"โค้ชเฮง" วิทยา เลาหกุล ประธานพัฒนาเทคนิค สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ส่องโอกาสทัพ "ช้างศึก" ทีมชาติไทย หากหวังจะสร้างประวัติศาสตร์ไปเล่นฟุตบอลโลก 2018 รอบสุดท้าย ที่ประเทศรัสเซีย จะต้องเช็กบิลเกมในบ้านให้ได้ทุกนัด และเก็บแต้ม 22-23 คะแนน พร้อมกำชับแดนกลางต้องไม่เสียบอลง่ายเด็ดขาด ขณะที่เกมแรกต้องออกไปเยือน ซาอุดีอาระเบีย ลั่นรู้ทางแนวการเล่นคู่แข่งพอมีทางรับมือแล้วไม่ห่วง
ด้านโพลล์สำรวจความคิดเห็นแฟนบอลกลุ่ม บี ส่วนใหญ่ มองข้ามทัพช้างศึก โดยมองว่าจะเป็นไม้ประดับของกลุ่มเท่านั้น พร้อมยก ออสซี่, ญี่ปุ่น 2 ตัวเต็งคว้าตั๋วไปลุยบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย
ความเคลื่อนไหวของทีมชาติไทย ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 รัสเซีย โซนเอเชีย รอบสาม หลังจากมีการจับสลากแบ่งสายเพื่อเล่นเหย้า-เยือน ออกมาเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งทีมชาติไทยอยู่ในกลุ่ม บีมีเพื่อนร่วมสายอย่างออสเตรเลีย, ญี่ปุ่น, ซาอุดีอาระเบีย, สหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์ และ อิรัก มีคิวลงสนามนัดแรกวันที่ 1 ก.ย. 59 ออกไปเยือนซาอุดีอาระเบีย ส่วนอีก 9 นัดที่เหลือ ได้แก่ วันที่ 6 ก.ย. 59 ไทย - ญี่ปุ่น, วันที่ 6 ต.ต. 59 ยูเออี - ไทย, วันที่ 11 ต.ค. 59 อิรัก - ไทย, วันที่ 15 พ.ย. 59 ไทย - ออสเตรเลีย เลกสอง 23 มี.ค. 60 ไทย - ซาอุดีอาระเบีย, 28 มี.ค. 60 ญี่ปุ่น - ไทย วันที่ 13 มิ.ย. 60 ไทย - ยูเออี, วันที่ 31 ส.ค. 60 ไทย - อิรัก และวันที่ 5 ก.ย. 60 ออสเตรเลีย - ไทย
ล่าสุดทาง "โค้ชเฮง " วิทยา เลาหกุล ประธานพัฒนาเทคนิค สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ที่ร่วมเดินทางไปจับสลากแบ่งสาย ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 12 เม.ย. 59 ที่ผ่านมา และเพิ่งเดินทางกลับก็ได้ออกมาเผย ถึงความคาดหวังของโอกาสทัพ "ช้างศึก" ทีมชาติไทย ที่จะผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายที่ประเทศรัสเซีย ว่าจะต้องเก็บไม่น้อยกว่า 22-23 แต้ม โดยเฉพาะเกมในบ้านที่จะต้องพยายามเกมชัยชนะให้ได้ทั้งหมด
"ผมได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อหลังทราบผลในวันที่มีการจับสลากว่าทุกทีมไม่ได้แตกต่างกัน อยู่ที่การเตรียมให้พร้อมมากที่สุด ซึ่งทีมชาติไทยก็ยังถือว่ามีเวลาสำหรับการเตรียมความพร้อมที่จะรับมือทีมต่างๆ ทุกชาติก็มองไม่ต่างกันที่จะต้องพยายามเก็บชัยชนะในบ้านให้ได้ทั้งหมด ซึ่งทีมต่างๆ ที่เราร่วมสาย ก็เคยเจอมาแล้วทั้งนั้น ซึ่งในบ้านเราเมื่อครั้งแรกที่เราผ่านเข้ารอบ 10 ทีมสุดท้าย สามารถเสมอ 4 ใน 6 เกมได้ แต่ตอนนั้นฟุตบอลบ้านเรายังไม่พัฒนาและแข็งแกร่งขนาดนี้ วันนี้ลีกบ้านเราเป็นอาชีพคุณภาพต่างๆ ก็ดีขึ้นอย่างมา กแล้วทำไมตอนนี้เราจะทำให้ดีกว่าไม่ได้ ผมเชื่อว่าในบ้านเรามีโอกาสที่จะเก็บแต้มจากทุกชาติ และหากจะต้องคาดเดาจำนวนแต้มเพื่อโอกาสไปเล่นรอบสุดท้าย ผมมองว่าต้องอยู่ที่ 22-23 แต้ม แต่ก็ยอมรับว่าเป็นเรื่องและงานที่ยาก แต่เราก็พร้อมที่จะทำเต็มที่และทำให้ดีที่สุดแน่นอน
