ความเคลื่อนไหวของทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ในการลุยศึก คิงส์ คัพ ครั้งที่ 44 ที่จะเล่นในวันที่ 3 และ 5 มิ.ย.นี้ ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน โดยเกมแรกจะพบกับ ซีเรีย ในเวลา 20.00 น. อีกคู่ สหรัฐอาหรับเมริเรสต์ พบกับ จอร์แดน

        ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. ของวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง แม่ทัพ "ช้างศึก" ได้เรียก 23 แข้งทีมชาติไทย ชุดใหญ่ มารายงานตัวที่โรงแรมดุสิตธานี เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยขาดเพียงแค่ นฤบดินทร์ วีรวัฒน์โนดม แบ็กขวา บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ อดิศร พรหมรักษ์ เซนเตอร์ฮาล์ฟจาก บีอีซี เทโรศาสน ที่แจ้งมาว่าจะมาสมทบกับเพื่อนร่วมทีมในช่วงบ่าย

        การรายงานตัวครั้งนี้ ขจร เจียรวนนท์ ผจก.ทีมชาติไทย ชุดใหญ่ คนใหม่ ที่เข้ามาแทนที่ของ พลเอก สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ ผจก.ทีมคนเก่า ที่ขอถอนตัวเนื่องจากมีภารกิจที่ล้นมือ ไม่ได้เดินทางมา เนื่องจากติดงานที่ต่างประเทศทว่าได้ส่งตัวแทนเข้ามาพูดคุยกับนักเตะและทีมงาน ก่อนที่ช่วงเย็นจะให้ผู้เล่นลงสระน้ำภายในโรงแรมดุสิตธานี เพื่อฟื้นฟูร่างกายหลังกรำศึกหนักมาจากต้นสังกัด ซึ่งมีบางส่วนที่แยกไปเล่นฟิตเนส

        รายชื่อทั้ง 23 คนของทีมชาติไทย ชุดใหญ่ มีดังนี้ ผู้รักษาประตู กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ( เอสซีจีเมืองทอง ยูไนเต็ด ),ชนินทร์ แซเอี๊ยะ (ชลบุรี เอฟซี) , สินทวีชัย หทัยรัตนกุล ( สุพรรณบุรี เอฟซี )

        กองหลัง ทริสตอง สมชาย โด , พีระพัฒน์ โน้ตชัยยา, ธีราทร บุญมาทัน, สุพรรณ ทองสงค์ ( เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ),อดิศร พรหมรักษ์ (บีอีซีเทโรศาสน), นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม ( บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ), มิก้า ชูนวลศรี (แบงค็อก ยูไนเต็ด)

        กองกลาง ชนาธิป สรงกระสินธ์, ,ธนบูรณ์ เกษารัตน์, สารัช อยู่เย็น (เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด),ทศวรรษ ลิ้มวรรณเสถียร, มงคล ทศไกร ( อาร์มี ยูไนเต็ด ), ประกิต ดีพร้อม,  เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ (ชลบุรี เอฟซี),  ศราวุฒิ มาสุข ( บางกอกกลาส เอฟซี ),  บดินทร์ ผาลา (บางกอกกลาส เอฟซี), ธนา ชะนะบุตร (การท่าเรือ เอฟซี ) , สรรวัชญ์ เดชมิตร ( แบงค็อก ยูไนเต็ด )

        กองหน้า ธีรศิลป์ แดงดา ,อดิศักดิ์ ไกรษร (เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด)

        "ซิโก้"ลั่นแชมป์ฉลอง 100ปี,ถวายพ่อหลวง

        "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือของทีม บอกว่า "การเป็นนักเตะทีมชาติไทย คุณต้องเล่นในถ้วยคิงส์ คัพ ตลอดจนต้องคว้าแชมป์เพื่อให้ทุกอย่างออกมาสมบูรณ์แบบ ฉะนั้นทั้ง 23 คนที่เราได้เรียกตัวมาครั้งนี้ ผมและทีมงานได้ดูฟอร์มการเล่นมาตลอด แม้ว่าจะมีนักเตะหลายคนที่เป็นแกนหลักที่บาดเจ็บ ไม่ว่าจะเป็น ปกเกล้า อนันต์, สุทธินันท์ พุกหอม และ กรวิทย์ นามวิเศษ แต่ผมมั่นใจว่าทดแทนกันได้แน่นอน"

        "คิงส์ คัพ ครั้งนี้ถือว่าสำคัญมาก แม้ว่าเราจะมีเวลาซ้อมแค่ 4 วัน แต่ผมเชื่อว่าทุกคนต่างมีสภาพความฟิตที่ดีอยู่แล้วมาจากการรับใช้ต้นสังกัดของตัวเอง ฉะนั้นเป้าหมายของเราจะต้องคว้าแชมป์ให้ได้ เพื่อฉลองครบรอบ 100 ปี สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงจัดตั้งสมาคมฯขึ้นมา"

