ชื่อนี้การันตีความแข็งแกร่ง ในการแข่งขันรอบคัดเลือกอยู่ในกลุ่ม ไอ ที่ประเทศมาเลเซียเป็นเจ้าภาพ มีเพื่อนร่วมสายประกอบด้วย มาเก๊า และสองทีมในย่านอาเซียนอย่าง เวียดนาม และมาเลเซีย ผลงานการลงสนามทั้ง 3 นัด ปรากฏว่าสามารถเอาชนะรวด ยิงไปทั้งหมด 10 ประตู ไม่เสียประตูเลย ทว่าการเจอกับทีมในย่านอาเซียนที่ถือว่ามาตรฐานเป็นรองทีมชาติไทยในชั่วโมงนี้ แม้จะไม่มากมายก็ตาม ทีมจากแดนปลาดิบไม่ใช่ว่าจะเอาชนะชนิดที่ต้อนกันขาด เพราะชนะทีมเวียดนาม ได้แค่ 2-0 และแค่เฉือน "เสือเหลือง" มาเลเซียหวุดหวิด 1-0 เท่านั้นเอง
ขณะที่ผลงานดาวยิงจากรอบคัดเลือกของทัพซามูไรนั้น ได้แก่ โนทซูดะ คาคูโตะ และ โชยะ นาคาจิมา จากชุดเอเชียนเกมส์ล่าสุด ที่ซัดไปคนละ 2 เม็ด ที่เหลือก็คนละประตู ได้แก่ เอ็นโดะ วาตารุ แข้งจากชุดเอเชียนเกมส์ ที่อินชอน, มูซาชิ ซูซูกิ ดาวยิงประจำทีมจากชุดเอเชียนส์เกม ที่อินชอน ซึ่งซัดคนเดียว 5 ประตู, โตโยคะวา ยูตะ, ยูตะ คูโบะ และ ทาคูมิ มินามิโนะ ส่วนอีกเม็ดเป็นทีมคู่แข่งยิงสมนาคุณให้
จากการประกาศรายชื่อของสมาคมฟุตบอลญี่ปุ่นออกมานั้น ก็ปรากฏว่ามีการเรียกนักเตะเพิ่มเติมจากรอบคัดเลือก 3 คน อายูมิ นิเอคาวะ ผู้รักษาประตูวัย 21 ปี จากทีมจูบิโล่ อิวาตะ เข้ามาแทนที่ โคสุเกะ นากามูระ นายทวารของอวิสป้า ฟุกุโอกะ ที่มีอาการบาดเจ็บจนต้องถอนตัวจากทีมชุดดังกล่าว รวมถึงกองกลางอย่าง เคนตะ มิซาโอะ, อายุ 19 ปี จากทีมโตเกียว แวร์ดี้ และกองหน้า ยูตะ โทโยคาว่า, อายุ 21 ปี จากคาชิม่า แอนท์เลอร์ส โดยที่ในรอบสุดท้ายทางโค้ช เทกุระ โมริ ของทีมปลาดิบ ประกาศจะปรับระบบการเล่นจาก 4-2-3-1 มาเป็น 4-4-2 เพื่อเน้นเกมรุกเป็นพิเศษด้วย
ทีมชาติซาอุดีอาระเบีย
ทีมจากดินแดนน้ำมัน ในการแข่งขันรอบคัดเลือกอยู่ในสาย ซี มีเพื่อนร่วมสายอีก 4 ทีมประกอบด้วย อิหร่าน, ปาเลสไตน์, อัฟกานิสถาน และเนปาล โดยที่ในสายนี้ต้องตัดผลการแข่งขันทีมบ๊วยของตารางออกไป ปรากฏว่าทีมซาอุดีอาระเบียสามารถคว้าแชมป์กลุ่มมาครองในการตัดสินเกมสุดท้ายกับอิหร่าน ซึ่งก็เอาชนะมาได้ 2-1 จากการยิงของ อับดุล รัชมาน อัล ชามดี้ และ อัลยามี่ ซาอิด อวาช
ส่วนผลการลงสนามในรอบคัดเลือกเกมอื่นๆ ของซาอุดีอาระเบีย เกมแรกเปิดสนามเฉือนปาเลสไตน์ ทีมที่จบอันดับที่ 3 ของกลุ่มนี้ด้วยสกอร์ 1-0 จากการยิงของกัปตันทีม อับดุลลา มาดู นัดต่อมาถือว่าน่าผิดหวัง เพราะเสมอกับทีมอันดับ 4 ของกลุ่ม อย่าง อัฟกานิสถาน 0-0 ก่อนที่จะมาแก้ตัวไล่ถล่มเนปาล ทีมบ๊วยของกลุ่มที่ไม่ได้นำมานับผลการแข่งขัน 6-0 จากการซัดของจาก อาเหม็ด อีสซา อัล นาทารี่ คนเดียว 2 ประตู ที่เหลือเป็น ซาเลช อัล เชรี่, มุสตาฟา อัล บาซาซ, อัลมูลซ่า รายาน ซิดคิวดี้, โมฮัมเหม็ด เอ็นไซ ดี้
