หลังจากที่เสร็จศึกฟุตบอลอายุไม่เกิน 23 ปี ชิงแชมป์เอเชีย ที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ ซึ่งทีมชาติไทยตกรอบแรกแบบประทับใจ และจะต้องมีศึกใหญ่รออยู่อีก 2 รายการในปีนี้คือ ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย วันที่ 24 มี.ค. 59 และในช่วงปลายปี ศึกฟุตบอลเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ครั้งที่ 11 ที่เมียนมาร์กับฟิลิปปินส์เป็นเจ้าภาพ
ล่าสุดทาง "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทัพ "ช้างศึก" ทีมชาติไทย ได้มีการกล่าวเปิดเผยการเตรียมความพร้อมคร่าวๆ ถึงรายการแรกที่กำลังจะมาถึง คือ ศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย วันที่ 24 มี.ค. 59 ซึ่งจะต้องเดินทางไปเยือนอิรัก แข่งขันที่กรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน ว่าถึงตอนนี้ตนเองและทีมงานได้เริ่มที่จะทำงานอย่างคร่าวๆ บ้างแล้ว โดยจะมีการเรียกนักเตะมาเก็บตัวเพื่อร่วมเก็บตัวฝึกซ้อมล่วงหน้า 7 วัน เชื่อว่าจะเพียงพอ เนื่องจากเป็นทีมชุดใหญ่ที่มีรายชื่อนักเตะที่ร่วมเล่นกันมานานจนมีความเข้าใจระบบดีอยู่แล้ว หรือจะเป็นแข้งบางรายที่เราจะเรียกมาเสริมเพื่อให้คุ้นเคยหรือเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากชุดยู-23 ชิงแชมป์เอเชีย เชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหา
ส่วนเรื่องการเตรียมเดินทางไปเตะที่อิหร่าน ตอนนี้ก็ได้มีการประสานเรื่องของสนามที่จะใช้ฝึกซ้อม เรื่องของที่พัก และอาหารการกินเอาไว้บางส่วนแล้ว จึงไม่น่าจะเป็นห่วงอะไรมาก ขณะที่ในรอบ 12 ทีมสุดท้ายนั้น เรายังไม่ได้รับการแจ้งมาอย่างเป็นทางการว่าเข้ารอบแน่นอนแล้ว เพียงแต่มีข่าวออกมา ตนเองและทีมงานก็ได้มีการวางแผนเตรียมไว้บ้างแล้ว เพราะต้องเล่นแบบเหย้า-เยือน ยอมรับว่าเป็นงานที่หนักอีกครั้งของทีมชาติไทย แต่ตนเองและทุกคนก็พร้อมสู้และพิสูจน์ผลงานออกมาให้ดีที่สุด
อย่างไรก็ตามคงจะต้องรอดูเรื่องของผลการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย วันที่ 11 ก.พ. ด้วยว่าจะออกมาเช่นไร หลังจากนั้นจะมีทิศทางในการทำงานต่อเช่นไร แต่เพื่อความไม่ประมาท ตนเองและทีมงานก็ไม่หยุดนิ่ง ต้องมีการเตรียมความพร้อมเอาไว้ และคงทำหน้าที่คุมทีมชาติเพียงอย่างเดียว คงไม่เข้าไปเกี่ยวข้องในการเลือกตั้งแต่อย่างใด เรามีหน้าที่สร้างความสุขให้กับแฟนบอลก็ทำตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายเท่านั้น และทำให้ออกมาดีที่สุดก็พอแล้ว