ศึกฟุตบอลเนชั่นส์ คัพ 2016 อายุไม่เกิน 21 ปี ที่รัฐมะละกา ประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นรายการเตรียมความพร้อมซีเกมส์ ครั้งที่ 29 ช่วงปลายปีหน้าที่มี 4 ชาติร่วมฟาดแข้ง ประกอบด้วย มาเลเซีย (เจ้าภาพ), ไทย, สิงคโปร์ และเวียดนาม ช่วงระหว่างวันที่ 1-6 มิ.ย. 59 ก็เดินทางมาถึงรอบชิงชนะเลิศ วันที่ 5 มิ.ย. 59 โดยคู่ชิงชนะเลิศ ทีมชาติไทย จะพบกับ มาเลเซีย สำหรับผลการแข่งขันคู่ชิงอันดับ 3 เวียดนาม ชนะจุดโทษ สิงคโปร์ 7-6 (ในเวลาเสมอ 2-2 )
11 แข้งทีมชาติไทย พบ มาเลเซีย ในนัดชิงชนะเลิศ เล่นในระบบ 4-3-3 ประกอบด้วย ผู้รักษาประตู อภิรักษ์ วรวงษ์ , เซ็นเตอร์ ชินภัทร์ ลีเอาะ กับ วรวุฒิ นามเวช ,แบ๊กซ้าย สุริยา สิงห์มุ้ย แบ๊กขวา สันติภาพ จันทร์หง่อม , กลางตัวรับ สุรเดช กลั่นขำ , กลางรุก เชาว์วัฒน์ วีระชาติ กับ ณัฐวุฒิ สมบัติ โยธา ปีกซ้าย ชัยวัฒน์ บุราณ ,ปีกขวา ธนาสิทธิ์ ศิริผลา และหน้าเป้าเจนรบ สำเภาดี (กัปตัน )
เช็คสถิติชุดเตรียมซีเกมส์ ก่อนไทย พบ มาเลเซีย ยู-21
สถิติพบกันของทีมชาติไทย-มาเลเซีย (ในชุดซีเกมส์ ) ที่ผ่านมาพบกันทั้งหมด 23 ครั้ง ไทย ชนะ 11 เสมอ 4 แพ้ 8 ประตูได้ 37 เสีย 27 โดยที่ ซีเกมส์ ครั้งที่ 1 ไทย ชนะ 3-1 (รอบแรก) ,ครั้งที่ 2 ไทย แพ้ เสี่ยงทาย รอบรองฯ (เสมอในเวลา 2-2), ครั้งที่ 4 ไทย ชนะ 4-0 (รอบแรก) ,ครั้งที่ 5 ไทย ชนะ 3-0 (รอบแรก ),ครั้งที่ 6 ไทย แพ้ 2-4 ( รอบแรก ),ครั้งที่ 7 เสมอ 1-1 ( รอบแรก), ครั้งที่ 8 ไทย ชนะ 5-4 (รอบแรก) และ ไทย ชนะ 2-1 (ชิงชนะเลิศ), ครั้งที่ 9 ไทย แพ้ 0-2 (ชิงชนะเลิศ), ครั้งที่ 10 ไทย แพ้ 0-1 (รอบแรก), ครั้งที่ 11 เสมอ 2-2 (รอบแรก) และไทย ชนะ 2-1 ( ชิงชนะเลิศ ),ครั้งที่ 12 ไทย ชนะ 4-1 ( รอบรองฯ), ครั้งที่ 13 เสมอ 1-1 (รอบแรก ),ครั้งที่ 14 ไทย แพ้ 0-2 ( รอบรองฯ),ครั้งที่ 15 ไทย แพ้ 0-1 ( รอบรองฯ), ครั้งที่ 17 ไทย ชนะ 2-0 (รอบแรก) ,ครั้งที่ 18 เสมอ 0-0 (รอบแรก ), ครั้งที่ 21 ไทย ชนะ 1-0 (ชิงชนะเลิศ ), ครั้งที่ 23 ไทยชนะ 2-1 (รอบแรก), ครั้งที่ 25 ไทยแพ้ 1-2 ( รอบแรก ), ครั้งที่ 26 ไทยแพ้ 1-2 ( รอบแรก) และครั้งที่ 28 ไทยชนะ1-0 ( รอบแรก )
เริ่มเกมการแข่งขันทีมชาติไทยก็ได้โอกาสแรกก่อน จากจังหวะฟรีคิกทางกราบขวา สุรเดช กลั่นขำ เปิดเข้าไปกลางประตูผู้เล่นสองทีมขึ้นเบียดแย่งโหม่ง แต่ทีมไทยโหม่งได้บอลไปชนเสาไกลเด้งออกมาเข้าทางของ วรวุฒิ นามเวช ซ้ำจ่อๆ เข้าไปให้ทีมชาติไทยออกนำเร็ว 1-0
