ติดตามข่าวสารสโมสรฟุตบอลอัสสัมชัญ ยูไนเต็ด และทีมโรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี รวมทั้งข่าวฟุตบอลไทย ได้ที่เว็ปไซต์ www.assumtionuniter.com

ปราสาททุบกิเลน 3-1 ซิวแชมป์ช้าง เอฟเอ คัพ
6 26 ธ.ค. 58 21:21:50 น.




เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด 1 - 3 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

 
 
         ฟุตบอลช้าง เอฟเอคัพ2015 นัดชิงชนะเลิศ ที่สนามศุภชลาศัย เมื่อวันเสาร์ที่ 26 ธ.ค.58 เวลา 18.30 น. เกมนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลถ้วยน็อคเอ้าต์ "ช้าง เอฟเอคัพ2015" ซึ่งเป็นการพบกันระหว่าง "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พบ "กิเลนผยอง" เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด โดยเกมคู่นี้ถ่ายทอดสดผ่านทางช่องทรูสปอร์ต 2 , ทรูสปอร์ตเอชดี2 และ ทรูโฟยู โดยทีมแชมป์จะได้รับเงินรางวัล 5 ล้านบาท พร้อมโทรฟี่แชมป์ ส่วนรองแชมป์จะได้รับเงินรางวัล 1 ล้านบาท
 
                 

แฟนคลั่งเดินทางมารอลุ้นตั๋วตีสอง


 
         บรรยากาศก่อนเริ่มเกมบริเวณหน้าสนามศุภชลาศัยคึกคักตั้งแต่ช่วงบ่าย แฟนบอลทั้งสองทีมต่างทยอยกันเดินทางตบเท้าเข้าสู่สนาม ซึ่งในส่วนของตั๋วเข้าชมที่ถูกจำหน่ายหมดเกลี้ยงไปก่อนหน้านี้เรียบร้อยแล้ว แต่ทางหนึ่งในผู้สนับสนุนการแข่งขันอย่าง กาแฟเบอร์ดี้ ได้จัดเคมเปญพิเศษ ซื้อกาแฟเบอร์ดี้ 5 กระป๋อง รับตั๋ว 1 ใบ แบ่งโซนของเอสซีจี เมืองทองฯ และบุรีรัมย์ ฝั่งละ 150 ใบ รวม 300 ใบ และตั๋วจำนวน 300 ใบนี้จะได้ลุ้นจับหางบัตรเป็นเจ้าของเสื้อทีมชาติไทยสีน้ำเงินพร้อมลายเซ็นของ พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา, ธนบูรณ์ เกษารัตน์ และ ชนาธิป สรงกระสินธ์ จำนวน 10 รางวัล ในช่วงพักครึ่งของการแข่งขันด้วย


 
         ผู้สื่อข่าวสยามกีฬาได้รับการเปิดเผยจาก "น้องเก็ต" เด็กหนุ่มจากจ.กำแพงเพชร เปิดเผยว่า ตนได้เดินทางมาจากบ้านเกิดตั้งแต่เวลา 02.00 น. ของคืนวันที่ 25 ธ.ค ที่ผ่านมา เพื่อหวังจะมาลุ้นรับตั๋วที่หน้าสนามและได้รับบัตรเข้าชมสมใจ
 
 
 

ระดมจนท.1,000 นายคุมเข้มความปลอดภัย


 
         ในส่วนของมาตรการรักษาความปลอดภัยในเกมนี้ว่า ทางฝ่ายจัดการแข่งขันฯได้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่รปภ.,เจ้าหน้าที่ตำรวจจากสน.ปทุมวัน และพื้นที่ใกล้เคียง ทั้งสิ้นกว่า 250 นาย รวมถึงมีการนำสุนัขตำรวจเข้ามาร่วมดูแลความเรียบร้อย เพื่อช่วยกันดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างหนาแน่น ทั้งนี้ได้มีการแยกโซนทางเดินและที่นั่งของแฟนบอลทั้งสองทีม เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะกัน ซึ่งอาจก่อให้เกิดความรุนแรงและบานปลาย
 

                  
ตั้งจอยักษ์ 2 จุดรองรับแฟนไร้ตั๋ว

 