ขณะเดียวกัน ทีมจากแดนน้ำมันมีผู้เล่นคนสำคัญอย่าง มุสตาฟา อัลลาสซาส มิดฟิลด์กัปตันทีมที่เล่นชุดใหญ่มาแล้วกว่า 9 นัด ซาลิช อัลเชอรี่ กองหน้าจากชุดเอเชียนเกมส์ล่าสุด ที่ยิงให้กับทีม ยู-23 มาแล้วกว่า 5 ประตู รวมถึงกำลังหลักในแนวรับอย่าง อับดุลลาห์ มาดู
ทว่าดูจากผลงานการคัดเลือกของซาอุดีอาระเบีย การเสมอกับอัฟกานิสถาน และชนะปาเลสไตน์เพียงเม็ดเดียว ก็ไม่น่าจะเหนือกว่าทีมชาติไทยของเรามากนัก น่าจะเป็นโอกาสที่ดีให้กบทีมช้างศึกของเราได้ลุ้นในนัดเปิดประเดิมสนามตามที่คาดหวังว่าจะเช็กบิลเก็บ 3 แต้มให้ได้ แต่อย่างไรก็ต้องเตือนบรรดาแข้งของทีมไทยว่า จากรอบคัดเลือกแข้งจากแดนน้ำมันเล่นหนักไม่น้อยเพราะ 4 เกมรับไปถึง 9 ใบเหลืองทีเดียว ต้องระวังด้วย ส่วนระบบการเล่นของทีมในรอบคัดเลือกจะเลือกใช้กองหลัง 3 คน ส่วนแดนกลางหรือแดนหน้าจะอยู่ทีมคู่แข่ง แต่ที่ผ่านมาจะเล่น 3-5-2 กับ 3-4-3 เป็นหลัก
ทีมชาติเกาหลีเหนือ
ทีมโสมแดงที่รอบคัดเลือกอยู่ร่วมสาย จี ซึ่งเป็นสายเดียวกับทีมชาติไทย 3 นัดที่ลงสนามมี 7 แต้มเท่ากับทีมไทย แต่ประตูได้เสียดีกว่า 2 เม็ด ทำให้เข้าป้ายเป็นแชมป์กลุ่ม โดยที่ผลงานรอบคัดเลือก ชนะทีมฟิลิปปินส์ 4-0 จากการยิงของ รี ยองจิน, โซ ยอง จิน, จาง ฮอค โชล, ปาร์ค ยอน ฮิล นัดต่อมาชนะกัมพูชา 4-1 จากการยิงของ จาง คุก โชล, โฮ เมือง โชล, คิม ชู ซอง, โจ ควาง
สำหรับทีมโสมแดง ข้อมูลที่น่าสนใจและถือว่าเป็นทีมที่อันตรายไม่น้อยเนื่องจากการสำรวจรายชื่อบรรดาแข้งจากรอบคัดเลือกของทีมเกาหลีเหนือนั้น มีแข้งจากชุดทีมคว้าเหรียญเงินเอเชียนเกมส์ ที่เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้เมื่อปีก่อนร่วมทัพด้วยกว่าค่อนทีม 8 รายด้วยกัน และน่าจะเป็นกำลังสำคัญในการแข่งขันคราวนี้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น 3 แข้งจากทีมชุดใหญ่อย่าง จาง คุก โชล กองหลังกัปตันทีมที่เล่นชุดใหญ่มาแล้ว 11 นัด ยิงไป 2 เม็ด คิม จู ซอง มิดฟิลด์ที่ผ่านการเล่นทีมชุดใหญ่มา 5 นัด และ โซ ควาง จิน มิดฟิลด์ที่เพิ่งจะติดทีมชาติเล่นมานัดเดียว ส่วนรายซึ่งดีกรีเหรียญเงินเอเชียนเกมส์ ที่เหลือก็จะมี จอง ควาน โซก (กองหลัง), โจ ควาง (กองหน้า), จู ซอง โชล, ยุน อิล ควาง (มิดฟิลด์) และ อัน แต ซอง (ประตู)
โปรแกรมการแข่งขัน รอบแรก ในสาย บี
วันที่ 13 ม.ค. 59
ญี่ปุ่น - เกาหลีเหนือ สนามแกรนด์ฮาหมัด เวลา 20.30 น. ตามเวลาประเทศไทย
ซาอุดีอาระเบีย - ไทย สนามแกรนด์ฮาหมัด เวลา 23.30 น. ตามเวลาประเทศไทย (ช่อง 7 ถ่ายทอดสด)
วันที่ 16 ม.ค. 59
ไทย - ญี่ปุ่น สนามแกรนด์ฮาหมัด เวลา 20.30 น. ตามเวลาประเทศไทย (ช่อง 7 ถ่ายทอดสด)
เกาหลีเหนือ - ซาอุดีอาระเบีย สนามแกรนด์ฮาหมัด เวลา 23.30 น. ตามเวลาประเทศไทย
วันที่ 19 ม.ค. 59
ซาอุดีอาระเบีย - ญี่ปุ่น สนามซูฮาอิม บิน ฮาหมัด เวลา 20.30 น. ตามเวลาประเทศไทย
เกาหลีเหนือ - ไทย สนามแกรนด์ฮาหมัด เวลา 20.30 น. ตามเวลาประเทศไทย (ช่อง 7 ถ่ายทอดสด)