การแข่งขันฟุตบอลอุ่นเครื่องตามปฏิทินฟีฟ่าเดย์ ในศึก "CFA International Women's Football Match 2016" ณ เมืองคุนซาน ประเทศจีน ระหว่างฟุตบอลหญิงทีมชาติจีน พบฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย นัดแรก เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ที่ผ่านมา เวลา 19.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น ช้ากว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมง)
สำหรับ 11 คนแรก "ชบาแก้ว" ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย ภายใต้การคุมทัพของ สเปนเซอร์ ไพรเออร์ กุนซือใหญ่ชาวอังกฤษ จัดทัพมาในระบบ 4-2-3-1 โดยใช้ สุกัญญา ช.เจริญยิ่ง ลงเฝ้าเสา ส่วนแผงหลัง 4 คน ประกอบด้วย วารุณี เพ็ชรวิเศษ ยืนเป็นแบ็กขวา และแบ็กซ้ายใช้ สุนิสา สร้างไธสง เซนเตอร์ฮาล์ฟเป็น ณัฐกานต์ ชินวงศ์ จับคู่กับ ดวงนภา ศรีตะลา
ขยับมาที่แดนกลางให้ นิภาวรรณ ปัญโญสุข เป็นตัวตัดเกมคู่กับ พิกุล เขื่อนเพ็ชร โดยมี รัตติกาล ทองสมบัติ ทะลุทะลวงทางกราบขวา อนุชศรา หมายเจริญ กับ ศิริมงคล จิตรบรรจง ขึ้นเกมทางซ้าย พิสมัย สอนไสย์ ยืนหลังศูนย์หน้าคอยสร้างสรรค์เกมรุกให้ ธนีกาญจน์ แดงดา ที่ค้ำเป็นหน้าเป้า
ด้านผู้เล่น 11 คนแรก ฟุตบอลหญิงทีมชาติจีน จัดทัพมาในระบบ 4-4-2 ผู้รักษาประตูเป็น เจ่า หลีนา แผงหลัง 4 คน ประกอบด้วย ลิ่ว ซันซัน, เซอ เจียว, ลี ด๋องนา และ เจ้า หลง ส่วนแผงมิลฟิลด์ใช้ เริ่น กุยซิน, หวัง ทรวง, กู ยาซา และ ทัน รูยิน แดนหน้าให้ มา เสี่ยวซู จับคู่กับ จวง หลุ่ย
ผู้ตัดสินเป่านกหวีตเริ่มเกม จีนเป็นฝ่ายเขี่ยบอลก่อนและเปิดเกมบุกเข้าใส่ทันที นาทีที่ 2 ทัน รูยิ่น ได้บอลบริเวณกลางสนาม ก่อนแทงต่อให้ มา เสี่ยวซู หน้ากรอบเขตโทษ จากนั้นพลิกบอลขึ้นหน้าแล้วกดด้วยเท้าขวาทันที แต่บอลเบาไหลเข้าซอง สุกัญญา ช.เจริญยิ่ง ที่ก้มตัวรับไว้ได้สบาย
จากนั้นยังเป็นจีนที่ครองเกมบุกส่วนใหญ่ โดยทีมชาติไทยเน้นการตั้งรับที่เหนียวแน่ นาทีที่ 7 จากจังหวะต่อเนื่องลูกเตะมุมของจีน บอลกระฉอกออกมาแถวสอง หวัง ทรวง ไหลบอลมาทางกราบขวาให้ ทัน รูยิน ปาดเรียดเข้ากลางเขตโทษให้ กู ยาซา วิ่งมาซัดจังหวะเดียวแบบไม่จับ บอลเหินข้ามคานออกหลังนิดเดียว
กระทั่งนาทีที่ 13 ทีมชาติไทยทำพลาดเสียบอลในแดนตัวเอง ก่อนที่ จวง หลุ่ย จะได้ซัดในเขตโทษ สุกัญญา ช.เจริญยิ่ง ปัดบอลไม่พ้นเด้งมาเข้าทาง มา เสี่ยวซู ยิงสวนกลับทันที สุกัญญาลอยตัวชกบอลชนคานก่อนที่จะเด้งตกใส่หัวตัวเองไหลเข้าประตูให้จีน ขึ้นนำ 1-0
นาทีที่ 19 จีนได้ประตูหนีห่าง จากจังหวะที่ จวง หลุ่ย ได้โอกาสตะบันเต็มข้อด้วยเท้าขวาในเขตโทษ บอลพุ่งชนคานเด้งออกมาเข้าทางเจ้าตัวอีกครั้ง ก่อนที่จะยกบอลข้ามหัว สุกัญญา ช.เจริญยิ่ง ลอยเข้าประตูไปง่ายๆ จีนขยับหนีห่าง 2-0