        "ขณะเดียวกันเราต้องการคว้าแชมป์เพื่อถายให้กับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พ่อหลวงของปวงชนชาวไทยทุกหย่อมหญ้า ซึ่งพระองค์จะฉลองครองราชย์ครบ 70 ปี อีกทั้งการได้เล่นในบ้านพร้อมกับมีแฟนบอลหนุนหลังอยู่ น่าจะทำให้เราได้เปรียบแน่นอน"

        ไม่สนแรงกิ้งคู่แข่งสูงขอซัดสักตั้ง

        ขณะเดียวกันทีมที่เดินทางมาเล่นใน คิงส์ คัพ ครั้งที่ 44 ไม่ว่าจะเป็น ซีเรีย, สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ และ จอร์แดน นั้น ต่างมีอันดับโลกจากการจัดของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติหรือ ฟีฟ่า ที่สูงกว่าทีมชาติไทยทั้งหมด จุดนี้อดีตกองหน้าจอมตีลังกา บอกว่า

        "เป็นเรื่องที่ดีที่เราจะได้เล่นกับทีมที่มีอันดับโลกเหนือกว่าพวกเรา เพราะเราต้องการวัดศักยภาพของทีมเช่นเดียวกัน แม้ว่าวันนี้ฟุตบอลไทยกำลังเติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่ผมคิดว่าต้องดูผลงานของสโมสรในการขึ้นมาเล่นถ้วยเอเชียจากนี้ไปอีก 4-5 ปี"

        "รวมทั้งทีมชาติไทย จะได้พิสูจน์ตัวเองในรายการนี้กับการก้าวขึ้นมาเล่นในระดับเอเชีย ที่เจอกับทีมแถวหน้าในย่านอาหรับ ก่อนที่จะพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเราต้องการเน้นผลเป็นที่สุด ทำให้เราจะส่งชุดใหญ่ลงเล่นตั้งแต่วินาทีแรก ทว่าจะดูที่ใครพร้อมมากที่สุด เพราะอย่าลืมว่ายังมีศึกใหญ่อย่าง เอชียน คัพ 2019 ที่จะเป็นเวทีให้กับนักเตะทุกคนได้พิสูจน์ศักยภาพ"

        กฎเหล็ก 4 ข้อเหมือนเดิมแจงทุกชุดแล้ว

        กุนซือทีมชาติไทย ยังเปิดใจในเรื่องของกฎเหล็กในการอยู่ในแคมป์ทีมชาติว่า "กฎของทีมชาติไทยยังมี 4 ข้อเช่นเดิม นั่นคือ 1 ห้ามดื่มเหล้า หรือ เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอร์ เป็นอันขาด 2 ห้ามสูบบุหรี่ในแคมป์เก็บตัว 3 ห้ามเล่นการพนันทุกชนิด และ 4 ห้ามหนีเที่ยวอย่างเด็ดขาด"

        "ทั้ง 4 ข้อนี้ เราไม่อยากจะให้นักเตะได้ลืมตัวเอง เนื่องจากพวกเขาเป็นไอดอลของเยาวชนไทยหลายคน ฉะนั้นควรจะประพฤติตัวเองให้เป็นแบบอย่างมากที่สุด อีกทั้งผมได้แจงนโยบายนี้ให้กับทีมเยาวชน ทีมชาติไทย ทุกชุดไปแล้ว เพื่อให้ทีมเดินมาในทิศทางเดียวกัน"

        เล็งปรับคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟให้ลงล็อก

        "ซิโก้" ยังได้พูดถึงเรื่องการจัดทัพในครั้งนี้ โดยเฉพาะคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟที่อาจจะมีปัญหา เนื่องจาก กรวิทย์ นามวิเศษ กับ สุทธินันท์ พุกหอม ต่างได้รับบาดเจ็บไปก่อนหน้านี้ "ตำแหน่งดังกล่าวผมคิดว่าจะถอย ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ลงมาเล่น แม้ว่าเขากำลังทำผลงานให้กับ เอสซีจี เมืองทองฯ กับบทบาทในการเป็นกองกลางตัวรับได้อย่างยอดเยี่ยม"

        "อีกทั้งเรายังมี มิก้า ชูนวลศรี ที่กลับมาร่วมงานใน คิงส์ คัพ อีกครั้ง หลังจากได้ลงเล่นเมื่อปีที่ผ่านมา ตลอดจน สุพรรณ ทองสงค์ ที่เราเรียกเข้ามาเพื่ออยากจะให้ซึมซับประสบการณ์ของรุ่นพี่ในนามทีมชาติไทย เช่นเดียวกับ บดินทร์ ผาลา อีกด้วย"

