เวลา 11.00 น. ของวันที่ 11 ม.ค. ที่ผ่านมา ณ โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอริน "อ.หรั่ง"ชาญวิทย์ ผลชีวิน หนึ่งในผู้สมัครนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้เชิญอุปนายกและสภากรรมการของทีมตัวเอง เดินทางไปหารือก่อนที่จะมีการไปสมัครชิงตำแหน่ง

 
         จากนั้นเวลา 16.30 น. ดร.ชาญวิทย์ ผลชีวิน อดีตรองอธิบดีกรมพลศึกษาและที่ปรึกษา ผจก.ทีมฟุตบอลหญิง ทีมชาติไทย ชุดสร้างประวัติศาสตร์ ผ่านเข้าไปเล่นใน ฟีฟ่า วีเมนส์ 2015 ที่ประเทศแคนาดา ได้เดินทางไปที่ชั้น 5 การกีฬาแห่งประเทศไทย เพื่อลงสมัครนายกสมาคมฟุตบอลฯ

 
         โดยทีมของ ดร.ชาญวิทย์ ผลชีวิน ทั้งหมดมีดังนี้ ดร.ภิญโญ นิโรจน์ อุปนายก, ดร.องอาจ ก่อสินค้า อุปนายก, นายธเนศ เครือรัตน์ อุปนายก, พลเอก จิรศักดิ์ บุตรเนียน อุปนายก, ดร.ธัญญา โพธิ์วิจิตร อุปนายก, นายรณฤทธิ์ ซื่อวาจา กรรมการกลาง, นายปิยะพงษ์ ผิวอ่อน กรรมการกลาง, ดร.กษม ชนะวงศ์ กรรมการกลาง, ดร.ภานุวัฒน์ สะสมทรัพย์ กรรมการกลาง

 
         พ.อ.วรวุฒิ ทองศรีงาม กรรมการกลาง, นายสมศักดิ์ ศิริธรรม กรรมการกลาง, นายสุชาติ อินทรลักษณ์ กรรมการกลาง, พ.อ.สมศักดิ์ ฤทธิรงค์วัฒนา กรรมการกลาง, นายอภิสิทธิ์ ชาลีกุล กรรมการกลาง, นายอติพล สุวรรณดี กรรมการกลาง, นายธีรพงษ์ วิวัฒน์วงศ์ภิญโญ กรรมการกลาง, นายสุนทร มีสุวรรณ กรรมการกลาง และนายอารักษ์ พรประภา กรรมการกลาง
 

     
เจ้าตัวขอสร้างความปรองดอง

 
         หลังเสร็จสิ้นการสมัคร ดร.ชาญวิทย์ ผลชีวิน ผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้บอกว่า "ผมทำงานอย่างหนักกับวงการฟุตบอลตลอดทั้งชีวิต และผมเองมองว่าการลงสมัครครั้งนี้ไม่เป็นนาทีสุดท้าย เพราะเกมฟุตบอลต้องเล่นกัน 90 นาที"

 
         "โดยที่มาครั้งนี้ผมภาคภูมิใจอย่างมาก ซึ่งตลอดระยะเวลา 30-40 ปี ผมอยู่กับวงการนี้มาตลอดและเห็นว่าหลังๆ ฟุตบอลกำลังไปได้ดีมากๆ แต่เริ่มมีความขัดแย้งมาก ทำให้ผมมีความกังวลเกี่ยวกับไทยพรีเมียร์ลีก, ดิวิชั่น 1 และลีกภูมิภาค เรากำลังเดินหน้าไปได้ไกลมาก"

 
         "ทำให้ผมคิดว่าอยากจะเข้ามาช่วยฟุตบอลไทย เนื่องจากยุทธศาสตร์ของฟุตบอลไทยจะคล้ายคลึงกับยุทธศาสตร์ของ ท่านประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่จะต้องทำอย่างไรให้มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ทำให้ 5-6 ปีที่ผ่านมา ที่มีแต่ความขัดแย้งเกิดขึ้นเราอยากจะสร้างความปรองดองให้กับคนสมาคมฟุตบอลฯ ที่มองว่าตัวเองอยากจะผ่านเชื่อมต่อในเรื่องนี้"

     
รับงาน 100 ปี ถือเป็นสิริมงคลก่อนลงสมัคร

 
         "อ.หรั่ง" ยังเปิดเผยอีกว่า "แน่นอนว่าทุกคนอยากจะเห็นสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลง และผมเองเพิ่งจะเข้าร่วมงานพิธีฉลอง 100 ปี ของทีมชาติไทยมาที่ จ.นครปฐม และได้มีโอกาสกราบบูชาพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งพระราชทานสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมกับได้รับมอบเสื้อ 100 ปี มาด้วย"