ผ่านครึ่งทางของครึ่งแรกรูปเกมยังตกเป็นของจีน โดยทีมชาติไทยมักเสียบอลบริเวณแดนกลางเป็นส่วนใหญ่ และยังไม่มีโอกาสทำประตูเท่าที่ควร นาทีที่ 32 มา เสี่ยวซู ของจีน ได้บอลหลุดเข้าเขตโทษไปล็อกบอลหลบ สุกัญญา ช.เจริญยิ่ง แต่ไม่มีมุมยิง ก่อนที่จะเปิดบอลไปติดหัว ณัฐกานต์ ชินวงศ์ ที่โหม่งสกัดทิ้งออกมาได้
นาทีที่ 40 เป็นโอกาสยิงตรงกรอบครั้งแรกของทีมชาติไทย เมื่อ พิสมัย สอนไสย์ ใช้ความสามารถเฉพาะตัวดึงบอลหลบผู้เล่นทีมชาติจีนหนึ่งจังหวะ ก่อนตัวสินใจก้มหน้ายิงจากระยะประมาณ 30 หลาทันที แต่บอลพุ่งเบาตรงตัว เจ่า หลีนา ที่รับไว้ได้สบาย
ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นาทีที่ 45+2 ทีมชาติจีนได้ประตูที่สามจากจังหวะที่ สุกัญญา ช.เจริญยิ่ง ออกมาตัดบอลในเขตโทษไม่ดี กระฉอกเข้าทาง จวง หลุ่ย แปสวนเข้าประตูไปแบบง่ายๆ ให้จีนหนีห่างเป็น 3-0 และครึ่งแรกจบด้วยสกอร์นี้
กลับมาครึ่งเวลาหลัง ทั้งสองทีมยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่น นาทีที่ 47 ทีมชาติจีน ลุยเกมขึ้นมาจนสุดเส้นหลัง ก่อนเปิดเข้ากลางประตู แผงหลังไทยช่วยกันสกัดบอลออกมาได้ แต่ยังเด้งเข้าทาง เริ่น กุยซิน บริเวณแถวสองที่วางเท้าตะบันตูมเดียวด้วยขวา บอลพุ่งเสยใต้คานเข้าประตูไปอย่างสวยงาม จีนทิ้งห่าง 4-0
นาทีที่ 59 ทีมชาติไทย เปลี่ยนผู้เล่นสองตำแหน่ง ด้วยการส่ง ดารัตน์ ช่างปลูก ลงมายืนแบ็กขวาแทนที่ วารุณี เพ็ชรวิเศษ และ กาจญนา สังข์เงิน แข้งจอมเก๋า ลงมาทำเกมทางกราบขวาแทนที่ รัตติกาล ทองสมบัติ ที่ไม่ค่อยมีบทบาทในเกมนี้
จากนั้นนาทีที่ 65 ทีมชาติไทย เปลี่ยนผู้เล่นอีกหนึ่งตำแหน่ง โดยการส่ง นภัทร สีเสริม ลงมาช่วยเกมในแดนกลางแทนที่ ธนีกาญจน์ แดงดา ดาวยิงตัวเก่ง แล้วดัน พิสมัย สอนไสย ขึ้นไปเล่นไปศูนย์หน้าตัวเป้า
ช่วง 25 นาทีสุดท้าย แข้งสาวไทย เริ่มครองเกมบุกได้บ้าง โดยจีนเน้นเกมรับที่รัดกุมแล้วคอยอาศัยจังหวะสวนกลับเร็วเข้ากดดัน อย่างไรก็ตาม ทีมชาติไทย มักเสียบอลบริเวณกลางสนามซะเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ไม่มีโอกาสเข้าทำประตูเท่าที่ควร
นาทีที่ 73 ทีมชาติจีน เกือบได้ประตูที่ห้า เมื่อลุยเกมขึ้นมาจากกลางสนามถึงหน้ากรอบเขตโทษทีมชาติไทย จากนั้น หวัง ทรวง ไหลบอลออกมาทางซ้ายให้ หวัง ทิงทิง แปเน้นๆ บอลพุ่งชนคานเด้งออกมา ก่อนที่แผงหลังทีมชาติไทย จะช่วยกันสกัดทิ้งไปได้
ท้ายเกม ทีมชาติจีน ยังเป็นฝ่ายครองบอลและไม่เพลาเกมบุกลง ก่อนที่จะมาบวกสกอร์เพิ่มอีกสองลูกจาก หยัง ลี่ นาที 86 และช่วงทดเวลาบาดเจ็บจาก เจ้า เซอ นาทีที่ 90+3 และเป็นประตูปิดกล่องให้ทีมชาติจีน อุ่นเครื่องถล่มเอาชนะ ทีมชาติไทย ไปด้วยสกอร์ท่วมท้น 6-0