สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย มีมติยกเลิกสัญญาดูแลสิทธิประโยชน์ จากบ.สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) พร้อมเร่งหา เอเจนซี่ เข้ามาดูแลแทน แต่ไม่ได้มีการตัดขาดความร่วมมือ เนื่องจากมองว่าบริษัทส่งเสริมด้านฟุตบอลมาตลอด ขณะที่เรื่องของ สนธิสัญญาต่างๆทุกอย่างกับทางสมาคมฯ ให้มีผลเพียงแค่ ปีเดียวเท่านั้น นอกจากนี้ "บิ๊กอ๊อด" พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง พร้อมขึ้นนั่งประธานพีแอลทีแทน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ที่ลาออกไปก่อนหน้านี้ ขณะที่ นายอดิศัย วารินทร์ศิริกุล ประธานกรรมการบริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคต จำกัด (มหาชน) ออกมาเผยว่าการที่สมาคมฯ บอกว่า สยามสปอร์ต ทำสัญญาไม่เป็นธรรมนั้นไม่เป็นความจริงแน่นอน พร้อมเปิดให้สื่อมวลชนได้ซักถามในวันที่ 8 มี.ค.นี้ ที่สตูดิโอสยามสปอร์ต ตั้งแต่เวลา 14.00 น.

               การประชุมของ สมาคมกีฬาฟุตบอล แห่งประเทศไทย  ครั้งที่ 2  ประจำปี 2559 ที่ห้องประชุม โรงแรม ดิเอ็มเมอรัล  รัชดา    นำโดยทางด้าน  "บิ๊กอ๊อด"พล.ต.อ. สมยศ  พุ่มพันธ์ม่วง  นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย  พร้อมด้วย สภากรรมการ  ซึ่ง หลังจากที่ มีการประชุม กันร่วม 4  ชั่วโมง  ทางด้าน พล.ต.อ. สมยศ  พุ่มพันธ์ม่วง ได้ ออกมา เผย ถึง มติ และ วาระการประชุมดังนี

              1. ยกเลิกสัญญามอบสิทธิการบริหารสิทธิประโยชน์ให้กับบริษัทสยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) เนื่องจากพิจารณาแล้ว เห็นว่าเป็นสัญญาที่ไม่เป็นธรรมกับสมาคม เป็นลักษณะของสัญญาผูกขาดแต่เพียงผู้เดียว ไม่มีการกำหนดค่าตอบแทนให้แก่สมาคม ไม่มีการกำหนดวงเงิน ระยะเวลาการส่งเงิน ให้แก่สมาคม ส่งผลให้สมาคมไม่มีอิสระในการบริหารงาน และไม่สามารถวางแผนงบประมาณดำเนินงานได้ด้วยตนเอง การยกเลิกสัญญาครั้งนี้ ไม่ได้มีเจตนาที่จะตัดขาดความร่วมมือกับบริษัทฯ ซึ่งให้การสนับสนุน และส่งเสริมกีฬาฟุตบอลมาโดยตลอด แต่มีวัตถุประสงค์เพื่อการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง แก้ไขสัญญาให้มีความเป็นธรรม และกำหนดหน้าที่ของคู่สัญญา อย่างชัดเจน และสมาคม พร้อมที่จะเปิดรับข้อเสนอของบริษัทฯ ที่จะเข้ามาร่วมงานกับสมาคม อย่างเท่าเทียมกับทุกๆ บริษัทต่อไป ซึ่งเรื่องนี้ผู้แทนของสมาคมได้เจรจากับบริษัทฯ มาโดยตลอด แต่เห็นว่าวิธีการนี้น่าจะนำไปสู่การปรับปรุงได้ดีที่สุด และเร็วที่สุด

               2.ให้สัญญาทุกฉบับที่มีอายุสัญญาผูกพันเกินกว่าวันที่ 31 ธันวาคม 2559 มีวาระสิ้นสุดสัญญาในวันที่ 31 ธันวาคม 2559 เพื่อนำสู่การปรับปรุง เปลี่ยนแปลง แก้ไขสัญญาให้มีความเป็นธรรม และเป็นประโยชน์แก่คู่สัญญา ทั้งสองฝ่ายสูงสุด ทั้งนี้เนื่องจาก จนถึงขณะนี้ สภากรรมการ ยังไม่ได้รับสัญญาต้นฉบับจากผู้บริหารเดิม มีเพียงสัญญาคู่ฉบับของคู่สัญญาเท่านั้น จึงไม่อาจจะพิจารณาได้ว่า สัญญาธุรกรรม นิติกรรมที่คู่สัญญานำมาแสดง ถูกต้องตรงกันกับสัญญาต้นฉบับหรือไม่ แต่สมาคมจะพิจารณาให้ความเป็นธรรมแก่คู่สัญญาทุกราย และยินดีที่จะร่วมมือกับคู่สัญญาเดิมเพื่อพัฒนาวงการฟุตบอลไทยตามเจตนารมณ์ของท่านต่อไป