 
         พร้อมกันนี้ฝ่ายจัดการแข่งขันฯ ยังได้มีการติดตั้งจอยักษ์แอลอีดี ไว้บริเวณหน้าสนาม 2 จุด เพื่อรองรับแฟนบอลที่ไม่มีตั๋วเข้าชมเกม บริเวณใกล้โซนเชียร์ของแฟนบอลทั้งสองฝั่ง ขณะเดียวกัน "ช้าง" ได้จัดขบวน "โร้ดโชว์" เปอร์กาชั่น โชว์ เพื่อเป็นการสร้างสีสันให้บรรยากาศคึกคักเป็นการโหมโรงก่อนเกมบิ๊กแมตช์
              
          
  

กิเลน-บุรีรัมย์ สักการะ "ศาลหลวงศุภชลาศัย"

 

 
         จากนั้นเวลา 16.30 น. นักเตะเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด และบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้เดินทางมาถึงสนามศุภชลาศัย โดยได้รับเสียงปรบมือและให้การต้อนรับจากแฟนบอลทั้งสองทีมเป็นอย่างดี ซึ่งนักเตะทั้งสองทีมได้เข้าสักการะศาลหลวงศุภชลาศัย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่คู่กับสนามแห่งนี้ เพื่อถือเป็นการเอาฤกษ์เอาชัยและเพื่อความเป็นศิริมงคลก่อนลงทำการแข่งขัน
 
             
 

ขนลุก! "ดราแกน"ปลุกใจแข้งกิเลนก่อนชิง
 

              
         ก่อนเริ่มเกมผู้สื่อข่าวสยามกีฬาได้รับรายงานว่า ดราแกน ทาลายิช กุนซือเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ได้มีการพูดคุยกับนักเตะและวางแท็คติคก่อนลงสนาม ซึ่งเฮดโค้ชชาวเซิร์บได้ปล่อยวลีเด็ดปลุกใจลูกทีมก่อนดวลแข้งนัดชิงฯกับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อย่างน่าสนใจว่า "ถ้าคุณอยากเป็นตำนาน คุณก็แค่ใส่ชื่อของคุณเข้ามา เพื่อให้ทุกคนจดจำชื่อของคุณตลอดไป"


     
พิธีการก่อนแข่งยิ่งใหญ่อลังการ

 
         การแข่งขันจะเริ่มขึ้นนั้น ได้รับเกียรติจาก พันเอก วรวุฒิ ทองศรีงาม เลขาธิการสมาคมฟุตบอลฯ พร้อมด้วย ดร.องอาจ ก่อสินค้า ประธานบริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด หรือ ทีพีแอล, คุณวิเชฐ ตันติวานิช ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน), ผู้แทนจากการกีฬาแห่งประเทศไทย, ผู้แทนจากกรมพลศึกษา พร้อมผู้ร่วมสนับสนุนอย่าง คุณอารักษ์ พรประภา กรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด, คุณกิตติยา สุขสุด Birdy Brand Manager ร่วมจับมือกับนักกีฬาทั้งสองทีม ทั้งนี้ ทางด้าน พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์ กัปตันทีมบางกอกกล๊าส เอฟซี ในฐานะทีมแชมป์เก่าเป็นผู้เชิญถ้วยรางวัลเพื่อมอบให้กับ คุณวิเชฐ ตันติวานิช เพื่อวางบนแท่นรางวัลก่อนเกมจะเริ่ม


     
"กามา" ส่งชุดใหญ่ "ดีโอโก้" คู่ "มาเชน่า"


 
         อเล็กซานเดอร์ กามา กุนซือใหญ่ "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ส่งผู้เล่นชุดใหญ่ลงบู๊ครบทั้ง 11 ตัว ประกอบด้วย ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (ผู้รักษาประตู), แนวรับ 4 ราย ธีราทร บุญมาทัน, อันเดรส ตูเนซ, กรวิทย์ นามวิเศษ และ สุรีย์ สุขะ, กองกลาง 4 ราย มี โก ซุลกิ, สุเชาว์ นุชนุ่ม (กัปตันทีม), จักรพันธ์ แก้วพรม, อนาวิน จูจีน ส่วนคู่หน้าเป็น จิลแบร์โต้ มาเซน่า กับ ดีโอโก้ หลุยส์ ซานโต