 
         "ผมจึงคิดว่าเพิ่งจะผ่าน 100 ปี ทีมชาติไทยมาหมาดๆ และก้าวเข้าสู่ปี 101 อีกทั้งในวันนี้เป็นวันที่ 11 เดือน 1 จึงคิดว่าเป็นเลขที่สวยเหมาะกับการมายื่นใบสมัคร รวมทั้งได้นำเสื้อครบรอบ 100 ปี มาในครั้งนี้ เพราะเป็นสิริมงคลกับชีวิตอีกด้วย"   

     
ขอพาไทยลุยบอลโลกในระยะยาว

 
         ดร.ชาญวิทย์ ผลชีวิน ยังได้บอกถึงนโยบายเกี่ยวกับทีมชาติไทยว่า "ช่วงที่ผมเป็นโค้ชทีมชาติไทย ผมพาทีมไปเล่นถ้วยเอเชียมาแล้ว รวมทั้งยังผ่าน ยู-17 ผ่านเข้าไปชิงแชมป์โลกมาได้ นอกจากนี้ทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทยยังผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลก 2015 ที่ประเทศแคนาดา มาหมาดๆ"

 
         "โดยผมคิดว่าแนวทางการทำงานของทีมชาติไทยในเวลานี้ กำลังเดินมาถูกทางในการผ่านเข้าไปเล่นในฟุตบอลโลก 2018 ฉะนั้นเราจำเป็นที่ต้องสร้างและส่งเสริมให้ถูกต้อง เพื่อการต่อยอดสู่การไปเล่นในฟุตบอลโลก ปี 2022 ด้วย"

     
ไม่ได้มาแทน "บังยี" แต่เป็นความคิดอยู่แล้ว

 
         มีผู้สื่อข่าวสำนักหนึ่งได้สอบถาม "อ.หรั่ง" ว่า ในรายชื่อของอุปนายกและสภากรรมการนั้น ค่อนข้างจะเหมือนกับชุดเดิมมีครั้งที่แล้ว และจะเป็นการเข้ามาแทน "บังยี" วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย คนเก่าหรือไม่ เจ้าตัวได้บอกว่า

 
          "การเข้ามาสมัครชิงตำแหน่งครั้งนี้ ผมมองว่ามันเหมือนกับจังหวะฟุตบอลที่สถานการณ์จะสร้างวีรบุรุษ เพราะอย่างที่เราเห็นกันว่าในช่วงที่ผ่านมา วงการฟุตบอลบ้านเรามีความขัดแย้งเกิดขึ้น จึงมีความคิดว่าอยากจะเข้ามาบริหารในสมาคมฟุตบอลฯ ให้ดีกว่าเดิม"

 
          "ขณะเดียวกัน การตัดสินใจเข้ามาในครั้งนี้ของตัวผม ไม่ได้มาแทนที่ของ คุณวรวีร์ มะกูดี ทั้งๆ ที่จริงแล้วผมยังคิดว่าทุกคนต้องการให้เกียรติเขามากกว่านี้ ซึ่งผมคิดว่าขนาด พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ก็ยังอยากช่วยวงการฟุตบอลไทย ทำให้ผมจึงนิ่งดูดายอีกต่อไปไม่ได้"

     
แย้มมีโอกาสชนะเพราะลูกศิษย์อยู่ทั่วไทย

 
         ผู้สื่อข่าวถามถึงความมั่นใจ ตัวของ ดร.ชาญวิทย์ ผลชีวิน ว่ามีโอกาสที่จะเป็นฝ่ายชนะหรือไม่ เจ้าตัวบอกว่า "ผมเดินทางไปเปิดอบรมโค้ชทั่วประเทศทั้ง 78 จังหวัด และมีลูกศิษย์อยู่ทุกภูมิภาค นอกจากนี้พวกเขายังสนับสนุนให้ผมลงเลือกตั้งในครั้งนี้อีกด้วย"

 
          "จากการที่ผมไม่เคยให้ร้ายใครยามที่ไปเปิดอบรมโค้ชทุกจังหวัด จึงอยากจะขอร้องให้พิจารณาในตัวผม ไม่อยากให้ใครเลือกข้างฝั่งใดฝั่งหนึ่ง เพราะอยากจะให้ปรองดอง เดินหน้าไปด้วยกัน ถ้าได้เป็นนายกสมาคมฟุตบอลฯ ผมมั่นใจว่า 4 ปีข้างหน้า จะมีความสง่างามเกิดขึ้นอย่างแน่นอน"

