หลังจากที่ทาง "โค้ชเฮง" วิทยา เลาหกุล ได้รับมอบหมายจากทางบอร์ดบริหารสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ให้ดำรงตำแหน่งประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิค และเป็นคนเขียนโครงการโร้ดแมปสำหรับการพัฒนาโครงสร้างเยาวชนให้กับทีมชาติไทยนั้น
ล่าสุดทาง "โค้ชเฮง" ได้ออกมาเผยแนวทางในการปรับโครงสร้างของเยาวชนเพื่อสานต่อทีมชาติไทยในอนาคตว่า รอโอกาสที่จะทำงานตรงจุดนี้มานานแล้ว และมีความมุ่งมั่นตั้งใจอย่างมากที่จะริเริ่มโครงสร้างของการพัฒนาเยาวชนอย่างยั่งยืน โดยตอนนี้จะเริ่มต้นจากลีกเยาวชนอายุไม่เกิน 13 ปี เพื่อคัดเลือกหานักเตะที่มีความสามารถเตรียมตัวนำมาใช้งานต่อไป
"ผมได้วางแนวทางที่จัดให้มีการแข่งขันลีกอายุไม่เกิน 13 ปี ซึ่งจะพยายามทำให้เกิดขึ้นในปีนี้ โดยวางแผนการเฟ้นหาผู้เล่นจากลีกที่จะต้องให้ทางสโมสรเป็นผู้ที่ส่งเข้าร่วมการแข่งขันเท่านั้น ไม่ใช่โรงเรียนต่างๆ ส่งมาแข่ง จากนั้นเราจะคัดเอาจากตรงจุดนี้ส่วนหนึ่งและสรรหานักเตะที่มีพรสวรรค์อีกส่วนหนึ่งมาผสมกันเป็นทีมชาติไทยชุดยู-13 เพื่อต่อยอดในรุ่นต่อไป เพราะเรามีเป้าหมายคือการพาทีมเยาวชน 17 ปีไปเล่นชิงแชมป์โลกให้ได้ เพื่อเป็นรากฐานให้กับทีมชาติไทยชุดต่อไปในอนาคต"
ขณะเดียวกันทาง "โค้ชเฮง" ประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิคของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ยังเผยเพิ่มเติมอีกว่า ในช่วงระยะเวลา 4 ปีตนเองจะพยายามคัดสรรหานักเตะในรุ่นอายุ 13 ปี ที่เรียกว่าฝีเท้าระดับท็อปคลาสเกรดเอของเมืองไทยให้ได้อย่างน้อย 15 คน เพื่อที่จะนำเด็กเหล่านี้มาถ่ายทอดความรู้และฝึกฝนให้เป็นนักเตะที่มีความสามารถและพรสวรรค์สูง สำหรับการเป็นแกนหลักของทีมชาติไทยในรุ่น 17 ปีที่เราจะทำตามเป้าหมายคือการไปชิงแชมป์โลกให้ได้
นอกจากนี้ ทางทางประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิคของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ยังได้กล่าวถึงตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมเยาวชนทีมชาติไทยชุดอายุไม่เกิน 16 ปีและ 19 ปี ที่ทัพช้างศึกสามารถผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายชิงแชมป์เอเชียในปีนี้ได้ว่า หลังจากที่ตอนแรกที่มีการพูดคุยต้องการหากุนซือที่สามารถทำงานเต็มเวลามารับงาน แต่หลังจากที่มีการพูดคุยกับผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องก็มีความเห็นว่า ควรจะให้โอกาสกับหัวหน้าผู้ฝึกสอนและทีมงานชุดเดิมทำงานรับหน้าที่ต่อไปก่อน เพื่อความต่อเนื่องของการทำงาน
ทั้งนี้ ทางชุดเยาวชนอายุไม่เกิน 16 ปีทีมชาติไทยมีทาง อ.พยงค์ ขุนเณร เป็นเฮดโค้ช ซึ่งตอนนี้คุมทัพให้กับทีมเชียงใหม่ เอฟซี ทีมในดิวิชั่น 1 มีคิวจะทำการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รอบสุดท้าย รุ่นยู-16 ที่ประเทศอินเดีย แข่งขันระหว่างวันที่ 15 กันยายน-2 ตุลาคม 2559 ขณะที่ทีมเยาวชนอายุไม่เกิน 19 ปีก็มีคิวต้องลงทำการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รอบสุดท้าย รุ่นยู-19 ที่ประเทศ บาห์เรน แข่งขันระหว่างวันที่ 13-30 ตุลาคม 2559 โดยมีทาง "โค้ชจุ่น" อนุรักษ์ ศรีเกิด ที่ปัจจุบันคุมทัพ "บีจี" บางกอกกล๊าส เอฟซี อยู่ ซึ่งกุนซือทั้งสองรายต่างก็มีสัญญาอยู่ในสังกัดของทีมบางกอกกล๊าส เอฟซี
ด้าน "เสี่ยเหน่ง" ศุภสิน ลีลาฤทธิ์ รองประธานสโมสรบางกอกกล๊าส เอฟซี ในฐานะต้นสังกัดของสองกุนซือดังกล่าวก็ได้มีการเปิดเผยถึงการทำหน้าที่ของ "โค้ชจุ่น" และ "อ.พยงค์" ว่า ตรงจุดนี้ตนเองยังไม่ได้มีการพูดคุยอย่างเป็นทางการกับทางประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิค เพราะจากเท่าที่ทราบตอนแรกคือต้องการใช้โค้ชที่สามารถทำงานฟูลไทม์ แต่หากจะต้องให้สองกุนซือในสังกัดสานงานต่อก็ต้องมีการพูดคุยในรายละเอียดกันก่อน เนื่องจากทั้งสองกุนซือก็ยังมีภารกิจอยู่ทั้งคู่ ซึ่งได้บทสรุปเช่นไรจะแจ้งให้แฟนบอลทราบต่อไป