ได้อย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งถือเป็นหนที่ 14 ของพวกเขาที่ทำได้ในปี พ.ศ. 2519, 2522, 2523, 2524, 2525, 2527, 2532, 2533, 2535, 2537, 2543, 2549, 2550 และ 2559
ล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 14 มิ.ย. ที่ผ่านมา ที่สโมสรราชพฤกษ์ นอร์ทปาร์ค พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือทีมชาติไทย ชุดใหญ่ และนักเตะชุดคว้าแชมป์ "คิงส์คัพ" ครั้งที่ 44 ได้แก่ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์, ศราวุฒิ มาสุข, อดิศร พรหมรักษ์, มิก้า ชูนวลศรี, สรรวัชญ์ เดชมิตร, มงคล ทศไกร และ เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ เดินทางเข้าพบ คุณฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บ.ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เพื่อขอบคุณ "ช้าง" ในฐานะผู้สนับสนุนหลักของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ นอกจากนี้ ยังมี คุณสุรพล อุทินทุ กรรมการบริหาร บริษัทไทยเบฟเวอเรจ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ที่ให้เกียรติเดินทางมางานนี้อีกด้วย
โดย คุณฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บ.ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) บอกว่า "ในฐานะผู้สนับสนุนหลักมีความยินดีที่จะให้การสนับสนุนสมาคมและทีมชาติไทยอย่างต่อเนื่องในทุกๆ ด้าน จากงานครบรอบ 100 ปี สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ "ช้าง" ได้ประกาศมอบเงินสนับสนุนจำนวน 5 ล้านบาท เพื่อสมทบกองทุน "ฟุตบอลไทยไปบอลโลก" พร้อมกับจัดตั้งกองทุน "ช้างศึก" จำนวน 100 ล้านบาท โดยแบ่งจ่ายปีละ 10 ล้านบาท เป็นระยะเวลา 10 ปี เพื่อหวังจะเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาและผลักดันนักเตะระดับเยาวชนให้มีความแข็งแกร่ง และก้าวขึ้นมาเป็นทีมชาติไทยในอนาคตอย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญเรายังมีเป้าหมายสำคัญร่วมกับสมาคมคือการนำทีมฟุตบอลทีมชาติไทยไปแข่งขันฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ให้ได้"
ขณะเดียวกัน คุณฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บ.ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวอีกว่า "เราต้องขอชื่นชมนักเตะทีมชาติไทยทุกคนที่สามารถคว้าแชมป์ "คิงส์คัพ" ครั้งที่ 44 ได้ อีกครั้งในรอบ 9 ปี และเป็นสมัยที่ 14 ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา "ช้าง" สนับสนุนสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ มากว่า 12 ปี เราได้เห็นทีมชาติไทยพัฒนาอย่างมีระบบ จนประสบความสำเร็จทั้งทีมชาติและทีมหญิง รวมทั้งเกิดกระแสนิยมจากแฟนบอลมากขึ้นทุกปี ถือว่าวงการลูกหนังไทยพัฒนาไปมากทีเดียว"
"ซิโก้" ขอบคุณ "ช้าง" คู่บอลไทย 12 ปี
ด้าน "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง แม่ทัพทัพ "ช้างศึก" ได้บอกว่า "ต้องขอขอบคุณ คุณฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บ.ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ที่ดูแลทีมชาติไทยมาอย่างดีตลอด วันนี้เราตั้งใจที่จะพานักเตะมาขอบคุณ หลังจากเพิ่งคว้าถ้วยพระราชทาน "คิงส์คัพ" ได้สำเร็จ ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีอย่างมาก"
