สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้มีการจัดงานประชุมหารือถึงการพัฒนาและยกระดับทีมลูกหนัง"ช้างศึก"ทีมชาติไทย ที่ห้องมรกต โรงแรมดิ เอมเมอรัลด์ เมื่อวันที่ 31 มี.ค.59 โดยมี พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยผู้บริหารสมาคมฯ ทั้ง "โค้ชเฮง"วิทยา เลาหกุล อุปนายกฝ่ายเทคนิค, ศุภสิน ลีลาฤทธิ์ อุปนายกฝ่ายจัดการแข่งขัน , ธนศักดิ์ สุระประเสริฐ อุปนายกฝ่ายสื่อสารองค์กร , "โค้ชซิโก้"เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยชุดใหญ่ , อดิศักดิ์ เบญจศิริวรรณ ประธานพัฒนาฟุตซอลแห่งชาติ และ ณัฐพล ทรัพย์มนู ประธานพัฒนาฟุตบอลชายหาดแห่งชาติ ร่วมหารือ

               สำหรับการประชุมในวันนี้มีประเด็นสำคัญคือการวางแผนพัฒนาทีมชาติไทย โดยมีการแบ่งแผนการพัฒนาออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะสั้น , ระยะกลาง และ ระยะยาว ซึ่งแผนระยะสั้นจะประกอบด้วยการวางแผนอย่างเร่งด่วนเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งขันที่ทีมชาติไทยจะเข้าร่วมในปีนี้ อาทิเช่น การแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสาม และ การแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์โลก 2016 ณ ประเทศโคลอมเบีย ขณะที่แผนระยะกลางคือการวางแผนพัฒนาต่อเนื่องหลังจบการแข่งขัน เพื่อให้นักกีฬาทีมชาติไทยทุกชุดทุกประเภทได้พัฒนาคุณอย่างต่อเนื่อง

              ส่วนแผนระยะยาวนั้นคือการแบ่งงานให้ฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้ง อุปนายกฝ่ายเทคนิค , หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยชุดใหญ่ , ประธานพัฒนาฟุตซอลฯ และ ประธานพัฒนาฟุตบอลชายหาดฯ ร่างแผนแม่บทพัฒนาฟุตบอลแห่งชาติ เพื่อให้ทีมชาติไทยทุกชุดทุกประเภทได้มีการวางแผนพัฒนาไปในทิศทางเดียวกัน

              ทั้งนี้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนหลังเสร็จสิ้นการประชุมว่า "สำหรับระยะสั้นนั้น ในปีนี้เราต้องทำความเข้าใจก่อนว่าการแข่งขันใดของทีมชาติไทยจะเป็นวาระที่สำคัญที่สุด ซึ่งมติในที่ประชุมก็เห็นพ้องต้องกันว่าการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสาม คือการแข่งขันที่ต้องสำคัญเป็นลำดับแรก เพราะฉะนั้นการเตรียมทีมต่างๆ ก็จะต้องใช้นักกีฬาชุดที่มีความสามารถที่สุด ส่วนการแข่งขันรายการอื่นๆ นั้นอาจจะต้องลดลำดับความสำคัญลงตามสถานภาพ แต่อย่างไรก็ตามเราได้มอบหมายให้อุปนายกฝ่ายเทคนิคเตรียมการวางแผนทีมชาติไทยเพื่อรักษามาตรฐานเดิมให้ยังคงอยู่ควบคู่ไปด้วย"

             "อีกทั้งยังมอบหมายให้ โค้ชเฮง วิทยา เลาหกุล เขียนแผนพัฒนาทีมชาติไทยในช่วง 10 ปีนี้ ซึ่งก็เขียนมาเป็นรูปเป็นร่างแล้ว โดยยึดหลักที่ว่า ฟุตบอลไทยต้องสไตล์ไทยแลนด์เท่านั้น คือทุกคนต้องทำงานร่วมกันเท่านั้น ไม่ใช่เพียงแค่ โค้ชเฮง หรือ โค้ชซิโก้เท่านั้นที่ทำ แต่ทุกคนต้องทำร่วมกันทั้งหมด ส่วนเรื่องสัญญาว่าจ้างของโค้ชซิโก้ที่ทุกคนถามถึงนั้นก็อยู่ในวาระเร่งด่วนที่จะต้องทำให้เสร็จในเร็วที่สุดด้วย"