นอกจากนี้ ทาง "โค้ชเฮง" ประธานพัฒนาเทคนิค สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ยังได้กล่าวถึงเกมแรกที่ทีมชาติไทยจะต้องออกไปเยือนซาอุดีอาระเบีย วันที่ 1 ก.ย. 59 ว่าเป็นเกมที่มีความสำคัญอย่างมาก ช่วงที่ผ่านมาเราพยายามเก็บข้อมูลเอาไว้ โดยเฉพาะเกมล่าสุดที่เอาชนะทีมชาติเลบานอน 6-7 ลูก พวกเขาเล่นเพรสซิ่งแดนบนได้ดีขึ้นมาถึง5-6 คน ซึ่งเราจะต้องพยายามศึกษาหาทางแก้ แต่ตนเองก็ไม่ห่วงมาก เพราะสไตล์นี้ไม่ค่อยมีความหลากหลาย ตนมองว่าทีมที่เล่นด้วยสไตน์หลากหลายที่มีทั้งการเซตบอล การโต้กลับที่ดีอย่างพวกญี่ปุ่น หรือออสเตรเลียมากกว่าที่น่าเป็นห่วง ซึ่งการเจอกับซาอุดีอาระเบีย เราจะต้องไม่เล่นเน้นรับมาก เราเคยเล่นเปิดเกมบีบพื้นที่กดดันคู่แข่งแบบไหนก็ต้องเล่นเช่นนั้นอย่างที่ผ่านมา ซึ่งเราก็ทำได้ดี
ประธานพัฒนาเทคนิคยังเผยอีกว่า ในช่วงเวลาการเตรียมทีมที่เหลืออยู่อีกประมาณ 4 เดือนเศษนั้น จะต้องพยายามติดต่อทีมจากอาหรับมาอุ่นเครื่องกับทีมชาติไทย เนื่องจากการแข่งขันนั้นเรามีทีมจากชาติอาหรับถึง 3 ทีมด้วยกัน เพื่อให้นักเตะทีมชาติไทยมีการปรับตัวกับสไตน์การเล่นของทีมคู่แข่งขันได้ดีขึ้น อีกทั้งที่ตนเองหวังแนะนำและเน้นเป็นพิเศษคือเรื่องการครองบอลที่จะต้องมีความเหนียวแน่น อย่าเสียบอลง่ายโดยเฉพาะแดนกลาง
ส่วนภายหลังจากที่ทราบผลการจับสลากแบ่งสาย ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือกโซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย ซึ่งแฟนบอลทั้งชาวไทยและในเอเชียต่างวิพากษ์วิจารณ์และแสดงความคิดเห็นการอย่างกว้างขวาง โดยผลโพลสำรวจความคิดเห็นจากแฟนบอลในเอเชีย มีดังต่อไปนี้
เริ่มต้นที่แฟนบอลออสเตรเลีย ว่ากันว่าเป็นเต็ง 1 ของสาย จากการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนชาวออสเตรเลียในแฟนเพจเฟซบุ๊กต่างๆ ส่วนใหญ่ก็มองว่า สายบี เป็นสายที่หนัก และยกให้ ญี่ปุ่น เป็นคู่ต่อสู้ที่น่ากลัวที่สุดในกลุ่มนี้ รองลงมาก็เป็น ซาอุดีอาระเบีย และ อิรัก ส่วน ยูเออี และ ทีมชาติไทย ไม่อยู่ในสายตาของแฟนบอลแดนจิงโจ้แม้แต่น้อย พร้อมกันนี้แฟนบอล ออสเตรเลีย ยังมั่นใจด้วยว่าชาติของพวกเราน่าจะผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลกได้
ด้านแฟนบอลญี่ปุ่นซึ่งก็ออกมาในทำนองเดียวกันว่า สาย บี มีทีมแกร่งและเส้นทางค่อนข้างยากกว่า สาย เอ โดยแฟนบอลปลาดิบต่างยกให้ออสเตรเลีย กับ อิรัก คือคู่แข่งที่อันตราย เช่นเดียวกันกับแฟนบอลออสซี่ที่ไม่ได้พูดถึงทีมชาติไทยแม้แต่น้อย
มาที่แฟนบอลซาอุดีอาระเบีย โดยแฟนบอลส่วนใหญ่มองว่าสาย บี เป็นกล่มที่หนัก เนื่องจากมีทีมแกร่งอย่างออสเตรเลีย และ ญี่ปุ่น ร่วมสาย พร้อมกันนี้ยังมองว่าอิรักก็เป็นอีกทีมสอดแทรกที่อันตรายไม่แพ้กัน ส่วน ยูเออี กับ ทีมชาติไทย แฟนบอลซาอุดีอาระเบียแทบจะไม่พูดถึง โดยมีแค่ไม่กี่คนที่เตือนให้ระวัง ทีมชาติไทย เพราะอาจจะสร้างปัญหาให้พวกเขาได้ถ้าติดประมาท
ขณะที่ความคิดเห็นของแฟนบอลยูเออีส่วนใหญ่มองว่าการเจอกับไทยและอิรัก พวกเขาจะเอาชนะทั้งไปและกลับ (12 แต้ม) ส่วนการเจอกับบิ๊กทีมทั้งซาอุดีอาระเบีย, ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย หวังเพียงแค่แย่งแต้มเท่านั้น ก็น่าจะได้ลุ้นไปลุยบอลโลกได้ไม่ยาก
ส่วนแฟนบอลอิรักหลายคนมองว่านี่คืองานที่สุดหิน โดยยกให้ออสเตรเลีย กับ ญี่ปุ่น เป็นคู่แข่งที่แข็งที่สุด ส่วน ซาอุดีอาระเบีย กับ ยูเออี พวกเขาคิดว่าพอสู้ได้ ขณะที่ทีมชาติไทยแฟนบอลอิรักบางคนบอกว่า ไม่อยากจะเจอกับเราซ้ำสอง เพราะกลัวจะพลาดท่าให้เราอีก แต่อีกส่วนก็บอกอยากจะล้างตากับทีมชาติไทย และคิดว่าการเจอกันในรอบ 12 ทีมสุดท้ายนี้ อิรักจะล้างแค้นทีมไทยได้
ที่มา
|