                3. กำหนดหลักการบริหารสิทธิประโยชน์ของสมาคมใหม่ จะไม่มีการมอบสิทธิให้ผู้ใดรับสิทธิไปบริหารแทนสมาคมอีกต่อไป แต่จะใช้วิธีจัดจ้าง เอเจนซี่ มาทำหน้าที่จัดหาสิทธิประโยชน์ ตามนโยบายและแนวทางที่สมาคมกำหนดให้ ทั้งนี้ นายกสมาคม จะแต่งตั้งคณะทำงานพิจารณาคัดเลือก เอเจนซี่ ด้วยการประกาศเชิญชวนให้ผู้สนใจเสนอแผนงาน เงื่อนไข เข้าสู่กระบวนการคัดเลือกตามหลักธรรมาภิบาล และคำนึงถึงผลตอบแทนที่สมาคม และสมาชิกจะได้รับเป็นสำคัญ

               4. ห้ามผู้จัดการแข่งขันฟุตบอล และ สโมสรฟุตบอลที่เป็นสมาชิกของสมาคม โฆษณาประชาสัมพันธ์ อันเป็นการส่งเสริม สนับสนุนให้มีการเล่นการพนันอย่างเด็ดขาด เนื่องจากเป็นการกระทำที่ขัดต่อ พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ. 2478 นอกจากนี้ พล.ต.อ.สมยศ ยังได้กล่าวขอบคุณสโมสร และแฟนบอลทุกสโมสร ตลอดจนผู้ให้การสนับสนุนการจัดการแข่งขัน และสื่อมวลชน ที่ให้การสนับสนุนการแข่งขันฟุตบอลรายการไทยลีก และ ฟุตบอลรายการดิวิชั่น 1 ทำให้การแข่งขันนัดเปิดสนามได้รับความสำเร็จดีพอสมควร แม้ว่าจะมีเวลาเตรียมการเพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น และสมาคมจะช่วยสนับสนุนให้การแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพ มีความสนุกสนาน เข้มข้น มากไปกว่านี้ เพื่อยกระดับมาตรฐานฟุตบอลลีกอาชีพของประเทศไทย รวมไปถึงลีกภูมิภาค ดิวิชั่น2 ที่กำลังจะเปิดการแข่งขัน เร็วๆ นี้ ด้วย

                นอกจากนี้ พล.ต.อ. สมยศ  พุ่มพันธ์ม่วง  ยังได้ กล่าวถึง กรณีที่ พล.ต.อ.  จักรทิพย์  ชัยจินดา ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นประธานบ.พรีเมียร์ลีก(ไทยแลนด์) จำกัด นั้น  ทางด้าน พล.ต.อ. สมยศ  พุ่มพันธ์ม่วง ก็จะขึ้น รับตำแหน่งนี้แทนและ สำหรับ พล.ต.อ.  จักรทิพย์ ชัยจินดา ก็จะให้ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาของ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย

               ต่อเนื่องถึงการลาออกของ พล.อ.อดุลยเดช อินทะพงษ์ จากอุปนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เนื่องจากได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาเรื่องร้องทุกข์  ต้องรักษาความเป็นกลาง จึงได้ ลาออกจากการเป็น อุปนายกสมาคมกีฬาฟุตบอล

   
               ด้าน นายอดิศัย วารินทร์ศิริกุล ประธานกรรมการบริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคต จำกัด (มหาชน) ได้เผยถึงกรณีที่ทาง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง นายกสมาคมฟุตบอลฯได้ให้ข่าวว่า สมาคมฟุตบอลจะยกเลิกสัญญาบริหารสิทธิประโยชน์กับบริษัทสยามสปอร์ตฯ โดยอ้างว่าเป็นสัญญาที่ไม่เป็นธรรมกับสมาคม และกล่าวว่าเป็นสัญญาผูกขาดแต่เพียงผู้เดียว ไม่มีการกำหนดค่าตอบแทนให้แก่สมาคมนั้น ทางสยามสปอร์ตฯขอยืนยันว่าในข้อกล่าวหาเรื่องเราทำสัญญาไม่เป็นธรรมกับสมาคมนั้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด

                โดยหลังจากที่ทางผู้บริหารสมาคมฟุตบอลชุดใหม่ของ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วงเข้ามาบริหารงาน ทางสยามสปอร์ตฯได้ส่งตัวแทนเข้าไปร่วมประชุมชี้แจงรายละเอียดการบริหารงานสิทธิประโยชน์กับสมาคม ทั้งรายรับ รายจ่าย พร้อมเอกสารสัญญาที่ทำไว้กับสมาคมฟุตบอลอย่างชัดเจนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

              ในส่วนของการที่สยามสปอร์ตฯได้เข้ามาทำสัญญาบริหารสิทธิประโยชน์ของสมาคมฟุตบอลนั้น ทางนายอดิศัยได้ชี้แจงทีมาที่ไปมา เราเริ่มเข้ามาช่วยทำในส่วนนี้ตั้งแต่เมื่อ 20 กว่าปีที่ผ่านมา โดยทางสมาคมฟุตบอลชุดเดิมได้เข้ามาขอร้องให้ทางสยามสปอร์ตฯเข้าไปช่วยเหลือ เพราะเห็นว่าในช่วงนั้นเป็นช่วงที่ฟุตบอลเมืองไทยอยู่ในช่วงล้มลุกคลุกคลาน ไม่ค่อยมีแฟนบอลเข้าไปดูในสนาม การบริหารงานขาดเงินทุนหมุนเวียนอย่างมาก และผลงานของทีมชาติก็พลอยย่ำแย่ไปด้วย แทบไม่มีสปอนเซอร์เข้ามาเหลียวแลเลย ทั้งในทีมชาติและในสโมสร ทีมใหญ่ๆในอดีตหลายทีมก็พากันยุบทีมไปไม่น้อย แม้กระทั่งนักฟุตบอลเองก็ไม่สามารถเล่นฟุตบอลหาเลี้ยงชีพเองได้ ค่าจ้างโดยเฉลี่ยทั่วไปก็ตกคนละไม่ถึงหลักหมื่น หรือหมื่นนิดๆด้วยซ้ำ

             ทางผู้บริหารสมาคมฟุตบอลเดิมได้บอกว่าสยามสปอร์ตฯมีศักยภาพในด้านสื่อที่มีทั้งหนังสือพิมพ์ และนิตยสารหลายเล่มในเครือ มีช่องโทรทัศน์และรายการทีวั มีเว็บไซด์ วิทยุ และพันธมิตรอื่นๆ ที่จะช่วยในการประชาสัมพันธ์สร้างกระแส รวมทั้งมีประสบการณ์ในด้านการจัดการแข่งขันมาแล้ว จึงขอให้มาช่วยกันพัฒนาฟุตบอลให้ตื่นจากการหลับไหลตกต่ำขึ้นมาให้ได้ ทางผู้บริหารสยามสปอร์ตฯในช่วงแรกก็ลังเลเนื่องจากทางสมาคมฟุตบอลได้ในทางเราต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายจำนวนไม่น้อย ต้องยอมขาดทุนเห็นๆ แต่ในที่สุดเราก็ต้องยอมรับเข้าไปช่วยสมาคมฟุตบอลในจุดนี้ เนื่องจากเราทำธุรกิจที่ต้องการให้วงการกีฬาเจริญก้าวหน้า ให้คนรักคนชอบเข้ามาชมกีฬากันเยอะๆ ทั้งๆที่เราเองเสนอข่าวฟุตบอลต่างประเทศ และข่าวมวย เป็นที่นิยม มีกำไรจากส่วนนี้จำนวนมากอยู่แล้ว จากปีแรกๆของการเข้ามาบริหารสิทธิประโยชน์ ดูแลการจัดการแข่งขัน เราล้มลุกคลุกคลานแบกค่าใช้จ่ายจำนวนมากมาโดยตลอด เพิ่งมาแค่ช่วง 2-3 ปีนี้เองที่เกิดกระแสฟุตบอลไทยคึกคัก สร้างมูลค่าให้กับวงการฟุตบอลอย่างมหาศาล แฟนบอลแห่เข้าชมจำนวนมาก ก่อให้เกิดรายได้ในทุกส่วน ลิขสิทธิ์จากการบริหารสิทธิประโยชน์ ที่มีผู้ซื้อสิทธิ์การถ่ายทอดสดมีมูลค่าสูงขึ้นทุกปี และมีการนำไปแบ่งจ่ายให้กับแต่ละสโมสรจำนวนมากอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในทุกลีกตามที่เป็นข่าว

             ทางสยามสปอร์ตฯจะนัดแถลงข่าวชี้แจงรายละเอียดในเรื่องนี้ และเปิดโอกาสในสื่อมวลชนได้ซักถามอย่าง ในวันอังคารที่ 8 มี.ค. 2559 นี้ ที่สตูดิโอสยามสปอร์ต รามอินทรา 40 เวลา 14.00 น.เป็นต้นไป ที่มา