ทีมชาติไทย 2-0 จอร์แดน
ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เป็นศึกฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์ คัพ ครั้งที่ 44 ประจำวันที่ 5 มิ.ย.59 คู่ชิงชนะเลิศในเวลา 20.00 น. ทีมชาติไทย ลงสนามเพื่อแชมป์หนที่ 14 ต่อจาก พ.ศ.2519, 2522, 2523, 2524, 2525, 2527, 2532, 2533, 2535, 2537, 2543, 2549 และ 2550 พบกับ จอร์แดน
โดย "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เฮดโค้ชทีมชาติไทย มีการปรับระบบจากที่มีข่าวว่าจะใช้ 3-4-1-2 มาเป็น 4-3-3 ให้ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ เฝ้าเสา แบ็กซ้ายเป็น "กัปตันอุ้ม" ธีราทร บุญมาทัน ฝั่งขวาให้ ทริสตอง สมชาย โด ลงเล่น ธนบูรณ์ เกษารัตน์ กับ อดิศร พรหมรักษ์ จับคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟ
แดนกลางให้ ประกิต ดีพร้อม ลงมาแทน สรรวัชญ์ เดชมิตร มี สารัช อยู่เย็น เป็นตัวตัดเกม ส่ง "เมสซี่เจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์ ทำเกมรุก ปีกซ้ายใช้ เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ ขวาเป็น มงคล ทศไกร และตัวเป้ายังเป็นหน้าที่ ธีรศิลป์ แดงดา ที่ยิงในรายการนี้ไป 2 ประตู ต่อจาก ปี พ.ศ.2552 ที่ชนะ เลบานอน 2-1 และเกมที่ผ่านมาซึ่งชนะจุดโทษ ซีเรีย 9-8
ไทยไม่เคยชนะจอร์แดนได้
ในเรื่องของสถิติที่พบกันมาก่อนหน้านี้ ปรากฏว่า ทีมชาติไทย ไม่สามารถที่จะเอาชนะ จอร์แดน ได้เลยตลอด 6 ครั้งที่พบกัน เริ่มจาก วันที่ 8 ก.ค.2004 ไทย เสมอ จอร์แดน 0-0 (ห) อุ่นเครื่อง, วันที่ 8 ต.ค.2004 ไทย แพ้ จอร์แดน 2-3 (ห) อุ่นเครื่อง วันที่ 1 ก.พ.2006 ไทย เสมอ จอร์แดน 0-0 (ห) อุ่นเครื่อง, วันที่ 14 ม.ค.2009 ไทย เสมอ จอร์แดน 0-0 (ย) เอเชียน คัพ รอบคัดเลือก, วันที่ 6 ม.ค.2010 ไทย เสมอ จอร์แดน 0-0 (ห) เอเชียน คัพ รอบคัดเลือก และวันที่ 6 ต.ค.2011 ไทย เสมอ จอร์แดน 0-0 (ห) อุ่นเครื่อง สรุป พบกัน 6 ครั้ง ไทย เสมอ 5 แพ้ 1 ได้ 2 เสีย 3 ประตู
ออกสตาร์ตเกมในครึ่งเวลาแรกทีมชาติไทยที่อยู่ในยูนิฟอร์มย้อนยุค 100 ปีสมาคมกีฬาฟุตบอลในชุดสีขาวแดงเป็นฝ่ายทำเกมบุกเข้าใส่จอร์แดนทันที แต่ด้วยสภาพสนามที่ชุ่มฝนซึ่งโปรยปรายลงมาก่อนเกม ทำให้บอลคอลโทรลกับพื้นค่อนข้างมีปัญหาอยู่บ้าง
น.3 ธีราทร บุญมาทัน กัปตันทีมชาติไทยวางขนานเส้นฝั่งซ้ายไปให้ เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ แต่บอลสุดท้ายยังถูก ทาเรก คาแทป แนวรับจอร์แดนเคลียร์ทิ้งได้ก่อน
