ฟุตบอลกระชับมิตร
วันอาทิตย์ ที่ 27 มี.ค. 59
ไทย 0 - 1 เกาหลีใต้

         เมื่อวันอาทิตย์ที่ 27 มี.ค. 59 ที่ผ่านมา ณ สนามศุภชลาศัย เป็นเกมการแข่งขันฟุตบอลอุ่นเครื่องนัดพิเศษ ระหว่างทีมชาติไทย ที่เพิ่งสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการผ่านเข้าสู่รอบ 12 ทีมสุดท้าย ในศึกฟุตบอลโลก โซนเอเชีย ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 14 ปี เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของทีมชาติเกาหลีใต้ ยอดทีมชั้นนำของเอเชีย ที่มาแบบทัพใหญ่เต็มสูบ โดยมีผู้เล่นจากลีกยุโรปติดทีมชุดนี้หลายราย ซึ่งถือเป็นแมตช์อุ่นเครื่องตามปฏิทินฟีฟ่า เดย์

         เกมดังกล่าวได้รับความสนใจจากแฟนฟุตบอลชาวไทยเป็นอย่างมาก มีแฟนบอลเดินทางฝ่าสภาพอากาศทั้งร้อนและฝนมาเตรียมตัวชม และเข้าร่วมบูธกิจกรรมต่างๆ ของผู้สนับสนุนตั้งแต่เวลา 15.00 น. ซึ่งกำหนดเวลาเปิดประตูกว่า 1 ชั่วโมง ก่อนที่จะทยอยกันเข้าสู่สนามจนเกือบเต็มความจุ ขณะเดียวกัน ได้มีการติดตั้งจอโปรเจกเตอร์ยักษ์รองรับแฟนบอลที่ไม่มีบัตรเข้าชมอีกด้วย
 
                                          
             
           ส่วนผู้ตัดสินอิมพอร์ตจากฮ่องกง อันประกอบด้วย ผู้ตัดสิน ชู ก็อก, ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 1 เฉิง ออย โช, ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 2 ชาน ชิง คิม ไมค์, ผู้ตัดสินที่ 4 ราห์มาน มิซาเนมร์ (บังกลาเทศ), ผู้ควบคุมการแข่งขัน เบนจามิน ทัน (สิงคโปร์) และผู้ประเมินผู้ตัดสิน ภิรมย์ อั๋นประเสริฐ
 
 

ไทยส่ง 3 ประสาน "อดิศักดิ์-เกริกฤทธิ์-มงคล"
 

     
          สำหรับเกมนี้ "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือทีมชาติไทย ได้เปลี่ยนแปลงผู้เล่นจากนัดที่บุกไปเสมอ อิรัก 2-2 ในเกมฟุตบอลโลก เมื่อวันที่ 24 มี.ค. ที่ผ่านมา หลายตำแหน่ง โดย 11 ผู้เล่นตัวจริงของทีมชาติไทยในระบบ 4-3-3 ประกอบด้วย ผู้รักษาประตู สินทวีชัย หทัยรัตนกุล, แบ็กซ้าย ธีราทร บุญมาทัน, แบ็กขวา นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม, เซนเตอร์ฮาล์ฟ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ จับคู่กับ ประทุม ชูทอง, กองกลาง สรรวัชญ์ เดชมิตร, จักรพันธ์ แก้วพรม และ ประกิต ดีพร้อม ส่วน 3 ประสานแดนหน้า เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์, มงคล ทศไกร และ อดิศักดิ์ ไกรษร เป็นหัวหอกตัวเป้า
 

          
           ขณะที่เกาหลีใต้นำทัพโดย คี ซุง-ยอง มิดฟิลด์จากสวอนซี ทีมดังในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ พร้อมด้วย คิม ชาง-ซู แนวรับจากฮอฟเฟ่นไฮม์ ทีมในบุนเดสลีกา เยอรมัน, พัค จู โฮ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และ ซุค ฮยุน จุน ดาวยิงจากสโมสรเอฟซี ปอร์โต้ ในลีกโปรตุเกส
  