        "ซึ่งตำแหน่งเซนเตอร์ฮาล์ฟ ผมคิดว่าอาจจะใช้ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ลองจับคู่กับ อดิศร พรหมรักษ์ หลังจากทั้งสองคนนี้เล่นด้วยกันมาตลอดตั้งแต่การคว้าอันดับ 4 ของเอเชียน เกมส์ ที่ประเทศเกาหลีใต้ และไปเล่น ยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย ที่กาตาร์ เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา"

        ส่งชื่อ 30 คนทำวีซ่ามี "ชัปปุยส์" ด้วย

        ผู้สื่อข่าวยังได้สอบถามถึงการทำวีซ่า เพื่อเดินทางไปเก็บตัวยังประเทศกาตาร์ ในช่วงวันที่ 21-30 ส.ค. ก่อนที่จะเล่นฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย ด้วยการบุกไปกับ ซาอุดิอาระเบีย วันที่ 2 ก.ย.นี้ ว่าจะมีการส่งชื่อนักเตะทำกี่ราย

        นายใหญ่แห่งทัพ "ช้างศึก" เผยว่า ทั้ง 23 คนที่ตนได้เรียกเข้ามาเล่นในคิงส์ คัพ ครั้งนี้ ตนได้ให้นักเตะนำพาสปอร์ตมาให้กับทีมไว้แล้ว เพื่อจะให้ไปทำวีซ่าที่มีเวลาไม่ถึง 3 เดือนในการทำ โดยทุกคนล้วนแต่อยู่ในลิสต์ที่ผมส่งรายชื่อไปก่อนหน้านี้แล้ว

        "อย่างไรก็ตามตนจะส่งรายชื่อไปทั้งหมด 30 คน อีก 7 ราย จะเป็นคนที่ยังรักษาอาการบาดเจ็บ ไม่ว่าจะเป็น ปกเกล้า อนันต์, สุทธินันท์ พุกหอม และกรวิทย์ นามวิเศษ อีกทั้งจะมีชื่อของ ชาริล ชัปปุยส์ ที่จะส่งไปทำวีซ่าด้วย แต่ตนอยากจะให้เขามีเกมได้ลงเล่นมากกว่านี้ก่อน เพื่อที่จะได้ดูความฟิตของตัวนักเตะอีกทางหนึ่ง"

        รับ "ออสซี่" แกร่ง, สเก้าต์ญี่ปุ่นในกิริน คัพ

        นอกจากนี้ "ซิโก้" ยังได้ออกมาเผยเรื่องของรอบ 12 ทีมสุดท้าย ศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ซึ่งมี 2 ทีมแกร่งที่สุดในกลุ่ม บี อย่าง ออสเตรเลีย กับ ญี่ปุ่น เกี่ยวกับฟอร์มการเล่นว่า

        "ผมได้มีโอกาสดูเกมอุ่นเครื่องของ อังกฤษ พบกับ ออสเตรเลีย แล้ว ยอมรับว่า ออสเตรเลีย มีผู้เล่นหลายคนที่มีขีดความสามารถอีกทั้งรูปร่างสูงใหญ่ เพราะส่วนใหญ่พวกเขาค้าแข้งที่ยุโรปเป็นหลัก แต่ไม่ใช่ว่าเราจะสู้ไม่ได้เพราะเราเองต้องการจะซัดกับพวกเขาเหมือนกัน"

        "ส่วน ญี่ปุ่น ที่เรียกผู้เล่นชุดใหญ่มาจากสโมสรในยุโรป มาเล่นใน กิริน คัพ 2016 ครั้งนี้ ผมเองจะให้ทีมงานสตาฟฟ์โค้ชได้ติดตามฟอร์มของพวกเขา อย่างไรก็ตามเราเองได้ดูฟอร์มมาตั้งแต่รอบคัดเลือก รอบสองแล้ว ฉะนั้นข้อมูลของเราน่าจะมีค่อนข้างจะเพียงพอเหมือนกัน"

        "บิ๊กอ๊อด" อุบเรื่องอัดฉีดแต่มีให้แน่

        ด้าน "บิ๊กอ๊อด" พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าว นสพ.สยามกีฬา เกี่ยวกับตัวเลขของเงินอัดฉีด หากว่าทีมชาติไทย ชุดใหญ่ สามารถทวงบัลลังก์แชมป์ คิงส์ คัพ ครั้งที่ 44 ได้เป็นผลสำเร็จ

        "เวลานี้ผมยังไม่ขอพูดถึงเรื่องเงินอัดฉีด เนื่องจากผมอยากจะให้นักเตะทุกคน ตลอดจน เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เฮดโค้ชของทีมและเหล่าบรรดาสตาฟฟ์โค้ช ได้มีสมาธิที่จะโฟกัสไปดูงานของตัวเองเป็นอันดับแรก อย่างไรก็ตามผมเชื่อว่าหากเราสามารถคว้าแชมป์มาครองได้ จะมีอัดฉีดให้อย่างแน่นอน"