เพราะ "ช้าง" อยู่เคียงข้างกับฟุตบอลไทยมาอย่างดีตลอด 12 ปีที่ผ่านมา มีช่วงที่ย่ำแย่และรุ่งเรือง แต่ "ช้าง" ก็ไม่เคยที่จะคิดทิ้งสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ วันนี้ผู้บริหารและนักเตะทั้งหมดจึงอยากจะร่วมกันขอบคุณอย่างมาก ซึ่งต้องขอขอบคุณทางต้นสังกัดของผู้เล่นทุกคน ที่ให้น้องๆ ได้มาขอบคุณผู้สนับสนุนหลักของทีมชาติไทย แน่นอนว่าเราหวังที่จะทำผลงานให้ดียิ่งๆ ขึ้นไปอีกด้วย"
ส่งชื่อ 30-35 แข้ง ก่อนตัด 23 คนทุกเกม
พร้อมกันนี้ "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือใหญ่ทีมชาติไทย ยังได้เปิดเผยในเรื่องของแนวทางการทำทีมว่า "ตอนนี้ 35 คนที่เราได้ลิสต์มาเพื่อทำวีซ่าขอไปยังประเทศกาตาร์ พร้อมกับเข้าไปยังซาอุดีอาระเบียได้ทำออกมาแล้ว ซึ่งในแต่ละครั้งที่เดินทางไปยังประเทศต่างๆ ในรอบ 12 ทีมสุดท้าย เราจะทำเช่นนี้ทั้งหมด"
"เพราะจะเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บ และใครที่ฟอร์มหลุด หรือใครที่บาดเข็บไปแล้วกลับมาได้เวลา ซึ่งที่ผ่านมาเราได้ส่งทีมงานไปดูเกมที่สนามเพื่อดูนักเตะที่เราลิสต์รายชื่อไว้ว่าจะมีศักยภาพที่เราได้กำหนดไว้หรือไม่ อีกทั้งจะไปเยี่ยมยังสโมสรต่างๆ เพื่อเจอกับผู้บริหาร โค้ช หรือเทรนเนอร์ เพื่อให้นักเตะมีความฟิต"
"อีกทั้งในวันนี้นักเตะได้บอกเราแล้วว่า ได้ดูเกมเพื่อนร่วมกลุ่ม บี อย่าง ออสเตรเลีย กับ ญี่ปุ่น มาแล้วเช่นกัน อย่างไรก็ตามทีมที่เราต้องเจอนั้นมีความแข็งแกร่ง รวมทั้งมียุทะวิธีการเข้าทำที่หลากหลาย ทำให้เราต้องร่วมกันทำงานจากนี้เป็นต้นไป"
ไม่กลัวอากาศซาอุฯ จะส่งแค่ไหน
จากข่าวที่สื่อของซาอุฯ ประโคมข่าวว่า เบิร์ต ฟาน มาร์ไวค์ กุนซือทัพ "เศรษฐีน้ำมัน" เลือกสนามคิง ฟาฮัด สเตเดี้ยม ที่กรุงริยาด เพราะในเกมแรกที่จะเจอกับทีมชาติไทย วันที่ 1 ก.ย. นี้ มีสภาพอากาศที่ทะลุ 45-47 องศาเซลเซียส และมีความแห้งแล้งที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการเล่นต่อขุนพลจากลุ่มน้ำเจ้าพระยา
ซิโก้ได้ตอบว่า "เบื้องต้นผมได้เคยบอกแล้วว่า ที่กรุงริยาด ของประเทศซาอุฯ นั้น ถ้าเป็นช่วงหน้าร้อนอุณภูมิจะอยู่ที่ 45-47 องศาเซลเซียสอยู่แล้ว ส่วนกลางคืน 2-3 ทุ่มจะอยู่ที่ 40-43 องศา ทำให้เราต้องเตรียมความพร้อมตลอด จึงเป็นสาเหตุที่เราเลือกจะไปชุบตัวที่กาตาร์ก่อน"
"ทั้งหมดทั้งมวลเราได้ดูเรื่องของสภาพแวดล้อม คุณภาพนักเตะทั้งของเราและเขา ยอมรับว่าวันนี้เราได้ทำการบ้านก่อนที่จะเดินทางไปเยือนซาอุดีอาระเบียเป็นที่เรียบร้อยแล้ว"
มีซอฟต์แวร์เก็บข้อมูลคู่แข่งกลุ่ม บี
และจากโปรแกรมของยูเออีอีกหนึ่งเพื่อนร่วมกลุ่ม บี ของทีมชาติไทยจะเดินทางไปเก็บตัวที่ประเทศจีน วันที่ 19-20 ส.ค. 2559 จากนั้นวันที่ 24 ส.ค. จะลงสนามอุ่นเครื่องที่นครเซี่ยงไฮ้ พบกับทีมชาติเกาหลีเหนือ ซึ่งอาจจะมีอีก 1 แมตช์ ระหว่างวันที่ 26-27 ส.ค. โดยกำลังอยู่ระหว่างการเจรจาเลือกสนามและเวลาอยู่ กระทั่งปลายเดือน ส.ค. จะบินเข้าไปประเทศญี่ปุ่นเพื่อลงเล่นเกมแรกวันที่ 1 ก.ย.