น.4 ธีราทร บุญมาทัน ดักบอลเร็วของจอร์แดน ก่อนเลือกสับไกนอกกรอบด้วยซ้าย แต่บอลยังเหินโด่งข้ามคานออกไปไกล
น.6 ทีมชาติไทยได้ลูกเตะมุมฝั่งซ้าย ธีราทร บุญมาทัน เปิดมาที่หน้าประตู แต่ยังถูกนายด่านจอร์แดนออกมาชกทิ้งได้ก่อน
''ธีรศิลป์'' หวือหวา!สร้างโอกาสลุ้นประตู
น.9 บอลจากซ้ายของ ประกิต ดีพร้อม ที่เปิดเข้ากลางมาที่หน้าปากประตู ธีรศิลป์ แดงดา ใช้อกพักบอลเข้าเหลี่ยมลั่นไกโดยที่แนวรับจอร์แดนเข้าไม่ถึงแล้ว แต่ผู้ตัดสินชาวมาเลเซีย อย่าง โมฮัมเหม็ด นาฟีส เป่าฟาวล์โดยมองว่าเป็นลูกแฮนด์บอลของธีรศิลป์
น.12 เอสซัน ฮัดดัด กระแทรกด้านหลัง ธีรศิลป์ แดงดา ที่หน้ากรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าให้ไทยได้ฟาวล์ พร้อมกับแจกใบเหลืองให้ เอสซัน ฮัดดัด
น.15 ไทยได้ลุ้นอย่างต่อเนื่อง บอลยาวจากแดนหลังมาถึง ธีรศิลป์ แดงดา ที่พยายามเกี่ยวบอลลงเล่นแต่ยังทำได้ไม่ถนัดนัก
น.20 จอร์แดนอาศัยลูกโยนยาวจากริมเส้น ยาสเซน บาคีท เปิดจากขวาหวังโยนให้เพื่อนที่เสาไกล แต่บอลยังลึกเข้ามือ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ที่คว้าเอาไว้ได้
45 นาทีแรกยังแค่หวาดเสียว!โนว์สกอร์ 0-0
น.22 ไทยสวนเร็วและมาได้ฟรีคิกที่ริมเส้นขวาระยะไกล ธีราทร บุญมาทัน เปิดกึ่งยิงกึ่งผ่านไปหน้าประตู เพื่อนยังโฉบไม่ทัน
ครึ่งชั่วโมงแรกรูปเกมของจอร์แดนยังเป็นรองทีมชาติไทยอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังไม่มีสกอร์เกิดขึ้น
น.33 จอร์แดนมีโอกาสขึ้นนำทีมชาติไทย จากลูกโขกของ ยูเซฟ ราชชาส แต่บอลยังไปติดหัวกองหลังไทยออกหลังไป เป็นลูกเตะมุมของจอร์แดน ยูเซฟ ราชชาส คนเดิมที่ได้ซัดแถวสอง บอลไปติด ธีรศิลป์ แดงดา ที่ลงมาช่วยเกมรับในจังหวะนี้
น.36 ทริสตัน สมชาย โด ได้ครอสจากริมเส้นฝั่งขวา บอลมาเข้าหัว เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ ที่ได้โถมโขก แต่บอลยังหลุดออกหลังไป
น.40 บาฮา ซูเลียมาน โดนใบเหลืองเป็นคนที่สองของจอร์แดนจากจังหวะที่เบรกเกมใส่ผู้เล่นไทยในจังหวะเสียการครองบอล
น.43 ฮามซา อัลดาราเดส แหวกลบ 3 ด่านผู้เล่นไทยที่กลางสนาม สุดท้ายถูก มงคล ทศไกร ตัดฟาวล์เพื่อหยุดเกม ผู้ตัดสินแจกใบเหลืองให้ มงคล ทศไกร ทันที เวลาที่เหลือในครึ่งแรกยังไม่มีประตูเกิดขึ้น จบครึ่งแรก ไทย ยังเสมอ จอร์แดน 0-0
เฮสนั่นราชมัง! เกริกฤทธิ์กระทุ้งไทยนำ 1-0
กลับมาลุยต่อในครึ่งหลังทั้งสองทีมเปลี่ยนผู้เล่นฝั่งละราย ทีมชาติไทย ส่ง ศราวุฒิ มาสุข ลงเล่นแทน มงคล ทศไกร ส่วนจอร์แดนส่ง มูซาบ อัลลาฮาม ลงเล่นแทน ยูเซฟ ราชชาส น.46