             ขณะที่ทาง"โค้ชซิโก้"เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กล่าวถึงเป้าหมายและการเตรียมสำหรับการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสาม ด้วยว่า "สมาคมเปิดโอกาสให้เน้นการพัฒนาทีมชาติไทยอย่างเน้นที่สุด โดยเฉพาะรอบ12ทีมสุดท้าย โดยที่สมาคมให้เวลาเตรียมทีมก่อนแข่ง7วัน  เล็งใช้เกมฟีฟ่าเดย์เดือน มิ.ย.59 จำนวน 2 เกมใช้เป็นเวทีถ้วยพระราชทาน คิงส์คัพ เล็งเตะ 3 และ 5 มิ.ย.59 หวังทาบใน11ชาติที่ผ่านเข้าสู่คัดบอลโลกรอบสุดท้ายฟาดแข้ง ส่วนซูซูกิคัพปลายปีเล็งใช้ชุดสองลงบู๊ เพราะต้องการแยกจากทีมชุดคัดบอลโลกอย่างชัดเจน ส่วนเรื่องสัญญาที่ยังไม่ได้ข้อสรุปนั้น เชื่อว่านายกไว้วางใจ สัญญาว่าจ้างคงไม่มีปัญหา เพราะผมเองก็ไม่ได้เรียกร้องอะไรมาก"

              นอกจากนี้ด้าน อดิศักดิ์ เบญจศิริวรรณ ยังได้กล่าวถึงการเตรียมทีมและเป้าหมายในการแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์โลกในช่วงเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ว่า “ครั้งนี้ก็เป็นสมัยที่ 5 แล้วที่ฟุตซอลทีมชาติไทยมีโอกาสได้เข้าร่วมการแข่งขันระดับโลก ซึ่งผมคิดว่าปีนี้เรามีโอกาสที่ดีถ้ามีการเตรียมทีมอย่างเหมาะสมและวางเป้าหมายไว้ว่าอย่างน้อยจะต้องผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายให้ได้”

             ทั้งนี้พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ยังได้มอบหมายให้พล.ต.ท.พิสัณห์ จุลดิลก , วิทยา เลาหกุล และ ธนศักดิ์ สุระประเสริฐ ดำเนินการวางแผนในการคัดเลือกและสรรหาผู้จัดการทีมรวมถึงหัวหน้าผู้ฝึกสอนสำหรับทีมชาติไทยชุดอายุไม่เกิน 16 ปี , ชุดอายุไม่เกิน 19 ปี , ชุดอายุไม่เกิน 22 ปี รวมทั้งทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย เพื่อเตรียมการสำหรับการแข่งขันชิงแชมป์ฟุตบอลเอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี ณ ประเทศอินเดีย กำหนดแข่งขัน 15 – 29 กันยายน 2559, การแข่งขันชิงแชมป์ฟุตบอลเอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ณ ประเทศบาห์เรน กำหนดแข่งขัน 13 – 30 ตุลาคม 2559, ฟุตบอลซีเกมส์ 2017 ณ ประเทศมาเลเซีย กำหนดแข่งขัน 19 – 31 สิงหาคม 2560 และ การแข่งขันฟุตบอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก กำหนดแข่งขัน 3 - 11 เมษายน 2560

              โดยการประชุมหารือในครั้งนี้ ทางด้าน พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนจับภาพการจับมือกันระหว่าง"โค้ชเฮง"วิทยา เลาหกุล ประธานพัฒนาเทคนิก และ "โค้ชซิโก้"เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือใหญ่ทีมชาติไทยหลังจากที่ก่อนหน้านี้มีข่าวสวนหมัดและลือกันว่าทั้งคู่ไม่กินเส้นกัน เพื่อสยบข่าวความที่ทั้งคู่เกาเหลากันอยู่อีกด้วย

             เป็นที่พิพากวิจารณ์อย่างมากกับประเด็นที่นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯเตรียมสร้างทีมในแบบฉบับ"ฟุตบอลไทยต้องสไตล์ไทยแลนด์เท่านั้น" ซึ่งดูเหมือนว่าหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะไม่เห็นด้วยกับแนวทางนี้ เพราะถือเป็นการไม่นำแบบอย่างของชาติลูกหนังที่เจริญแล้วมาเป็นตัวอย่างในการปฎิบัติเป็นตัวอย่าง ซึ่งต้องรอดูกันว่าสไตล์ไทยแลนด์จะประสบความสำเร็จหรือไม่อย่างไร ที่มา