     
"ดราแกน" เก็บดัสกรสำรอง, "มุ้ย-คลีตัน" คู่หอก


 
         ขณะที่ ดราแกน ทาลายิช กุนซือใหญ่ชาวโครแอตของทีม "กิเลนผยอง" เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ยังไม่ส่ง ดัสกร ทองเหลา กองกลางกัปตันทีมที่ยังไม่สมบูรณ์ มีชื่อเป็นแค่ตัวสำรอง ขณะที่ สารัช อยู่เย็น ติดโทษแบน หมดสิทธิ์ลงสนาม ส่วนคู่หอกยังคงเป็นตัวทีเด็ดอย่าง "มุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา กับ คลีตัน ซิลวา ผู้นำดาวซัลโว 6 ประตู ในรายการนี้นำทัพ


 
         11 ผู้เล่นตัวแรกของ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ประกอบด้วย กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ (ผู้รักษาประตู), แนวรับ 4 ราย ปิยพล ผานิชกุล, นาโออากิ อาโอยามะ, คิม ดอง จิน และ อาทิตย์ ดาวสว่าง, แผงมิดฟิลด์ประกอบด้วย เสกสิทธิ์ ศรีใส, มาริโอ ยูรอฟสกี้, กษิดิ์เดช เวทยาวงศ์ และ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ส่วนคู่หน้าจัดเต็ม ทั้ง "มุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา ที่ยิง 15 ประตู ในศึก เอฟเอ คัพ นับจากปี 2009 รวมถึง คลีตัน ซิลวา ผู้นำดาวซัลโว 6 ประตู ในรายการนี้

 

         ออกสตาร์ตในครึ่งแรก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่อยู่ในชุดขาวล้วนเป็นฝ่ายเขี่ยลูกบุกจากซ้ายไปขวา น.1 บุรีรัมย์ได้ลุ้นก่อน จิลแบร์โต้ มาเซน่า เปิดบอลจากซ้าย บอลมาเข้าหัว ดีโอโก้ หลุยส์ ซานโต ได้โขกเน้นๆ แต่ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ นายด่านเอสซีจี เมืองทอง ยังบินปัดออกหลังได้ทัน

 
         น.2 เอสซีจี เมืองทองทำเกมรุกสวนกลับเร็ว คลีตัน ซิลวา จะกระชากขึ้นทางริมซ้าย แต่ยังถูกสกัดออกข้างได้ก่อน


 
         น.3 ดีโอโก้ หลุยส์ ซานโต ไปทำฟาวล์ คิม ดอง จิน ที่ริมเส้นซ้าย ผู้ตัดสินญี่ปุ่นเป่าให้กิเลนผยองได้ฟาวล์


 
         น.5 บุรีรัมย์เคาะบอลเพื่อหวังโจมตีเข้าทำทางริมเส้น แต่บอลสุดท้ายวิงแบ็กของเอสซีจี เมืองทอง ยังเคลียร์สถานการณ์ได้หมด


 
         น.12 คลีตัน ซิลวา เบียดแย่งบอลจากแนวรับบุรีรัมย์ที่หน้ากรอบเขตโทษ ก่อนทำท่าซัดไกล แต่ยังถูกเสียบล้มไปก่อน ผู้ตัดสินยังปล่อยให้เกมไหลต่อไป


 
         น.14 ธีรศิลป์ แดงดา ทำชิงกับ มาริโอ ยูรอฟสกี้ ในจังหวะที่จะกระชากลากจี้เข้าหากรอบ แต่จังหวะสุดท้ายยังโดนดักทางเอาไว้ได้


 
         น.15 ดีโอโก้ หลุยส์ ซานโต หนุน นาโออากิ อาโอยามะ ในจังหวะที่จะเล่นบอลกลางอากาศ ผู้ตัดสินเป่าให้ฟาวล์กับกิเลนผยองที่กลางสนาม


 
         น.17 จากจังหวะที่เอสซีจี เมืองทอง ฟ้องเอาฟาวล์ที่กลางสนาม แต่ไม่เป็นผล บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด โต้กลับเร็ว ก่อนที่ สุเชาว์ นุชนุ่ม จะได้ซัดหักข้อนอกกรอบ บอลยังเฉียดเสาออกไป


