จากการผ่านเข้ารอบ 12 ทีมสุดท้าย ของทีมชาติไทย ในศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ภายใต้การกุมบังเหียนของ "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ได้เป็นผลสำเร็จ ล่าสุด "บิ๊กเจี๊ยบ" พล.ต.ท.พิสัณฑ์ จุลดิลก เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้ออกมาบอกว่า

          "ในวันที่ 31 มี.ค.นี้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย เตรียมประชุมด่วนในการผ่านเข้ารอบ 12 ทีมสุดท้ายของทีมชาติไทย โดยเตรียมเชิญ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าผู้ฝึกสอน, วิทยา เลาหกุล อุปนายกฝ่ายเทคนิค และ ศุภสิน ลีลาฤทธิ์ อุปนายกฝ่ายจัดการแข่งขัน เข้ามาหารือที่โรงแรม ดิ เอเมอรัล เวลา 10.00 น."

          "สาระสำคัญอยู่ที่การวางโปรแกรมลีกที่จะต้องเอื้อกับทีมชาติไทย หลังจากผ่านเข้ารอบ 12 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ ที่จะเล่นกัน 5 นัดในปีนี้ และต่อเนื่องด้วยการป้องกันแชมป์ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2016 ว่าจะออกมาในรูปแบบใด โดยที่มคงจะบอกไม่ได้ว่าโปรแกรมลีกในปีนี้ จะขยับไปปิดในปีหน้าหรือไม เพราะต้องให้นายกสมาคมฯ หารือกันเสียก่อน"

          เกี่ยวกับสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย เปิดรับสมัครบุคคล ผู้มีความรู้ ความสามารถทางด้านการบริหารจัดการทีมฟุตบอล และ ทีมฟุตซอล เพื่อคัดเลือกเป็นผู้จัดการทีมชาติไทยทุกรุ่นอายุ ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญในโครงการพัฒนาทีมชาติไทยก้าวไปสู่เป้าหมาย คือ ทีมชาติไทยชุดใดชุดหนึ่ง ต้องไปให้ถึงฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ภายใน 5 ปี เช่นเดียวกับที่ทีมฟุตซอลที่ทำได้นั้น
 

          เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้บอกว่า "เวลานี้เอกสารต่างๆในส่วนของผู้สมัครนั้น อยู่ที่นายกสมาคมฯเรียบร้อยแล้ว คาดว่าน่าจะมีการประชุมกับสภากรรมการว่าจะมีการเลือกใครมาทำหน้าที่ผู้จัดการทีมในแต่ละชุด ก่อนจะประกาศให้ทราบต่อไป"

           "อย่างไรก็ตามผมได้รับการเปิดเผยจากคุณธวัชชัย สัจจกุล ที่ลงสมัครในตำแหน่งผู้จัดการทีมชาติไทย ชุดเอเชียน เกมส์ ในปี 2018 แต่ผมจะตัดสินใจไม่ได้ เพราะเรื่องทุกอย่างอยู่ที่การประชุมสภากรรมการเท่านั้น"

          ส่วนเรื่องที่ 6 แข้งทีมชาติไทย ได้เข้ารายงานตัวพร้อมกับรับโอวาทจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา ประกอบด้วย "กัปตันอุ้ม" ธีราทร บุญมาทัน, "เมสซี่เจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์, นฤบดินทร์ วีรวัฒน์โนดม, ธนบูรณ์ เกษารัตน์, ธนา ชะนะบุตร และอาทิตย์ ดาวสว่าง ซึ่ง "บิ๊กเจี๊ยบ" ได้ออกมาเผยถึงหลักเกณฑ์ในการประดับยศว่า

          "ตามหลักของตำรวจแล้วสำหรับนักกีฬาที่จบปริญญาตรี จะให้ประดับยศนายร้อย ส่วนใครที่ยังไม่จบจะอยู่ในชั้นประทวน ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับนักเตะคนนั้นๆในการสร้างผลงานให้กับทีมชาติไทย"