น.47 จอร์แดนได้ฟรีคิกระยะหวังผลหน้ากรอบเขตโทษ ยาสเซน บาคีท ปั่นด้วยขวา บอลฮุกเข้ากรอบ แต่ยังไม่ผ่านมือ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ที่โชว์ซูเปอร์เซฟปัดทิ้งเอาไว้ได้ทัน
น.51 ทีมชาติไทยได้ประตูออกนำจอร์แดนจนได้ จากการเปิดบอลจากริมขวาของ ธีรศิลป์ แดงดา บอลลอยมาเสาสองถึง เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ ที่ซัดดาบแรกไม่ดี แต่กองหลังจอร์แดนไม่ทันระวัง บอลยังมาเข้าทางปืน เกริกฤทธิ์ ที่ตามซัดด้วยซ้ายอย่างเด็ดขาด ส่งบอลพุ่งทะแยงเสียบเสาไกลเข้าไป ช่วยให้ทีมชาติไทยออกนำจอร์แดน 1-0 และถือเป็นประตูแรกของ เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ ในเวทีคิงส์คัพสมัยที่ 2 ของเจ้าตัวด้วย
น.55 ยาสเซน บาคีท เจตนาเล่นนอกเกมด้วยการย่ำหลัง ทริสตอง สมชาย โด แต่ผู้ตัดสินยังไม่ว่าอะไร ถัดมาอีกนาทีเดียว สารัช อยู่เย็น ปะทะกับ ยาสเซน บาคีท จนทั้งคู่มีปะทะคารมและเกือบบานปลาย ผู้ตัดสินเป่าฟาวล์ให้จอร์แดนพร้อมกับให้ใบเหลือง สารัช อยู่เย็น
น.59 จอร์แดนเร่งเครื่องหนักจนเกือบได้ลุ้นตีเสมอ จากลูกยิงโล่งๆ ของ ยาสเซน บาคีท แต่บอลยังหลุดเสาออกไป
น.62 ยาสเซน บาคีท แนวรุกจอร์แดนฟิวส์ขาดกับรูปเกมที่ตกเป็นรอง จังหวะนี้เลือกเข้าหนักใส่ สารัช อยู่เย็น ที่กลางสนามเพื่อหวังเป็นการเอาคืน ผู้ตัดสินแจกใบเหลืองให้ ยาสเซน บาคีท ทันที
ประสานงานสุดยอด! เกริกฤทธิ์เบิ้ลเม็ด 2
น.63 "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือทีมชาติไทยส่ง อดิศักดิ์ ไกรษร ลงเล่นแทน ชนาธิป สรงกระสินธ์ น.67 กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ นายด่านไทยถูกผู้ตัดสินควักใบเหลืองหลังมองว่าถ่วงเวลาจากการออกบอลช้า
น.74 อดิศร พรหมรักษ์ เซนเตอร์ฮาล์ฟทีมชาติไทยถูก ฮามซา อัลดาราเดส เตะเข้าที่ปลายคางในจังหวะบล็อกลูกจักรยานอากาศ แต่ก็ยังลุกขึ้นมาเล่นต่อไหว
น.80 ทีมชาติไทยมาบวกเม็ดที่สองได้ชนิดสะใจแฟนบอลไทยทั้งประเทศ จากจังหวะที่ ศราวุฒิ มาสุข กระชากขึ้นทางฝั่งขวาก่อนตบเข้ากลางให้ อดิศักดิ์ ไกรษร ที่สปีดไปเอาบอลได้ก่อนแนวรับจอร์แดนจะเข้าถึง ก่อนที่ อดิศักดิ์ จะไหลต่อให้ ธีรศิลป์ แดงดา ที่ปล่อยหลอกดึงตัวประกบ บอลหลุดไปถึง เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ ที่ได้ซัดโล่งๆ เข้าไป ช่วยให้ ไทย หนีเพิ่มเป็น 2-0