                                               
 แค่ 4 นาทีหอกปอร์โต้กดโสมนำเร็ว 1-0
 

             
          เปิดฉากเริ่มเกมได้เพียงแค่ 4 นาทีเท่านั้น กองเชียร์ไทยก็ต้องเงียบกริบ เมื่อเกาหลีใต้ตัดบอลได้จากกลางสนาม ก่อนที่บอลจะมาถึง ซุค ฮยุน จุน ดาวยิงจากเอฟซี ปอร์โต้ พลิกบอลเข้าเท้าขวา ก่อนจะตะบันเต็มแรง บอลพุ่งเป็นจรวดแสกหน้า สินทวีชัย หทัยรัตนกุล เช็ดคานเข้าไปอย่างสวยงาม เกาหลีใต้นำ 1-0
 

             
          ไทยได้โอกาสลุ้นครั้งแรก น.7 อดิศักดิ์ ไกรษร แต่งบอลเข้าเท้าขวา แต่จังหวะยิงไม่ตรงกรอบ น.20 ไทยได้ลุ้นต่อเนื่อง อดิศักดิ์ ไกรษร กระชากสุดเส้นด้านขวา ก่อนจะตัดมาที่เสาสอง เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ วอลเลย์ด้วยเท้าซ้ายหลุดกรอบออกไปอีกครั้ง
                              
 

           
          น.32 เกาหลีใต้ได้ลุ้นประตูเพิ่ม นัม แต ฮี เปิดบอลจากหน้ากรอบเขตโทษด้านซ้าย ครอสมาที่เสาสองให้ อี ยอง ฮอป ทิ้งตัวพุ่งโหม่งคนเดียวเหน่งๆ แต่ไปตรงตัวสินทวีชัยรับไว้ได้ ก่อนหมดครึ่งแรกนาทีเดียว ประกิต ดีพร้อม โดนทำฟาวล์ทางกราบซ้าย ไทยได้ลูกฟรีคิกเล่นเร็วด้วยการเปิดยาวมาหน้าประตู มงคล ทศไกร เทกตัวโหม่งไม่ถนัดหลุดเสาออกไป หมดครึ่งแรกเกาหลีใต้นำไทย 1-0

      
 ไทยเปลี่ยน 4 ราย "เมสซี่เจ,"ตังค์"ลงบู๊

 
         ครึ่งหลังทั้งสองทีมมีการเปลี่ยนตัวผู้เล่นหลายราย โดยเกาหลีใต้เปลี่ยนเอาควัก แต กวี ลงเล่นแทน ฮอง ยอง โฮ และ คิม คี ฮี ลงเล่นแทน คิม ยัง วาน ขณะที่ไทยเปลี่ยนผู้เล่น 4 ราย โดยถอด สรรวัชญ์ เดชมิตร, เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์, จักรพันธ์ แก้วพรม และ ประกิต ดีพร้อม ออกแล้วส่ง ชนาธิป สรงกระสินธ์, ปกเกล้า อนันต์, สารัช อยู่เย็น และ เจนรบ สำเภาดี ลงเล่นแทน

      
เกมช้างศึกดีขึ้นได้ลุ้นสูสี

 
         เปิดฉากครึ่งหลังมาได้นาทีเดียว ซุค ฮยุน จุน ล้มตัวยิงหน้ากรอบเขตโทษด้านซ้าย บอลหลุดเสาสองออกไปอย่างน่าเสียดาย  น.55 ไทยได้ลุ้นบ้างจากจังหวะที่ ประทุม ชูทอง ตัดบอลได้ก่อนจ่ายต่อให้เพื่อน บอลมาถึง ปกเกล้า อนันต์ สับไกยิงระยะ 25 หลา เฉี่ยวเสาสองออกไปแบบได้ลุ้น นาทีถัดมาไทยได้ลุ้นต่อเนื่อง ธีราทร บุญมาทัน เปิดบอลจากซ้ายมาที่กลางประตู กองหลังเกาหลีใต้โหม่งสกัดไม่ขาดมาเข้าทาง ปกเกล้า อนันต์ ยิงสวนทันทีแฉลบกองหลังเป็นลูกเตะมุม
  