 
         น.22 ถือเป็นโอกาสทองของ "กิเลนผยอง" ที่น่าจะได้ประตูออกนำจากจังหวะหลุดเข้าไปยิงของ คลีตัน ซิลวา แต่บอลยังติดขาผู้เล่นบุรีรัมย์ที่สกัดทิ้งทัน
 

 
         น.25 ธีราทร บุญมาทัน แบ็กซ้ายบุรีรัมย์ได้ซัดมุมแคบริมซ้าย แต่บอลยังติดเซฟ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ที่ทุบทิ้งเอาไว้ได้


 
         น.28 กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ยังโชว์ซูเปอร์เซฟอย่างต่อเนื่อง จังหวะป้องกันลูกสกัดของเพื่อนร่วมทีมที่เกือบทำเข้าประตูตัวเอง แต่กวินทร์ยังเซฟหนึบ


 
         น.32 อนาวิน จูจีน ลักไก่ยิงเร็วจากริมเส้นซ้าย แต่กวินทร์ยังบินได้ โดดปัดออกหลังได้อย่างยอดเยี่ยม


 
         น.39 อาทิตย์ ดาวสว่าง แนวรับกิเลนผยองวางยาวจากแดนหลังเพื่อหวังให้แนวรุกตามเข้าทำ แต่บอลยังเลยไปไกล


 
         น.41 ธีรศิลป์ แดงดา หลุดเข้ามุมแคบริมซ้าย หวังจ่ายเข้ากลางให้เพื่อนเข้าทำแต่ยังช้าไป โดนบีบเร็ว


 
         น.42 อนาวิน จูจีน โดนใบเหลืองเป็นรายแรกของเกมหลังจากไปเหนี่ยวรั้ง กษิดิ์เดช เวทยาวงศ์


         น.43 บุรีรัมย์ได้จุดโทษ ปิยพล ผานิชกุล แนวรับเอสซีจี เมืองทอง หวังจะตามไปสกัดบอลจาก ดีโอโก้ หลุยส์ ซานโต ในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินชาวญี่ปุ่นเป่าเป็นจุดโทษทันทีและเป็น อันเดรส ตูเนซ ที่รับหน้าที่สังหารเข้าไป ช่วยให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ขึ้นนำ 1-0 ในครึ่งเวลาแรก

 

         กลับมาลุยต่อในครึ่งเวลาหลังทั้งสองทีมยังไม่มีการเปลี่ยนตัวผู้เล่น น.50 บุรีรัมย์โหมเข้าใส่ทันทีและก็มาได้เม็ดสองต่อเนื่อง ดีโอโก้ หลุยส์ ซานโต เปิดจากขวาบอลมาเข้าหัว โก ซุลกิ โหม่งเสยส่งบอลย้อยข้ามมือ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ เข้าไปซุกก้นตาข่ายเสาไกลเข้าไป ช่วยให้บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ออกนำเป็น 2-0


 
         น.54 บุรีรัมย์ได้ฟรีคิกนอกกรอบเขตโทษในระยะหวังผล ธีราทร บุญมาทัน ปั่นด้วยซ้ายบอลยังเหินโด่งข้ามคานออกไปไกล


 
         น.56 โก ซุลกิ โหม่งกระแทกแย่งกับ คิม ดอง จิน จนทำให้เกิดบาดเจ็บทั้งคู่ โก ซุลกิ หางคิ้วขวาบวม ส่วน คิม ดอง จิน มีแผลแตกเล็กน้อยต้องปฐมพยาบาลด่วน


 
         น.63 สุเชาว์ นุชนุ่ม แซะใส่ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ที่ริมเส้นขวา ผู้ตัดสินเป่าให้ฟาวล์กับกิเลนผยองพร้อมกับมีการเปลี่ยนตัวผู้เล่นรายแรก ถอด เสกสิทธิ์ ศรีใส ออก แล้วส่ง ชนานันท์ ป้อมบุบผา กองหน้าลงเล่นแทน