น.7 ไทยได้โอกาสอีกหนจากฟรีคิกทางกราบขวา สุริยา สิงห์มุ้ย เปิดเข้าไปบริเวณหัวกะโหลก เจนรบ สำเภาดี พักอกกลับมาให้ ณัฐวุฒิ สมบัติโยธา ซัดทันทีแต่แรงไม่พอบอลไปเข้าซองของ ซัสซันวาน อัลดิค ไทยยังครองบอลได้ดีกว่า น. 11 เจนรบ สำเภาดี ได้บอลระยะ 20 หลากระชากลุยเข้าไปในเขตโทษ ไหล่ต่อให้ ธนาสิทธิ์ ศิริผลา ที่สอดเข้ามาได้ซัด แต่ทาง ซัสซันวาน อัลดิค นายด่านเจ้าบ้านออกมาเร็วบล็อกเอาไว้ได้ทัน
หลังโดนโหมใส่ต่อเนื่องเจ้าบ้านมาเลเซียก็เริ่มที่จะตั้งเกมได้ โดยเฉพาะการขึ้นเกมทางฝั่งซ้ายที่ทำได้ดี น. 26 ทีมไทยน่าจะได้ประตูที่สอง เมื่อสันติภาพ จันทร์หง่อม แบ็กขวาเติมเกมสูงเปิดบอลครอสจากริมเส้นเข้ามากลางประตูให้กับ เจนรบ สำเภาดี ดึงบอลงอย่างสวยกระชากเข้าเขตโทษและซัดแต่กองหลังตามมาบล็อกเอาไว้ได้ทัน จากนั้น น.35 มาเลเซีย ตีเสมอได้เมื่อเปิดบอลยาวจากกลางสนาม ทิ้งพื้นที่ว่างระหว่างประตู อภิรักษ์ วรวงษ์ กับ วรวุศิ นามเวช เซนเตอร์ ทำให้ไม่รู้กัน นอห์ ซยามี่ สปีดโฉบเข้าถึงบอลก่อนยิงผ่านมือ อภิรักษ์ วรวงษ์ เข้าไปให้มาเลเซียตีเสมอ 1-1
น.41 สันติภาพ จันทร์หง่อม เจ็บเล่นต่อไม่ไหว ถูกเปลี่ยนออกส่ง เจนภพ โพธิ์ขี ลงเล่นแทน จากนั้นสองทีมก็ยังพยายามเปิดเกมรุกใส่กันแต่ก็ไม่มีทีมใดยิงสกอร์เพิ่มกันได้ จบการแข่งขันครึ่งแรก ไทย เสมอ มาเลเซีย 1-1
ลงมาสู้กันต่อครึ่งหลัง ทั้งสองทีมยังไม่มีการเปลี่ยนตัว น.50 ทีมไทยได้ลุ้นก่อนเมื่อ ธนาสิทธิ์ ศิริผลา ได้บอลทางกราบขวาลากตัดเข้าในบริเวณหัวกะโหลกจ่ายตามช่องให้ ณัฐวุฒิ สมบัติโยธา สอดเข้ามายิงแต่กดไม่ลง ข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย
น.61 ทีมไทยปรับทัพอักครั้งถอด ชัยวัฒน์ บุราณ ออกส่ง มนตรี พรหมสวัสดิ์ ลงไปเล่นแทน น.64 มนตรีที่เพิ่งลงไปใหม่ก็ได้โอกาสแปที่เสาสองเต็มๆ แต่ยังไปตรงประตูมาเลเซีย น.68 ทีมไทยได้ลุ้นอีกหนจากฟรีคิก สุรเดช กลั่นขำ เปิดบอลเข้าไปกลางประตู วรวุฒิ นามเวช สอดเข้าไปโหม่งไม่โดน บอลไหลออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย นาทีต่อมา เจนรบ สำเภาดี ได้พลิกตัวยิงในกรอบเขตโทษผ่านประตูมาเลเซียไปแล้ว แต่กองหลังยืนคุมอยู่เตะออกมาอีกอ น.77 ทีมไทยน่าจะบวกสกอร์เพิ่มเมื่อตัดบอลในแดนตัวเองได้บอลมาอยู่ที่ เชาว์วัตน์ วีระชาติ เปิดให้ มนตรี พรหมสวัสดิ์ กระชากเกือบครึ่งสนามเข้าไปในเขตโทษ แต่จังหวะยิงช้าไปเลยโดนกองหลังเจ้าบ้านตามมาสกัดในจังหวะยิงพอดี
น.79 ทีมไทยขึ้นนำ 2-1 จากจังหวะที่ ธนาสิทธิ์ ศิริผลา เปิดบอลให้ มนตรี พรหมสวัสดิ์ เข้าไปในเขตโทษทางซ้ายเอาบอลลงไหลต่อมากลางประตูให้ เจนรบ สำเภาดี ที่กลางประตูสอดเข้ามาแปตุงตาข่ายให้ทีมไทยขึ้นนำ 2-1 หลังจากนั้นทั้งคู่ไม่สามารถทำอะไรเพิ่มได้ ไทย ชนะ 2-1 คว้าแชมป์ได้สำเร็จ