ผู้สื่อข่าว นสพ.สยามกีฬา ได้สอบถาม "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เฮดโค้ชทีมชาติไทย ว่า จะมีการซุ่มดูฟอร์มทั้งการอุ่นเครื่อง 2 นัดของยูเออี ที่จะพบกับเกาหลีเหนือ และ จีน ตลอดจนดูในเกมแรกของพวกเขา ที่จะเยือนญี่ปุ่น วันที่ 1 ก.ย.นี้ ด้วยเลยหรือไม่ ซิโก้บอกว่า "ต้องเรียนอย่างนี้ว่าเรามีซอฟต์แวร์ที่เป็นฐานเก็บข้อมูลของทีมชาติทั่วโลก แม้ว่าเราจะเจอใครก็มีอยู่แล้ว ถ้าจะเจอใครเราต้องรู้เขาและเราต้องรู้ศักยภาพของเราด้วย โดยเฉพาะเราทราบดีว่าคุณภาพนักเตะเราอาจจะด้อยกว่าเพื่อนร่วมกลุ่ม บี แต่เรากำลังทำการบ้านอยู่ว่าจะทำอย่างไรให้รู้เรา อย่าเสียเวลาแม้แต่เสียววินาที 3 เดือนต่อจากนี้ไปนักเตะทุกคนต้องเกิน 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะหลายคนเห็นแล้วว่าในฟุตบอลโกปา อเมริกา และยูโร จะให้ความสำคัญกับชื่อชั้นเดิมๆ ไม่ได้ แม้ว่าทีมชาติไทยจะเป็นน้องใหม่ที่เข้าไปรอบ 12 ทีมสุดท้าย แต่เราจะแสดงให้เห็นว่า ถ้าเราพร้อมเราสามารถสู้ได้ทุกทีม ไม่เว้นแม้แต่เราอุ่นเครื่องกับเกาหลีใต้ ที่เราแพ้แค่ 0-1 ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ชุดฟูลทีมของเรามากนัก"
ส.บอลเผยเตรียมเงินอัดฉีด 30 ล้านแล้ว
ด้าน "บิ๊กอ๊อด" พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย กล่าวว่า "วันนี้ตนเองพร้อมคณะนักฟุตบอลทีมชาติไทย ได้เข้ามาขอบคุณ "ช้าง" ที่ให้การสนับสนุนสมาคมด้วยดีมาตลอด ปัจจุบันทีมชาติไทยได้พัฒนาขึ้นมากทั้งทีมชายและทีมหญิง โดยเฉพาะทีมฟุตบอลชายที่คว้าแชมป์ฟุตบอลคิงส์คัพและอยู่ระหว่างการเตรียมทีมเพื่อลงแข่งขันฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ซึ่งทีมงานสตาฟฟ์โค้ชต่างมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างผลงานที่ดีให้เกิดความประทับใจแก่แฟนฟุตบอลชาวไทยให้มากที่สุด"
"รวมทั้งต้องขอขอบคุณ คุณฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บ.ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ที่เข้าร่วมกองทุนไปบอลโลก 100 ล้านบาท เพื่อเบิกจ่ายภายใน 10 ปี ปีละ 10 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้เด็กไทยที่ขาดโอกาสหรือด้อยโอกาสได้พัฒนาตัวเอง จนสามารถเป็นนักกีฬาอาชีพระดับชาติในอนาคตได้"
ส่วนเรื่องเงินอัดฉีด 30 ล้านบาท ที่สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ จะมอบให้กับทีมชาติไทย ในฐานะที่ผ่านเข้ารอบ 12 ทีมสุดท้าย ได้นั้น เจ้าตัวได้บอกว่า "เราได้ทำการแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาอนุมัติเงินสนับสนุนและเงินรางวัลทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ซึ่งประกอบด้วยตัวแทนจากสโมสรต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, แบงค็อก ยูไนเต็ด, บีอีซี เทโรศาสน, เอสซีจี เมืองทอง, สุพรรณบุรี เอฟซี, การท่าเรือ เอฟซี และ อาร์มี่ ยูไนเต็ด เข้ามาเพื่อจัดสรรเงินในสัดส่วนต่างๆ ตามที่ผู้เล่นลงสนาม อีกทั้งมีเลขาธิการสมาคมเป็นประธาน"
"นอกจากนี้ ปัจจุบันได้ครบตามจำนวนแล้ว แบ่งเป็นจากกลุ่มทรู 10 ล้านบาท, โตโยต้า 10 ล้านบาท, ไทยรัฐ 5 ล้านบาท และโรงแรม เดอะ รายา 5 ล้านบาท คาดว่าเมื่อคณะกรรมการ ได้ทำการประชุมกันเสร็จแล้ว น่าจะมีการมอบเงินอัดฉีดให้อย่างแน่นอน"
ยันไม่มีเงินเข้ารอบ 12 ทีม
ต่อประเด็นเรื่องการเข้ารอบ 12 ทีมสุดท้าย ศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย นั้น ทาง เอเอฟซี หรือ ฟีฟ่า จะมีเงินมาช่วยเหลือให้กับทีมชาติไทย หรือไม่ "บิ๊กอ๊อด" พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้ชี้แจงว่า
"ในรอบ 12 ทีมสุดท้าย ยังไม่มีเงินช่วยเหลือจากทาง เอเอฟซี หรือ ฟีฟ่า แม้แต่อย่างใด ยกเว้นถ้าหากเราสามารถเข้าไปเล่นในรอบสุดท้ายของศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย ได้ ถึงจะมีเงินเข้ามาสนับสนุนในส่วนนี้ได้"