 
         น.70 เอสซีจี เมืองทอง บุกเพลินแบบไม่ห่วงหลังบ้าน ทำให้บุรีรัมย์ดักโต้กลับ และเป็น จักรพันธ์ แก้วพรม ที่ปั่นด้วยขวานอกกรอบ ส่งบอลโค้งพุ่งเสียบหน้าต่างเสาไกลเข้าไปอย่างสวยงาม ทำให้บุรีรัมย์ออกนำ 3-0


 
         น.75 มาริโอ ยูรอฟสกี้ โดนใบเหลืองจากการทำฟาวล์ นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม

 

         น.78 เอสซีจี เมืองทอง โวยผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 1 ที่ไม่ยอมให้ประตูตีไข่แตกจากจังหวะบอลขลุกขลิกหน้าประตูบุรีรัมย์ ซึ่งลูกฟุตบอลได้ผ่านข้ามเส้นปากประตูไปแล้ว แต่ไลน์ 1 ไม่ให้ประตู


 
         น.80 เอสซีจี เมืองทอง มาได้ประตูตีไข่แตกจากจังหวะโหมรุกใส่ในช่วงท้ายเกม และเป็น มาริโอ ยูรอฟสกี้ ที่ซัดเน้นๆ ในกรอบเขตโทษ ช่วยให้เอสซีจี เมืองทอง ตีไข่แตกไล่มาเป็น 1-3    


 
         น.89 มาริโอ ยูรอฟสกี้ โดนใบเหลืองที่ 2 เป็นใบแเดง จากจังหวะที่เข้าข้างหลังใส่ ดีโอโก้ หลุยส์ ซานโต ทำให้เอสซีจี เมืองทอง เหลือผู้เล่น 10 ตัว เวลาที่เหลือไม่มีประตูเกิดขึ้น จบเกม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ชนะ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด 3-1 คว้าแชมป์ช้าง เอฟเอ คัพ 2015 ไปครอง และถือเป็นแชมป์สมัยที่ 4 ของพวกเขาด้วย


 
         รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม


 
         บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน 7.5, ธีราทร บุญมาทัน 8, อันเดรส ตูเนซ 8, กรวิทย์ นามวิเศษ 8, สุรีย์ สุขะ 8, โก ซุลกิ 8.5 (แทน น.76 เชาว์วัตน์ วีระชาติ 6), สุเชาว์ นุชนุ่ม 8, จักรพันธ์ แก้วพรม 8, อนาวิน จูจีน 7.5(แทน น.72 นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม 6.5), จิลแบร์โต้ มาเซน่า 8, ดีโอโก้ หลุยส์ ซานโต 8.5 (แทน น.90+2 อานนท์ อมรเลิศศักดิ์-)


 
         เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด : กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ 7, ปิยพล ผานิชกุล 7, นาโออากิ อาโอยามะ 7, คิม ดอง จิน 7, อาทิตย์ ดาวสว่าง 7, เสกสิทธิ์ ศรีใส 6.5 (แทน น.64 ชนานันท์ ป้อมบุบผา 6.5), มาริโอ ยูรอฟสกี้ 7, กษิดิ์เดช เวทยาวงศ์ 6.5 (แทน น.81 สุพร ปีนะกาตาโพธิ์ 6), ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ 7, ธีรศิลป์ แดงดา 6.5, คลีตัน ซิลวา 7


 
         ทำเนียบแชมป์ฟุตบอลถ้วย ช้าง เอฟเอ คัพ


         ปี               แชมป์                             รองแชมป์
         2009  การท่าเรือแห่งประเทศไทย     บีอีซี เทโรศาสน
         2010  ชลบุรี เอฟซี                        เมืองทอง ยูไนเต็ด
         2011  บุรีรัมย์ พีอีเอ                       เมืองทอง ยูไนเต็ด
         2012  บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด                    อาร์มี่ ยูไนเต็ด
         2013  บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด                    บางกอกกล๊าส เอฟซี
         2014  บางกอกกล๊าส เอฟซี              ชลบุรี เอฟซี
         2015  บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด                    เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด

ที่มา


Author : Actfc

    

Recommend Technology | Resolution 1024 x 798 pixel
2012 THE OFFICIAL SITE OF ASSUMPTION THOBURI FOOTBALL CLUB. All Right Reserved
VISITOR 23,095 The site was created by | I Biz Avenue