เมื่อเวลา 11.30 น. ของวันที่ 6 มิ.ย.ที่ผ่านมา "บิ๊กอ๊อด"พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้พาทีมชาติไทย ชุดแชมป์ คิงส์ คัพ ครั้งที่ 44 และเป็นสมัยที่ 14 รายการดังกล่าว นำทีมมาโดย "ซิโก้"เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือใหญ่ของทีม พร้อมด้วยนักเตะเดินทางมาถวายพระพรแด่พระบาทสมเด็กพระเจ้าอยู่หัว ที่ศาลาสหทัยสมาคม ก่อนที่จะไปสักการะพระแก้วมรกต สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ท่ามกลางความสนใจจากแฟนบอลล้นหลาม
"ซิโก้"เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เฮดโค้ชทีมชาติไทย ได้เปิดเผยว่า หลังจากที่นักเตะได้กลับไปรับใช้ต้นสังกัด จะมีเวลาอีก 3 เดือนในการฟิตร่างกายให้หนักขึ้นเป็น 2 เท่า เพื่อลงเล่นในรอบ 12 ทีมสุดท้าย ศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย
"ตนหวังจะให้นักเตะได้เพิ่มพละกำลังบริเวณแฮมสตริง หรือกล้ามเนื้อต้นขาหลังให้มากกว่าเดิม โดยเฉพาะผู้เล่นที่มีความไวสูง ทั้ง ชนาธิป สรงกระสินธ์, เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์, ธีราทร บุญมาทัน, ทริสตอง สมชาย โด, ธนา ชะนะบุตร และคนอื่นๆ เพราะหากส่วนนี้ได้รับการเพิ่มเติมกล้ามเนื้อขึ้นมา จะช่วยเพิ่มแรงสปีดเพิ่มเป็นสองเท่าได้แน่นอน ฉะนั้นจะสามารถต่อกรกับคู่อข่งได้ยอดเยี่ยม"
ฝั่ง ขจร เจียรวนนท์ ผจก.ทีมชาติไทย เผยว่า เวลานี้ภารกิจของตนเองในการทำทีมคิงส์ คัพ ได้หมดลงแล้ว แต่ไม่รู้ว่าจะได้สานงานต่อหรือไม่ หากได้รับตำแหน่งในรอบ 12 ทีมของการคัดฟุตบอลโลก ก็จะทำแผนถึงสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ในเรื่องของการเพิ่มวิทยาศาสตร์การกีฬาเข้าไปมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของโภชนาการที่จะต้องหันมาใส่ใจ เนื่องจากนักเตะบางรายจะต้องรับสารอาหารที่แตกต่างกันออกไป เพื่อเพิ่มเติมพละกำลังในส่วนต่างๆ