ความเคลื่อนไหวทีมชาติไทยชุดใหญ่ ที่จะต้องเตรียมความพร้อมสำหรับการลงสนามนัดสุดท้ายในรอบแบ่งกลุ่ม ที่เหลืออีกนัดในการไปเยือนทีมอิรัก ซึ่งจะต้องไปเตะที่กรุงเตหะราน ประเทศอิหร่านวันที่ 24 มี.ค.นั้น
ล่าสุดทาง " ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือทีมชาติไทย ออกมาเผยแนวทางการเลือกใช้ตัวนักเตะที่จะนำไปลงสนามในเกมดังกล่าวว่า กำลังหารือกับทีมงานกลุ่มสตาฟฟ์เพื่อตัดสินใจว่าจะใช้นักเตะเน้นชุดเดิมทั้งหมด หรือดันพวกชุดยู-23 ปี ที่เพิ่งเสร็จสิ้นภารกิจที่โดฮา กาตาร์ เป็นชุดผสมลงสนาม เนื่องจากรายการนี้ยังมีเรื่องผลเเรงกิ้งด้วย อีกทั้งยังไม่ชัวร์ว่าเราจะเข้ารอบเป็นที่ 1 หรือ 2 ของสาย

 
         "ตอนนี้เรื่องของการเรียกนักเตะ มาใช้งานในเกมดวลกับอิรัก ผมกำลังหารืออยู่กับทางทีมงานสตาฟฟ์  เพื่อร่วมกันตัดสินใจว่าเราจะใช้นักเตะชุดไหนแบบใดเวอร์ชั่นไหน ลงสนามในเกมดังกล่าว จะยึดชุดเดิมหรือไม่ หรือว่าเราจะดันนักเตะยู-23 ปีที่เพิ่งเสร็จสิ้นภารกิจ ซึ่งถือว่าฟอร์มดีจากชิงแชมป์เอเชียมาเล่นผสมกับชุดเดิม หรือ จะต้องหาเพิ่มเติมจากไทยลีกในช่วงเปิดฤดูกาล  หรือพวกที่ฟอร์มดีแต่เรายังไม่ได้เรียกพวกเขามาใช้งานก็ต้องให้โอกาส ซึ่งก่อนหน้ารายอย่าง จักรพันธ์ แก้วพรม ก็ถือว่าทำผลงานได้ดีในช่วงท้ายซีซั่นกับต้นสังกัดบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ"

 
         อย่างไรก็ตาม "ซิโก้" กุนซือใหญ่ของทีมชาติไทย ยังเผยอีกว่า ไม่ว่าทีมชาติไทยจะใช้ผู้เล่นชุดใดลงทำศึกแฟนบอลไม่ต้องห่วง เพราะตนเองและทีมงานรวมถึงนักเตะทุกคนเต็มที่แน่นอน เนื่องจากเป้าหมายคือการเข้ารอบ และหวังว่าเราจะเป็นแชมป์กลุ่ม ดังนั้นเราจะต้องพยายามที่จะเก็บชัยชนะเอาไว้ก่อน เพราะว่าอิรัก ยังเหลือเกมอีก 2 นัดหลังพบกับทีมไทยแล้ว 29 มี.ค. ก็จะปิดท้ายรับเวียดนามอีกดังนั้นเราจะไม่ทราบว่าผลนัดนั้นจะเป็นเช่นไร ดังนั้นเราก็จะต้องเต็มที่เอาไว้ก่อน อีกอย่างการแข่งขันเกมนี้ก็มีผลต่อแรงกิ้งของฟีฟ่าด้วย ดังนั้นทุกคนจะต้องพร้อมและใส่เต็มที่อย่างแน่นอน

 
         โดนตอนนี้เบื้องต้นก็ได้มีการประสานงานติดต่อเรื่องของโรงแรมที่พัก สนามฝึกซ้อม อาหารการกิน ผ่านทาง อาโบฟาเวิล โคดาบันเดห์ลู  อดีตหัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลชายหาดทีมชาติไทย ซึ่งเป็นชาวอิหร่านที่เป็นตัวแทนสมาคมฟุตบอลฯ ประสานเรื่องต่างๆ เอาไว้บ้างแล้ว  เพราะเราได้รับประสบการณ์ที่ดีจากยู-23 ที่กรุงโดฮา กาตาร์ มาแล้วในการเตรียมความพร้อมที่ดี รวมถึงการกินอาหารที่ถูกปาก ก็จะทำให้นักเตะไทยมีพลังในการวิ่งทำหน้าที่ในสนามได้ดี