      
ไปที่ ส.บอลฯ ลงสมัครอย่างถูกต้อง

 
          และหลังจากที่ "อ.หรั่ง" ดร.ชาญวิทย์ ผลชีวิน ผู้ท้าชิงตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้ยื่นเอกสารเพื่อลงสมัครอย่างเป็นการ ที่ชั้น 15 การกีฬาแห่งประเทศไทย หัวหมาก ดร.ชาญวิทย์ ผลชีวิน และอุปนายก นำโดย ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน, ธัญญา โพธิ์วิจิตร ได้เดินทางมายัง สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เพื่อยื่นเอกสารการสมัครลงเลือกตั้ง ฉบับที่สองส่งให้สมาคมฟุตบอลฯ โดยมี "ผู้การหลอ" พันเอก (พิเศษ) วรวุฒิ ทองศรีงาม เลขาธิการสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย และ "ทนายโบ้" นรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ ประธานฝ่ายกฎหมายสมาคมฟุตบอลฯ เป็นตัวแทนรับ

 
          โดยหลังจากที่ "ทนายโบ้" นรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ ประธานฝ่ายกฎหมายสมาคมฟุตบอลฯ ได้ออกมาเปิดเผยถึงการรับหนังสือในครั้งนี้ว่า "แม้ว่าทางคณะกรรมการกลางจะเป็นฝ่ายที่เปิดรับสมัครการลงสมัครนายกสมาคมฟุตบอลฯ ในครั้งนี้ แต่ทาง อ.หรั่ง เองก็ยังคงยึดหลักการ และขนบธรรมเนียนอย่างที่เคยผ่านมา จึงเดินทางมายื่นหนังสือฉบับที่สองกับสมาคมฟุตบอลฯ ซึ่งก็เป็นการป้องกันข้อครหาหากว่าเกิดปัญหาอะไรขึ้น ซึ่งผมในนามของสมาคมก็ต้องขอขอบคุณทาง อ.ชาญวิทย์ ที่เดินทางมายื่นเอกสารการสมัครกับเราและได้รับหนังสือการยื่นเรื่องเรียบร้อยแล้ว"
 

      
โปรไฟล์เพื่อฟุตบอลอย่างแท้จริง

 
         ส่วนประวัติของ "อ.หรั่ง" ดร.ชาญวิทย์ ผลชีวิน เคยเป็นนักฟุตบอลที่เล่นให้กับสโมสรราชประชา ก่อนที่จะติดทีมชาติไทย และได้เข้าไปเป็นวิทยากรเอเอฟซี ที่สามารถอบรม เอไลเซนส์, บี ไลเซนส์ และซี ไลเซนส์ คนแรกของประเทศไทย ซึ่งมีลูกศิษย์ลูกหาหลายหมื่นคนในวงการฟุตบอล นอกจากนี้ ยังเป็นโค้ชนักเรียนไทยยุคแรก สร้างนักเตะมากมาย ทั้ง กัมปนาท อั้งสูงเนิน, ไพโรจน์ พ่วงจันทร์, ชัยยง ขำเปี่ยม

 
         ผลงานระดับสโมสร ทำทีม ธ.กสิกรไทย คว้าแชมป์ เอเชียน คลับ 2 ครั้ง นั่นคือ 1994, 1995 แอฟ-โร่เอเชีย ปี 1994 ที่ประเทศอียิปต์, ถ้วย ก (ไทยลีกเดิม) 5 สมัย, ควีนส์ คัพ 4 สมัย และ เอฟเอ คัพ 1 สมัย

 
         ในการทำงานระดับทีมชาติไทย เจ้าตัวพาทีม ยู-17 ผ่านเข้าไปเล่นใน ฟุตบอล 17 ปี ชิงแชมป์โลก ครั้งประวัติศาสตร์ ที่ประเทศอียิปต์ ในปี 1997 โดยมีนักเตะในทีมอย่าง สมชาย มากมูล, สุธี สุขสมกิจ, บำรุง บุญพรม, อรรถกร เส็งเพ็ง, ชมนันท์ สุขเกษม

 
         พร้อมกันนี้ ยังพาทีมคว้าแชมป์ซีเกมส์ ปี 2005 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ กระทั่งในปี 2015 ได้นั่งตำแหน่งที่ปรึกษา ผจก.ทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย ที่สร้างประวัติศาสตร์ผ่านเข้าไปเล่นในฟุตบอลหญิง ชิงแชมป์โลก ที่ประเทศแคนาดา ได้เป็นผลสำเร็จ