น.83 ไทยเปลี่ยนตัวรายสุดท้าย ส่ง ทศวรรษ ลิ้มวรรณเสถียร กองกลางดาวรุ่งลงเล่นแทน ประกิต ดีพร้อม เวลาที่เหลือจอร์แดนไม่สามารถทำประตูได้ จบเกม ไทย ชนะ จอร์แดน 2-0 คว้าแชมป์คิงส์คัพ ครั้งที่ 44 ไปครอง พร้อมเงินรางวัล 1,750,000 บาท, จอร์แดน รองแชมป์รับ 1,050,000 บาท ขณะที่ ซีเรีย ที่ 3 และ ยูเออี ที่ 4 รับเงินรางวัลทีมละ 350,000 บาท โดยพิธิปิดได้รับเกียรติจาก พลเรือเอก ชุมพล ปัจจุสานนท์ องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์มอบถ้วยพระราชทาน คิงส์คัพ ให้กับทีมชาติไทยด้วย
จากชัยชนะ จอร์แดน 2-0 ครั้งนี้ของทีมชาติไทย ทำให้พวกเขาคว้าชัยด้วยสกอร์ดังกล่าวเป็นหนที่ 2 ต่อจาก พ.ศ. 2535 ที่ชนะ เอฟซี เบอร์ลิน สโมสรจากเยอรมัน 2-0 และเป็นครั้งที่ 14 ของถ้วยใบนี้ในรอบ 9 ปี ต่อจาก พ.ศ.2519, 2522, 2523, 2524, 2525, 2527, 2532, 2533, 2535, 2537, 2543, 2549 และ 2550
ไทยคว้าแชมป์สมัย 14! สิ้นสุดรอคอย 9 ปี
จากความสำเร็จของทีมชาติไทยที่เอาชนะจอร์แดน 2-0 ในรอบชิงชนะเลิศพร้อมกับคว้าแชมป์ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์คัพ ครั้งที่ 44 มาครองได้นั้น ถือเป็นการสิ้นสุดการรอคอยแชมป์คิงส์คัพหนแรกในรอบ 9 ปี หลังจากที่หนล่าสุดทีมชาติไทยได้แชมป์เมื่อปี พ.ศ. 2550
ทั้งนี้ยังถือเป็นแชมป์คิงส์คัพ ครั้งที่ 14 ของทีมชาติไทย ในการแข่งขันรวมทั้งหมด 44 ครั้งด้วย ซึ่งทีมชาติไทยคือชาติที่คว้าแชมป์ได้เยอะที่สุดของการแข่งขัน โดยมี เกาหลีใต้ ตามมาเป็นที่สองที่คว้าแชมป์ได้ 11 สมัย
ขณะที่ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล นายด่านตัวสำรองของทีมชาติไทยคว้าแชมป์คิงส์คัพได้เป็นสมัยที่ 2 ของเจ้าตัวนับจากปี พ.ศ. 2550 ที่เจ้าตัวอยู่ในทีมชุดนั้น ส่วนผู้เล่นไทยคนอื่นๆ อีก 22 ราย พึ่งได้แชมป์คิงส์คัพหนนี้เป็นหนแรก
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
ไทย - กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์, ธีราทร บุญมาทัน, ทริสตอง สมชาย โด, ธนบูรณ์ เกษารัตน์, อดิศร พรหมรักษ์, ประกิต ดีพร้อม (แทน น.83 ทศวรรษ ลิ้มวรรณเสถียร), สารัช อยู่เย็น, ชนาธิป สรงกระสินธ์ (แทน น.63 อดิศักดิ์ ไกรษร), เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์, มงคล ทศไกร (แทน น.46 ศราวุฒิ มาสุข), ธีรศิลป์ แดงดา
จอร์แดน - อาเหม็ด นาวาส, โอมาร์ อัลมานาราส, โมฮานาด อัล ซูลิมาน, ทาเรก คาแทป, เอสซัน ฮัดดัด, ยาสเซน บาคีท (แทน น.65 ยาซิน ทาลจิ ), ฟาดี้ ซาร่า, ยูเซฟ ราชชาส (แทน น.46 มูซาบ อัลลาฮาม), อาเหม็ด ซาร่า, บาฮา ซูเลียมาน (แทน น.75 บาฮา ซาอิป), ฮามซา อัลดาราเดส