         และจากลูกเตะมุม ธีราทร บุญมาทัน เปิดมาบริเวณจุดโทษ อดิศักดิ์ ไกรษร โหม่งแฉลบกองหลังบอลปลิ้นเกือบจะเข้าประตูแต่จังหวะสุดท้ายโดนตะครุบไว้ได้ เกมของไทยเริ่มดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และเริ่มบุกกดดันเกาหลีใต้ได้อย่างต่อเนื่อง ขณะที่เกาหลีใต้เน้นเกมรับและรอโต้กลับเล่นงาน โดยไทยมีการเปลี่ยนตัวผู้เล่นอีกรายส่ง พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา ลงเล่นแทน มงคล ทศไกร
 
  

                                              
จบเกมเกาหลีใต้เฉือนไทย 1-0

 
         น.65 เกาหลีใต้โต้กลับและเกือบได้เพิ่ม คี ซึง ยอง กระชากลุยเข้ากรอบเขตโทษด้านซ้ายแล้วซัดจังหวะแรกไปติดบล็อก สินทวีชัย หทัยรัตนกุล บอลกระดอนมาเข้าทาง ลี ยอง ฮอป วิ่งเข้ามาแปเน้นๆ ด้วยเท้าขวาบริเวณจุดโทษข้ามคานออกไป
   

 
         น.69 ไทยเกือบได้ประตูตีเสมอ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ได้บอลหน้ากรอบเขตโทษ ง้างเท้าหลอกว่าจะสับไกยิงก่อนไหลต่อให้ สารัช อยู่เย็น พลิกตัวยิงด้วยเท้าซ้ายไปติดเซฟผู้รักษาประตูอย่างน่าเสียดาย
  

 
         น.70 ทีมชาติไทยเปลี่ยนตัวผู้เล่นส่ง นูรูล ศรียานเก็ม ลงเล่นแทน ธีราทร บุญมาทัน ท้ายเกมน.85 ชนาธิป สรงกระสินธ์ จ่ายบอลยัดเข้ากลางให้ นูรูล ศรียานเก็ม สับไกยิงนอกกรอบเขตโทษก็ยังไม่ตรงกรอบ จากนั้นไม่มีประตูเพิ่มจบเกมเกาหลีใต้บุกมาเอาชนะไทยไปได้ 1-0
 

 
 คะแนนความสามารถของนักเตะทั้งสองทีม

 
         ไทย : สินทวีชัย หทัยรัตนกุล 6.5, ธีราทร บุญมาทัน 7 (นูรูล ศรียานเก็ม 5.5), นฤบดินทร์ วีรวัฒน์โนดม 6.5,ธนบูรณ์ เกษารัตน์ 7,ประทุม ชูทอง 7,สรรวัชร์ เดชมิตร 5 (ปกเกล้า อนันต์ 7), จักรพันธ์ แก้วพรม 5 (ชนาธิป สรงกระสินธ์ 7), ประกิต ดีพร้อม 5(สารัช อยู่เย็น 7), เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ 5 (เจนรบ สำเภาดี 6 ), มงคล ทศไกร 5.5 (พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา 6), อดิศักดิ์ ไกรษร 6.5

 
         เกาหลีใต้ : คิม ซึง ยู 7, คิม ชาง ซู 7, ปาร์ค จู โฮ 7, จุง วู ยัง 7(ฮาน คุก ยัง 6.5), ซุค ฮยุน จุน 7, นาม แต ฮี 7, ฮอง ยอง โฮ 7 (ควัก แต่ วี 6), คี ซุง ยอง 7.5 (จู เซ ยอง 6), ลี ยอง ฮอป 7 (คิม คี ฮี 6), คิม ยัง วาน 7 (ลี ซุง ยอง 6), โก เมียง จิน 7